รวมถึงเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็มากมายเต็มโต๊ะเครื่องแป้ง เธอไปหยิบขึ้นมาดูเห็นราคาแล้วยังตกใจ
“คุณถอดเสื้อผ้ามาลงอ่างสิคะ พี่จะอาบน้ำให้”
“อาบน้ำให้!!!” แพรดาวถึงกับอุทานอย่างตกใจ
“ใช่ค่ะ เดี๋ยวพี่ถูหลังขัดตัวให้”
“เจ้านายของพี่เพ็ญสั่งเหรอคะ” เธอถามแล้วหน้าแดง จะบ้าเหรอไง ให้คนมาอาบน้ำให้ เธอไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ อายตายเลย
“ใช่ค่ะ คุณเดรกบอกว่าให้ดูแลคุณให้ดี”
“ไม่เอาหรอกพี่เพ็ญ แพรไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ นะคะ อายตายเลยให้คนมาอาบน้ำให้ แบบนั้นก็โป๊เห็นหมดสิคะ”
“ไม่นี่คะ ในอ่างอาบน้ำมีสบู่ พี่ก็แค่ถูหลังขัดตัวให้ คุณอยู่ใต้ฟองสบู่ไม่เห็นหรอกค่ะ อีกอย่างพี่ก็เป็นผู้หญิงนะคะ ไม่เห็นต้องอาบเลย” เพ็ญศิริพูดอย่างกระตือรือร้น
“ไม่เอาหรอกค่ะ พี่เพ็ญออกไปได้แล้วค่ะ” แพรดาวรีบดันแผ่นหลังของเพ็ญศิริออกไปโดยเร็ว ก่อนจะปิดประตูทันที
“อาบน้ำให้ เห็นเราเป็นเด็กหรือไง” แพรดาวทำปากยื่น เธอจัดการถอดเสื้อผ้าและนำไปวางไว้ในตะกร้า ก่อนจะเข้าห้องน้ำ พอนอนลงในอ่าง ทั้งกลิ่นหอม ทั้งอุณหภูมิของน้ำ ทำให้เธอรู้สึกสบาย เผลอหลับไปไม่รู้ตัว
เดรกไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าเดินเข้าห้องว่าที่เจ้าสาวมาได้ยังไง เขากวาดสายตามองไปรอบห้องก็ไม่เห็นใครอยู่ ก่อนจะลองเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดูเพราะอยากตามหาให้เจอ แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เขาเผลอยิ้มละไล
สาวน้อยของเขากำลังนอนหลับปุ๋ยคาอ่างอาบน้ำ ภายใต้ฟองสบู่มากมายเขารู้ว่าเธอต้องเปลือยเปล่าอย่างแน่นอน เดรกนั่งยองๆ ลงข้างอ่าง เขามองใบหน้าเล็กน่ารักด้วยความเสน่หา รู้ดีว่าเธอเกลียดขี้หน้าเขาขนาดไหน แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกทั้งรักทั้งเอ็นดูและหวงเธอมากมายขนาดนี้
เดรกใช้หลังมือลูบไล้พวงแก้มสาวเบาๆ อย่างอ่อนโยน เธออาจจะเกลียดขี้หน้าเขา เขารู้ดี เพราะเขาเองก็ไม่ชอบให้เธอไปสนิทชิดเชื้อกับผู้ชายคนไหนเหมือนกัน
“อือ...” สาวน้อยค่อยๆ ปรือตาขึ้นอย่างง่วงงุน ก่อนจะกะพริบตาซ้ำๆ หันซ้ายแลขวา
“กรี๊ด....” แพรดาวกรีดร้องอย่างตกใจ
“อือๆๆ” เดรกรีบปิดปากสาวน้อยเอาไว้ เธอยิ่งดิ้นตกใจเขาเข้าไปใหญ่ มองเขาตาค้าง
“อย่าดิ้นสิ ห้ามกรี๊ดด้วย พี่จะเข้ามาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง เห็นหายเงียบไปเลย” เขารีบบอกเมื่อเห็นอาการของสาวน้อยตรงหน้า
“เอาเป็นว่าห้ามกรี๊ด แล้วจะปล่อยโอเคไหม” เดรกรีบบอกคนที่เขาปิดปากเอาไว้ แพรดาวรีบพยักหน้าทันที
“พี่เดรกเข้ามาทำไม ลามก ออกไปเลยนะ” พอปากเป็นอิสระเธอก็ต่อว่าเขาทันที แขนเรียวเสลารีบยกขึ้นปิดอกของตัวเองเอาไว้ แล้วตีฟองมาปิดอกอวบๆ ด้วยความอาย
“ก็เป็นห่วง เลยเข้ามาดู” ปากตอบแต่สายตาอดจะเหลือบมองต่ำกว่าหน้าไม่ได้
“เป็นห่วงแพรเหรอ” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่ค่อยเชื่อถือนัก
“ทำไม คนจะเป็นห่วงไม่ได้หรือไง” เดรกหน้าแดงเล็กน้อย
