เช้าวันรุ่งขึ้น
ณิชาวีร์งัวเงียตื่นเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า เห็นป้าแม่บ้านกำลังจัดแจงอาหารเช้าไว้รอเจ้านายทั้งสอง หญิงสาวก็ยังคงมองออกไปยังหน้าประตูทางเข้าบ้านอยู่เช่นเดิม
“คุณภัทรกลับมาแล้วค่ะ กลับมาตั้งแต่ตีสองแล้ว”
กลับมาตั้งแต่ตีสอง แล้วเขาก็ปล่อยให้เธอนอนอยู่บนโซฟาแบบนี้ทั้งคืนน่ะเหรอ ไม่คิดจะปลุกหรือพาขึ้นไปบนห้องให้นอนสบาย ๆ เลยหรืออย่างไรกัน
ณิชาวีร์ได้แต่ฝืนยิ้มให้กับป้าแม่บ้านอีกครั้งอย่างเก็บอาการ ไม่อยากให้คนอื่นรับรู้ว่าเธอเสียใจกับเรื่องเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในเวลานี้เป็นอย่างมาก
“ทานข้าวเลยไหมคะคุณณิ อาหารเช้าพร้อมทานแล้วนะคะ”
“ยังหรอกค่ะป้า ณิขอขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะรีบลงมาทานค่ะ”
หญิงสาวเดินครุ่นคิดไปเรื่อย ชีวิตคู่ของเธอมีอะไรที่เหมือนเดิมอยู่อีกบ้างหรือเปล่านะ สามีที่น่ารักคนนั้นหายไปไหนแล้ว ทำไมเหลือเพียงแค่สามีที่เย็นชาให้ต้องอยู่ร่วมบ้านกันอย่างตอนนี้ได้
ประตูห้องนอนถูกผลักเข้าไป แอร์ที่เย็นฉ่ำกระทบเข้ากับร่างกายจนขนลุกซู่ แต่คนที่ทำให้เธอเป็นห่วงอยู่ครึ่งค่อนคืน เขากลับนอนหลับสบายบนเตียงกว้างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย เสี้ยวใบหน้าหล่อที่โผล่พ้นผ้าห่มขึ้นมา ณิชาวีร์จ้องมองพร้อมกับมีคำถามมากมายอยู่ในหัว ก่อนจะนำพาตัวเองเดินหายเข้าไปภายในห้องน้ำเงียบ ๆ อีกครั้ง
เสื้อผ้าที่จิรภัทรสวมใส่เมื่อคืนถูกถอดทิ้งเอาไว้อยู่บนพื้น ฝ่ามือเรียวก้มลงไปหยิบจับขึ้นมา กลิ่นเหล้าเตะจมูกก่อนอะไรเลย สงสัยเขาคงจะเมาหนักมาสินะเมื่อคืนนี้ สายตาเจ้ากรรมกลับมองเห็นรอยลิปสติกสีจาง ๆ ที่ติดอยู่บนหน้าอกเสื้อสีขาว ทำให้ฝ่ามือเรียวเล็กเริ่มสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมได้ รอยลิปสติกนี่เป็นของใครกัน อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนสามีแอบไปเที่ยวผู้หญิงนอกบ้านมา ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเธอควรจะทำอย่างไรต่อไป ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเลยหรือว่าควรจะพูดคุยกับเขาให้รู้เรื่องดีนะ
สุดท้ายแล้วก็เลือกที่จะเดินเอาชุดที่เปรอะเปื้อนไปใส่ไว้ในตะกร้าเพื่อรอซัก ทั้งที่ในหัวก็แอบหวั่นใจและกลัวว่าสามีจะนอกใจไปมีใครคนอื่น แล้วทำไมเขาต้องทำแบบนั้น ในเมื่อเธอก็พร้อมจะทำหน้าที่เมียที่ดีตลอดเวลาอยู่แล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งชวนให้ปวดหัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ รอให้จิรภัทรตื่นขึ้นมาก่อนก็แล้วกัน เธอจะพูดคุยกับเขาให้รู้เรื่องราวคาใจที่เกิดขึ้น
