ตอนที่1 เปลี่ยนไป
"พี่ภัทรจะไปไหนเหรอคะ?"
เมื่อเห็นสามีแต่งตัวเตรียมพร้อมจะออกจากบ้าน ณิชาวีย์อดที่จะถามขึ้นอย่างแปลกใจเสียไม่ได้ เพราะวันนี้จิรภัทรดูดีและดูไม่ปกติเลยสักนิด
สายตาคู่คมหันมามองพร้อมกับชักสีหน้าไม่พอใจส่งให้ ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็ชอบทำตัวเหมือนเมียที่คอยตามจิกผัวจนน่าเบื่อแบบนี้เสมอ
"พี่มีนัดทานข้าวกับเพื่อน จะมาถามทำไมนักหนานะน่ารำคาญ"
คำตอบจากปากสามีไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ที่ณิชาวีร์จะต้องตกใจเลยแม้แต่นิด จิรภัทรก็พูดจากับเธอแบบนี้อยู่บ่อยครั้งจนรู้สึกชินชาซะแล้ว ไม่รู้เพราะสาเหตุใดที่ทำให้จิรภัทรเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เปลี่ยนไปเหมือนกับคนที่ไม่เคยรักกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเป็นคนตามจีบตามตื๊อเธอก่อนทั้งนั้น รู้สึกน้อยใจในคำพูดจาของสามีอยู่มาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเก็บซ่อนทุกอย่างเอาไว้ภายในใจเพียงเท่านั้น
"กลับกี่โมงเหรอคะ จะได้รอเปิดประตูให้"
"ไม่ต้องรอหรอก นอนไปก่อนเลย อยากกลับกี่โมงพี่ก็จะกลับเพราะพี่โตแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ"
จิรภัทรมองสำรวจตัวเองในกระจกเงาอีกครั้งจนพอใจ ฝ่ามือหนาถูกยกขึ้นมาก่อนจะรูดถอดเอาแหวนแต่งงานที่สวมใส่ติดกายออกจากนิ้วนางข้างซ้าย วางทิ้งไว้บนโต๊ะหน้ากระจกอย่างไม่ได้สนใจใยดี
ณิชาวีร์มองดูการกระทำของสามีอย่างรู้สึกอึ้ง รู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูกนัก
จิรภัทรจะออกไปพบใครกัน ทำไมวันนี้ถึงต้องถอดแหวนแต่งงานทิ้งแบบนี้ด้วย เครื่องประดับชิ้นสำคัญเพียงชิ้นเดียวที่ไม่ควรจะถอดมันออกจากนิ้วเลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็ทำเหมือนไม่ได้รู้สึกแยแส เหมือนสิ่งที่เพิ่งถอดทิ้งเมื่อครู่ไม่มีความสำคัญเลยแม้แต่นิด
ร่างสูงเดินผ่านหน้าของภรรยาไป ไม่มีคำพูดจาสั่งลาให้ได้ยินเลยสักคำ ณิชาวีร์มองตามแผ่นหลังกว้างจนเขาหายลับออกจากประตูห้องแต่งตัว ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะหันกลับไปมองแหวนแต่งงานที่ถูกถอดวางเอาไว้ที่หน้ากระจกเงานั้นอีกครั้ง เท้าเรียวเล็กเดินเข้าไปหยุดยืนใกล้ ๆ มือหยิบจับแหวนเกลี้ยงวงใหญ่ที่ฝังเพชรเม็ดเล็กขึ้นมาจ้องมองดู พร้อมกับสายตาก้มลงมองยังแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองอย่างอดไม่ได้ ทั้งที่เธอไม่เคยคิดจะถอดออกจากนิ้วเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแหวนแต่งงานหรือแหวนขอแต่งงาน ก็ยังคงอยู่บนนิ้วเรียวตั้งแต่วันที่จิรภัทรสวมใส่ให้กันแล้ว แต่ทำไมสามีของเธอถึงกล้าถอดแหวนออกจากนิ้วของตัวเองได้ เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้หรืออย่างไรว่าแต่งงานมีเมียเป็นคนที่มีเจ้าของหัวใจเรียบร้อยแล้ว ถ้าจะไม่อยากใส่มากขนาดนั้นก็ควรไปถอดเก็บไว้ในรถสิกลับบ้านมาค่อยใส่ก็ได้ ถอดให้พ้นสายตาของเธอยังจะดีกว่ามาทำให้เห็นซึ่ง ๆ หน้า และยังทำให้รู้สึกแย่กับความสัมพันธ์จนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย
"พี่ภัทรหมดรักณิแล้วหรือว่ายังไงคะ?" ณิชาวีร์ได้แต่ยืนจ้องมองแหวนในมืออย่างหน้าเครียด เพราะหลายเดือนมานี้สามีทำตัวเหินห่างจนน่าใจหาย ถ้าเธอไม่ถามเขาจะไม่ยอมพูดคุยด้วยก่อน แม้แต่เวลาที่เธอเป็นคนถามก่อน คำตอบที่ได้ก็มักจะไม่ลื่นหูเลยสักครั้งเดียว อะไรถึงทำให้จิรภัทรไม่เหมือนเดิมได้มากขนาดนี้กันนะ
@ร้านอาหารกึ่งผับบาร์
สถานที่ที่จิรภัทรหนีเมียออกมาทำตัวลัลล๊าเหมือนหนุ่มโสดในค่ำคืนนี้ ตรงหน้าของเขาคือสาวสวยที่เป็นถึงนางแบบสุดฮอต "ณัฐนิชา" เธอไปเฉิดฉายโกอินเตอร์ที่ฝรั่งเศสมานานหลายปีและตอนนี้กำลังจะกลับมาอยู่เมืองไทยอีกครั้งแล้ว
"ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณภัทรจะออกมาดินเนอร์กับนิชาในคืนนี้ได้"
"ก็ต้องมาอยู่แล้ว นิชาอุตส่าห์กลับมาทั้งทีนี่นา ผมดีใจนะครับที่นิชายังนึกถึงผมอยู่ คิดว่าลืมกันไปแล้วซะอีก"
"ฮ่า ๆ ๆ คงลืมไม่ได้หรอกค่ะ ก็คนสำคัญนี่นาใครจะลืมลงได้ล่ะ จริงไหมคะ?"
