ฉันภาวนาขอให้มีคนมาช่วยดึงคุณคานส์ออกไป ใครก็ได้ ตอนนี้ฉันเกร็งไปทั้งตัวจนฉี่จะลาดอยู่แล้ว
“เธอชื่ออะไร”
“……” ทะ ทำไงดี ฉันจะตอบคุณคานส์ว่าชื่ออะไรดี ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนั้นฉันได้แทนตัวเองกับเขาว่าอลิชหรือเปล่าด้วยสิ
“ฉันถามทำไมถึงไม่ตอบ” ครั้งนี้เขาทำเสียงดุใส่ฉัน
“ชะ ชื่อ ชื่อ….”
“นายครับคุณธนามารอแล้วครับ” ในขณะที่ฉันกำลังเกร็งจนฉี่จะลาดอยู่นั้น เสียงของใครสักคนก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ เขารีบวิ่งมาหาคุณคานส์ราวกับมีธุระด่วน
พระเจ้าช่วยฉันแล้ว!!
“ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันรีบสับขาเดินฉับๆ ไม่สนใจเลยว่าจะถูกสายตาของคุณคานส์มองแบบไหน ตอนนี้ขอเพียงแค่ได้เดินออกมาไกลจากเขา
เมื่อเดินเข้ามาในลิฟต์ได้แล้วฉันก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก เหตุการณ์เมื่อครู่มันยิ่งตอกย้ำว่าฉันควรจะลาออก
เมื่อเดินมาถึงที่โต๊ะทำงานฉันวางของไว้แล้วรีบไปเขียนใบลาออกไปยื่น เสร็จแล้วก็กลับมาเก็บของที่โต๊ะ
“อลิชเก็บของทำไม” โมเมเธอคืิเพื่อนในบริษัทที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ กับฉัน เธอเอ่ยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่เก็บของ
“ฉันลาออกแล้วน่ะ” ฉันตอบก่อนจะยิ้มแห้งแล้วก้มหน้าเก็บของต่อ
“ห๊ะ! เธอลาออกทำไม มีปัญหาอะไรหรือเปล่าอลิช”
“ปะ เปล่าๆ ฉันแค่อยากกลับไปทำงานใกล้บ้านมากกว่า จะได้ดูแลพ่อด้วย”
“แบบนี้ฉันจะคุยกับใครล่ะ เธอไม่ลาออกไม่ได้หรอ” โมเมเธอทำหน้าเศร้า เพราะปกติตอนอยู่ที่บริษัทเรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยที่สุด ถึงจะเพิ่งรู้จักยังไม่ถึงปีแต่เธอก็คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน
“ฉันบอกพ่อเอาไว้แล้วละสิ” ฉันอ้างเหตุผลต่างๆ นาๆ ไม่อยากจะทิ้งเพื่อนแบบนี้ แต่ฉันมีเหตุผลที่ไม่สามารถบอกใครได้ เหตุผลที่ไม่สามารถทำงานที่นี่ได้
ฉันหันหน้ามาเก็บของอีกครั้ง แล้วเห็นว่าคุณคานส์กำลังเดินมาทางนี้กับใครสักคน เมื่อเห็นหน้าเขาฉันก็รีบนั่งลงแอบที่ใต้โต๊ะทำงานทันที ร่างกายมันเป็นไปเองฉันไม่ได้ตั้งใจ แถมพอฉันลงมาแอบใต้โต๊ะแบบนี้ก็ทำให้ถูกพนักงานคนอื่นๆ ในแผนกมองอย่างแปลกใจ โดยเฉพาะโมเม
“อลิชเธอลงไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น”
“…..” ฉันส่ายหน้ารัวๆ ใครจะกล้ายืนคืนหากคุณคานส์เดินมาที่โต๊ะแล้วฉันจะทำยังไง
“อลิชเธอเป็นอะไรของเธอ กลัวอะไร”
“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ ?”
สะ เสียงนั่น เสียงคุณคานส์ เสียงของเขามันใกล้มาก เหมือนเขากำลังถามโมเมอยู่ ต้องใช่แน่ๆ เพราะตอนนี้โมเมก้มมองมาที่ฉัน เห็นแบบนั้นฉันจึงรีบส่ายหน้ารัวๆ เพื่อไม่ให้โมเมเธอพูดชื่อฉัน
ฉันคิดว่าคุณคานส์ต้องจำชื่อของฉันได้แน่ๆ บ้าที่สุด! ทำไมเขาต้องทำเหมือนสนใจขนาดนี้ด้วยล่ะ
“พอดีฉันคุยโทรศัพท์อยู่น่ะค่ะท่านประธาน” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินโมเมบอกแบบนั้น
ไม่ได้ยินเสียงของคุณคานส์พูดต่อ สักพักโมเมก็ก้มลงมาบอกฉัน “คุณคานส์ไปแล้ว”
ฉันค่อยๆ ยืนคุณ และครั้งนี้ก็ถูกทุกคนมองด้วยความสงสัยหนักกว่าเดิม
“เธอปลื้มคุณคานส์ถึงขนาดไม่กล้ามองหน้าเขาจนต้องลงไปแอบใต้โต๊ะเชียวหรอ” โมเมถาม
โชคดีที่โมเมคิดแบบนั้นไม่ได้คิดไปเป็นอื่น แต่มันก็ไม่แปลกที่เธอจะคิดแบบนั้น เพราะพนักงานผู้หญิงในบริษัทหากได้เห็นคุณคานส์ใกล้ๆ ก็มักจะเสียอาการทุกราย รวมทั้งฉัน แต่มันไม่ใช่กับเวลานี้