ถ้าหากว่าชีวิตคู่กำลังจะมีปัญหา เธอก็พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อที่สามีจะได้ไม่ต้องออกไปทำแบบนั้นอีก เพราะสำหรับเธอแค่ครั้งเดียวก็มากเกินพอกับหัวใจที่มันรับไม่ได้แล้ว
แค่คิดก็ทำให้ต้องน้ำตารินไหลใต้สายน้ำที่สาดกระเซ็น แล้วเธอควรจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าหากว่าวันหนึ่งจะต้องอยู่ในสถานะที่สามีไปมีผู้หญิงคนอื่นอีกคน แม้จะเป็นแค่ซื้อกินบ้างครั้งคราวเวลาหิว เธอจะรับได้กับเรื่องแบบนี้จริงหรือเปล่า
ถึงแม้จะเคยเห็นบรรดาเพื่อนฝูงหรือคนที่รู้จักประสบปัญหาเรื่องนี้อยู่บ้าง อาจจะเป็นเรื่องปกติของคู่สามีภรรยาในสังคมปัจจุบัน แต่เธอก็ไม่ได้อยากให้ชีวิตคู่ของเธอต้องเป็นหนึ่งในความโชคร้ายกับเรื่องพวกนี้เลย เพราะชีวิตนี้ก็ยังหวังว่าจะเป็นแค่ผัวเดียวเมียเดียวของกันและกัน แม้หนทางในวันข้างหน้ามันอาจไม่ได้สวยหรูอย่างที่เคยวาดฝันเอาไว้ แต่เธอเองก็พร้อมจะปรับปรุงแก้ไข หากว่าสามีบอกว่ามีข้อบกพร่องอะไรให้ต้องปรับเปลี่ยน
แม้ทุกวันนี้ยังไม่เคยจะรู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำว่าทำให้สามีไม่พออกพอใจอะไรหรือเปล่า ทำไมจิรภัทรถึงอยากทำตัวเหินห่างและไม่เหมือนเดิมที่เคยเป็นเลย อยากจะถามเขาใจแทบขาดแต่ก็กลัวคำตอบของอีกคนมากมายเสียเหลือเกิน ถ้าคำตอบที่จะได้ยินมันทำให้ต้องเจ็บปวด เธอขอเลือกที่จะหลับหูหลับตาไม่อยากรับรู้กับเรื่องพวกนี้เลยยังจะดีกว่า....
จิรภัทรลืมตาตื่นเวลาเกือบจะเที่ยงวันเข้าไปแล้ว เมื่อคืนเขากลับเข้าบ้านมาตอนตีสอง นั่งดื่มและพูดคุยกับณัฐนิชาจนเพลินลืมเวลา นานหลายปีแล้วหลังจากเลิกราก็ไม่เคยจะได้พบเจอหน้ากันอีก ยอมรับเลยว่าการกลับมาพบเจอครั้งนี้หัวใจของเขาก็ยังคงรู้สึกดีกับเธออยู่เช่นเดิม แม้ว่าณัฐนิชาจะทำลายความไว้วางใจหรือว่าเคยแต่งงานมีคนใหม่ไปนานแล้ว แต่ก็ไม่เคยจะทำให้ความรู้สึกที่จิรภัทรมีแปรเปลี่ยนไปได้เลยสักนิด
ประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามา ณิชาวีร์ยืนจ้องมองหน้าสามีอยู่ข้างเตียงนอน ใบหน้าหล่อที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อครู่ถึงกับรีบหุบยิ้มลงทันท่วงที
“ตื่นแล้วเหรอคะ ณิว่าจะขึ้นมาเรียกไปทานข้าว พี่ภัทรไม่สบายหรือเปล่าคะ ดูหน้าซีด ๆ นะ”
“พี่ไม่ได้เป็นอะไร”
“กลับดึกมากเหรอคะเมื่อคืนนี้?”