"พูดแบบนี้ เหมือนกับกำลังสร้างความหวังให้ผมเลยนะครับนิชา"
สายตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มอย่างรู้สึกดี ริมฝีปากคลี่ยิ้มส่งให้เวลาที่อีกคนจ้องมองสบตากลับ
"แต่คุณภัทรก็แต่งงานไปแล้วนี่นา นิชาคงกลับมาช้าเกินไปสินะคะ"
เธอรับรู้เรื่องของเขาดีทุกอย่าง รู้ว่าจิรภัทรลั่นระฆังวิวาห์ไปแล้วเมื่อสองปีก่อนหน้า เขาไม่ใช่หนุ่มโสดที่เธอจะกลับมาคบหากับเขาได้เหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง
"แต่งแล้วยังไงเหรอครับ ผมก็โสดได้ ถ้าหากว่าผมต้องการจะเป็นแบบนั้น"
สองสายตาจับจ้องมองหน้ากันอย่างมีความหมายแอบแฝงอยู่ ความรู้สึกเก่า ๆ กำลังย้อนกลับเข้ามามีบทบาทในหัวใจของจิรภัทรขึ้นอีกหน ณัฐนิชาคือรักแรกที่เขาไม่อาจจะลืมเธอได้ แม้ว่าตอนนี้ตัวเองจะแต่งงานมีครอบครัวอยู่แล้วก็ตาม แต่ในใจลึก ๆ ก็ยังไม่เคยลืมผู้หญิงตรงหน้าได้เลยสักวัน เขาอาจจะดูเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวมาก แต่งงานกับอีกคนแต่ในใจก็ยังไม่ลืมคนในอดีต ทั้งที่พยายามแล้วแต่ก็ต้องยอมรับว่าณัฐนิชายังเป็นผู้หญิงที่เขาอยากกลับไปสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้งถ้าหากว่ามีโอกาสนั้นให้เลือก
"ทำเป็นพูดไปนะคะ สงสารภรรยาที่บ้านคุณ ถ้าเธอมาได้ยินเข้าคงจะเสียใจน่าดูเลยล่ะ"
"อย่าไปพูดถึงคนอื่นให้เสียบรรยากาศดีกว่านะครับ ผมมาดินเนอร์กับนิชา ขอให้ค่ำคืนนี้มีแค่เรื่องของเราสองคนก็พอนะ"
จิรภัทรตักอาหารใส่จานให้หญิงสาวอย่างเอาอกเอาใจ สายตาเขาโฟกัสอยู่แค่คนตรงหน้า ส่งยิ้มหวานให้ ชวนพูดคุยกันอย่างอารมณ์ดี เหมือนกับจะลืมไปแล้วว่ายังมีคนที่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าเมียนอนรอคอยกันอยู่
ณิชาวีร์นั่งดูหนังรอสามีอยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน เวลาผ่านไปเกือบจะถึงตีหนึ่งแล้ว แต่ทว่าสามียังไม่กลับเข้าบ้านมาสักที ใบหน้าสวยได้แต่ชะเง้อคอมองที่หน้าประตูครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกอย่างก็ยังคงเงียบกริบไม่เห็นเลยแม้แต่เงาของผู้เป็นสามี หญิงสาวนั่งดูซีรีย์ต่อเพื่อรอเวลาที่สามีจะกลับมา แต่รอจนแล้วจนเล่าเขาก็ยังคงไม่กลับมาให้เห็นหน้าเห็นตา ห่วงก็ห่วง ง่วงก็ง่วง จนสุดท้ายก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่อาจจะรู้ตัวสักนิดเลย