จอมทัพถอนหายใจ ผู้หญิงคนนี้คิดว่าคนอย่างเขาที่ผ่านเล่ห์เหลี่ยมผู้คนมามากจะหลอกง่ายขนาดนั้นเชียว กระดูกมันคนละเบอร์กัน แต่ที่เขาสนใจแล้วล่อลวงเธอมาที่ไร่ทับตะวัน เพราะแอ็กติงในการแสดงของเธอมันเข้าตา จึงตั้งใจจะทาบทามมาเล่นละครตบตามารดา คุณนายดอกปีบจะได้เลิกจับคู่ให้ลูกชายสักที
ฟากศศิกาญจน์เองกลับรู้สึกใจคอไม่ดีที่ถูกจับได้ ยิ่งสายตาดุคมที่จ้องเอาๆ ราวกับเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า เขารู้ทันเธอ ใบหน้าหญิงสาวจึงฉายแววกังวลออกมา พร้อมกับอาการเสียวสันหลังวาบ
เธอเองก็รู้สึกผิดที่ไปหลอกลวงเขา แต่เวลานั้น สถานการณ์มันบีบบังคับ ถ้าเธอไม่ตัดสินใจทำแบบนั้น ไอ้พี่เลี้ยงหื่นกามนั่นมาเจอเข้า มันต้องลากตัวเธอกลับไปด้วยแน่ ที่สำคัญ ยิ่งห่างไกลสายตาบิดาแบบนั้น เกรงว่ามันจะไม่ได้พาเธอกลับไปที่บ้านสวนผัก แต่พาไปทำอย่างอื่นจนป่นปี้เสียมากกว่า ในเมื่อคิดจะหนีแล้วก็ต้องหนีให้รอด
ศศิกาญจน์พยักหน้ารับช้าๆ “ถ้าคุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันหลอกคุณ ทำไมถึงยอมให้ฉันขึ้นรถมาด้วยคะ”
จอมทัพยิ้มรับ จ้องกลับคนถาม “ผมสนใจคุณ”
“สนใจฉัน!”
แววตาเจ้าเล่ห์ที่จ้องมาทำให้ศศิกาญจน์ตะลึงงัน เปิดระบบป้องกันตัวเองทันที มือขวารีบปลดล็อกเข็มขัดนิรภัย มือซ้ายจับกระเป๋าไว้แน่น ที่ตั้งใจจะขอโทษชายหนุ่มถูกกลืนลงคอไปก่อน มือบางรีบเปิดประตูผละลงจากรถ ทว่า อากัปกิริยาทั้งหมดของเธออยู่ในสายตาแหลมคมของเขาตลอด พ่อเลี้ยงจอมทัพที่นั่งอยู่ในรถหรูด้วยท่าทีสบายใจ คว้าหมับเข้าที่แขนเรียวกลมกลึงที่กำลังจะผลักประตูรถยนต์เพื่อลงไป
“เดี๋ยว! นั่นเธอจะรีบไปไหน ใครอนุญาตให้ลงไปฮะ!”
ศศิกาญจน์มองแขนเรียวที่ถูกเขาบีบเอาไว้แน่น เธอต้องรอให้เขาอนุญาตด้วยหรือไงถึงจะลงไปได้
“ปล่อยแขนฉันนะคะ ฉันขอโทษก็ได้ เรื่องที่วิ่งตัดหน้ารถคุณ แล้วแกล้งทำว่าถูกคุณชน แต่ฉันมีความจำเป็นจริงๆ ถึงได้ทำลงไปอย่างนั้น”
ถ้าอย่างนั้น จอมทัพก็ยิ่งอยากรู้เหตุผล เขามองเครื่องแต่งกายของเธอที่ดูเหมือนกำลังจะไปสัมภาษณ์งาน แต่ทำไมถึงกล้าตัดสินใจวิ่งมาตัดหน้ารถของเขา
“คงไม่พ้นอยากได้เงิน”
ศศิกาญจน์ไม่อยากต่อปากต่อคำ คร้านจะเถียงกับคนแปลกหน้า ยิ่งสายตาของเขานั้นทำให้หญิงสาวจับความรู้สึกของอีกฝ่ายไม่ถูกเลย รู้เพียงแต่ว่าไม่ชอบสายตาที่มองมาอย่างรู้เท่าทัน และพยายามไล่ต้อนหาความจริงออกจากปากเธอ ทว่าไม่มีเหตุผลที่เธอต้องมาอธิบายปัญหาส่วนตัวให้คนแปลกหน้ารับฟัง เวลานี้ สิ่งที่ต้องทำก็คือรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด และเดินทางไปสัมภาษณ์งานที่ไร่ทับตะวันให้ทันเวลานัดบ่ายสองโมง
“ว่าไง ที่ผมถาม”
“ใช่ค่ะ ตอนนี้ ฉันต้องการเงินจริงๆ แบบที่คุณพูดนั่นแหละ แต่มันก็เป็นเรื่องของฉัน ขอโทษอีกครั้งละกันที่ทำให้คุณต้องเสียเวลา ฉันต้องรีบไปแล้วค่ะ”
มือเรียวเอื้อมไปทำท่าจะเปิดประตูเพื่อลงจากรถ ทว่า เจ้าของรถหรูมือไวกว่ามาก เขากดล็อกประตูรถทันที ทำให้ศศิกาญจน์ตกใจมากจนแสดงออกมาทางสีหน้า แล้วหันกลับไปมองชายหนุ่มด้วยแววตาขุ่นเคือง ในขณะที่มือขวาจับกระเป๋าสะพายไว้แน่น สายตาคู่หวานมองการกระทำเขาอย่างระแวดระวังเมื่อยิ่งเห็นรอยยิ้มกริ่มแฝงเล่ห์มองมาอย่างสำรวจ