“อืม ก็เกือบตีสอง”
“แล้วพี่ภัทรไม่เห็นณินอนรออยู่ที่โซฟาหรือไงคะ?”
“เห็น พี่ก็เห็นณินอนหลับสบายดีเลยไม่อยากจะรบกวน”
ณิชาวีร์ได้แต่ยิ้มเจื่อนส่งให้ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไปดี เธอไม่อยากเก็บเรื่องเล็กน้อยแบบนี้มาใส่ใจ เขาอาจจะเมามากเลยไม่อยากรบกวนกันก็เป็นได้
“พี่ไปอาบน้ำเถอะ จะได้ลงไปทานข้าวกัน เดี๋ยวณิไปเตรียมชุดไว้รอนะคะ” หญิงสาวกำลังจะเดินออกไปยังห้องแต่งตัว เพื่อเตรียมหาเสื้อผ้าไว้ให้สามีได้เปลี่ยนเหมือนทุกวันที่เคยทำมา
“ณิ พี่ว่าเราอยู่ห่างกันสักพักดีกว่าไหม?”
เท้าเล็กที่กำลังก้าวเดินถึงกับต้องหยุดชะงักลงทันที ใบหน้าสวยค่อย ๆ หันกลับมามองจ้องหน้าสามีอีกครั้ง หูเธอไม่ได้ฝาดไปหรอกใช่ไหมกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่นี้
“พี่ภัทรหมายความว่ายังไงคะ?”
คนที่นอนเปลือยครึ่งท่อนรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรง จับจ้องมองใบหน้าภรรยา สูดลมหายใจเข้าก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงดัง เขาคิดมาดีแล้วว่าควรจะพูดกับณิชาวีย์อย่างตรงไปตรงมาเสียที
“หรือณิคิดว่าเราสองคนควรจะหย่ากันมากกว่า?”
สายตาของณิชาวีร์จ้องมองหน้าสามีอย่างไม่อยากจะเชื่ออีกครั้ง เธองงไปหมดแล้วไม่รู้ว่าชีวิตกำลังเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ ริมปากอวบอิ่มถึงกับสั่นระริก ก่อนจะเอ่ยปากถามในสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้มากที่สุด
“เพราะพี่ภัทรมีคนอื่นหรือเปล่าคะ?”
“ยังไม่มี แต่ถ้าเลิกกับณิไปมันก็ไม่แน่”
“แล้วเมื่อคืนพี่ไปทำอะไรมากับใครเหรอคะ ทำไมที่เสื้อพี่ถึงมีรอยลิปสติกติดมาด้วย?”
“งั้นเหรอ คงเป็นของเพื่อนที่พี่ไปหาเมื่อคืนนี้มั้ง มันทำให้ณิคิดมากงั้นสิ?” ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากเตียงนอนในสภาพกางเกงบ็อกเซอร์สีขาวติดกายเพียงชิ้นเดียว ยืนประจันหน้ากับภรรยาตัวเล็กที่สูงเพียงราวนมของเขาเท่านั้น
“เพื่อนเหรอคะ เพื่อนที่พร้อมจะขึ้นเตียงนอนกับพี่ด้วยหรือเปล่า?”
“ถึงพี่จะพาขึ้นเตียงหรือมีอะไรกับเขาคนนั้น ณิก็ไม่มีสิทธิ์จะมาว่าพี่!!”
“แต่ณิเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายนะคะ ณิคิดว่าณิมีสิทธิ์เต็มร้อย เพราะเพื่อนคนนี้หรือเปล่าที่ทำให้พี่ภัทรกล้ามาขอแยกกันอยู่กับณิในตอนนี้”
ดวงตาคู่สวยเผยความอ่อนแอออกมาให้เห็นอีกครั้ง หยาดหยดน้ำใสไหลเอ่อ พร้อมจะล้นออกมาอย่างน่าสงสาร ไม่รู้ตัวเองเลยสักนิดว่าทำอะไรผิดจนสามีต้องมาขอแยกทางกันอย่างตอนนี้ได้