“คุณเป็นคนแบบไหน? ถึงวิ่งเข้ามาให้รถชน ถ้าเบรกไม่ทัน ผมคงต้องซวย ได้ขึ้นศาลคดีขับรถชนคนตายแน่ คุณหาความซวยมาให้ผม แล้วก็คิดจะลงจากรถผมไปง่ายๆ โดยไม่บอกอะไรเลย มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ?” พ่อเลี้ยงจอมทัพเอ่ยพร้อมกับอาการสีหน้าขรึมขึ้นเรื่อยๆ พาเอาดวงหน้าสวยซีดเผือด ชะงักกึก ไม่คิดว่าจะวิ่งหนีเสือหื่นหิวโซมาเจอกับจระเข้ตัวโตที่พูดไม่รู้เรื่อง
ศศิกาญจน์ย้อนถามเมื่อฟังเขาพูดจบ “คุณอยากรู้เหตุผลของคนแปลกหน้าไปทำไมกันคะ เอาเป็นว่าฉันขอโทษ ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรทำแบบนั้นเลย ทีนี้ คุณปลดล็อกประตูให้ฉันเถอะค่ะ ฉันมีนัดสัมภาษณ์งานที่ไร่ทับตะวัน”
คำว่าไร่ทับตะวันที่หลุดมาจากปากกระจับชุ่มฉ่ำน่าจุมพิต ทำให้พ่อเลี้ยงจอมทัพชะงักกึก สาวน้อยตรงหน้ากำลังจะหลอกอะไรเขาอีก พ่อเลี้ยงหนุ่มจึงมองเธออย่างไม่แน่ใจ
“พูดใหม่ซิ จะไปสัมภาษณ์งานที่ไหน?”
ศศิกาญจน์สบตาเขา แล้วตอบเสียงหนักแน่น “ไร่ทับตะวันค่ะ ฉันมีสัมภาษณ์งานที่นั่นช่วงบ่ายวันนี้ค่ะ”
จอมทัพจ้องดวงหน้าใสกระจ่างไม่มีที่ติ น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่แฝงด้วยอำนาจดังขึ้น พร้อมกับสำรวจหาพิรุธจากสาวตรงหน้า “ที่นี่ คือไร่ทับตะวัน”
เธอสบตาคู่คม “อะไรนะคะ”
แล้วตะลึงงัน ไม่คิดว่าตนเองจะเผลอหลับไปนานขนาดนั้น ดวงหน้าหวานสวยเลิกคิ้วสูงมองใบหน้าหล่อจัด ทว่าเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้ม แล้วกวาดสายตาออกไปมองบรรยากาศนอกรถยนต์ ภาพขุนเขาที่โอบล้อมทั้งสี่ทิศ เหมือนที่เธอเคยเห็นในเพจของไร่ทับตะวัน ก่อนจะผลิยิ้มออกมาด้วยอาการดีใจ
“คุณพูดจริงๆ เหรอ ไม่ได้หลอกฉันใช่ไหมคะ ที่นี่คือไร่ทับตะวันจริงๆ”
ดวงตาของพ่อเลี้ยงหนุ่มส่อประกายวาบขึ้นอย่างครุ่นคิด เขางงกับท่าทางดีอกดีใจของสาวตรงหน้า ก่อนจะจ้องลึกไปในดวงตาแวววาวที่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา ผิดกับแววตาหม่นหมองเมื่อครู่ไปถนัดตา ทว่ามือแกร่งที่กระชับแขนเรียวบางไว้นั้นไม่ได้ปล่อยแต่อย่างใด ซ้ำยังบีบแขนเรียวเล็กแรงขึ้นกว่าเก่า
เสียงทุ้มเข้มขึ้น “ใช่ ที่นี่ไร่ทับตะวัน เธอฟังไม่ผิดหรอก”
จอมทัพกวาดตามองสำรวจเครื่องหน้าสวยหวาน พลางคิดถึงตำแหน่งงานที่ทางไร่เปิดรับสมัคร ไม่เห็นจะมีตำแหน่งใดเหมาะกับเธอ หรือเธอคิดจะแต่งเรื่องอะไรหลอกเขาอีก
“คิดจะหลอกอะไรอีก หน้าอย่างเธอจะมาสัมภาษณ์งานประเภทไหนที่ไร่นี้ ดูทรงไม่ออกจริงๆ”
คนตัวโตที่มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรที่โอบล้อมด้วยขุนเขาแห่งนี้ไล่สายตาจากเครื่องหน้าสวยลงมาที่ลำคอระหง จนมาหยุดกึกบริเวณหน้าอกที่ดันเสื้อเชิ้ตสีขาวออกมาอย่างหาคำตอบให้กับความสงสัยของตนเอง ดูจากการแต่งกาย เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงเข้ารูปสีดำ ไม่น่าจะใช่ประเภทไก่หลง ไก่เล้าที่ไหน แต่ก็ไว้ใจไม่ได้หรอกผู้หญิงสมัยนี้