“คิดอะไรกับแพรรึเปล่า” เธอเย้าเขาเล่นเมื่อเห็นเขาหน้าแดง
“ยายเด็กแก่แดด ไม่ได้คิดสักหน่อย” เดรกอยากจะเขกหัวตัวเองนัก นี่เขาเป็นบ้าอะไร อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ จะมาเขินอะไรกับแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแซวแค่นี้
“เชอะ! ไม่คิดก็ไม่คิด ออกไปจากห้องน้ำของเค้าได้แล้ว”
“ห้องน้ำของใครกันห๊ะ นี่มันห้องน้ำของพี่ บ้านของพี่”
“ถ้าจะมาพูดแบบนี้ แพรไปอยู่ที่อื่นก็ได้” เธอทำปากยื่น
“อวดดี”
“เกลียดคนแถวนี้ ไม่อยากอยู่ด้วย ชอบพูดจาวางก้าม”
“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” เดรกอยากสั่งสอนยายเด็กอวดดีนัก ประกาศออกมาได้อย่างไรว่าเกลียดเขา
“บอกว่าเกลียดคนแถวนี้ อื้อ...” เธอหันมาพูดยังไม่ทันขาดคำก็ต้องตาโตเมื่อโดนเขาจู่โจมเข้าหาและบดจูบเต็มๆ มือทั้งสองข้างบีบแก้มเธอเอาไว้ไม่ให้เธอขัดขืนหนีได้
“อื้อ...” เธอสะบัดหน้าหนีมองเขาตาเขียวอย่างหอบๆ
“กล้าดียังไงมาจูบเค้า”
“ทำไมจะจูบไม่ได้ เรากำลังจะแต่งงานกัน”
“ไม่แต่ง”
“อื้อ...” แพรดาวถูกจูบอีกครั้ง รอบนี้เขาจูบจนเธอแทบหายใจหายคอไม่ทัน
“เป็นไง คิดจะต่อต้านพี่เหรอ”
“ไอ้บ้า อื้อ...”
“ด่าเลย ด่าอีกจูบอีก”
“ไอ้ๆๆ”
“ดูทำท่าเข้า เห็นไปถึงไหนแล้วนั่น” เขาแกล้งก้มมองอกอิ่มของเธอ เมื่อเด็กสาวอาละวาดจะตีเขาให้ได้ จนปัดน้ำกระเด็นไปหมด
“ไปให้พ้น” เธอกอดอกตัวเอง หน้าแดง อยากทิ่มตาเขาให้ทะลุนัก มองอยู่ได้
“พี่จะรอกินข้าวด้านล่างนะ แต่งตัวสวยๆ ล่ะ” เดรกผิวปากเดินออกจากห้องน้ำไป แพรดาวปัดน้ำใส่เขาด้วยความโมโห แต่ทำอะไรเขาไม่ได้
“รู้จักแพรดาวน้อยไปซะแล้ว ชอบแกล้งกันดีนักนะ” เธอจำได้ว่าเดรกชอบแกล้งเธอเสมอ ตอนเธอไว้ผมเปียเขาก็ชอบดึงผมเธอเล่น พอเธอโกรธเขาก็หัวเราะชอบใจ แถมยังชอบหาว่าเธอยั่วผู้ชาย แค่มีเพื่อนผู้ชายเข้าหน่อยก็หาว่าเธออ่อยผู้ชาย ริจะมีแฟนตั้งแต่เรียนไม่จบ เธอล่ะเกลียดขี้หน้าเขาที่สุด แต่ไม่รู้ทำไม บิดามารดาของเขาถึงได้เอ็นดูเธอนัก
ลินลดามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง อาการของเขาดูหนักหนาเอาการ เธอให้เพื่อนที่เป็นหมอมาตรวจดูอาการพบว่าเขาบาดเจ็บสาหัส ช้ำใน สมองได้รับการกระทบกระเทือนและถูกยิง แต่โชคดีที่เขารอดมาได้ เธอให้คนไปสืบประวัติเขาและได้ข้อมูลมาอย่างคร่าวๆ และด้วยความที่สนิทกับเจ้าของโรงพยาบาลที่นี่เธอจึงให้ปิดข้อมูลการพักรักษาตัวเป็นความลับ ถ้าใครมาถามก็ให้บอกว่าไม่มี
ตอนแรกก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหน สุดท้ายก็จำได้เมื่อคนตรงหน้าคือเพื่อนคนหนึ่งของเดรก พี่ชายอดีตคนรักเก่าที่เลิกรากันไปนานแล้ว แถมยังเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอเสียด้วย
เธอเจอเขาตรงท่าน้ำที่บ้านสวน พบว่าเขาอาการสาหัสจึงได้ช่วยเหลือเอาไว้ นอนพักอยู่หลายวันเขาก็ยังไม่ฟื้น ซึ่งเพื่อนของเธอที่รักษาพิพัฒน์บอกว่าต้องรอไปก่อน เพราะศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน น่าจะฟาดกับของแข็งหรืออะไรสักอย่างจนต้องเย็บไปหลายเข็มและพันผ้าเอาไว้อย่างแน่นหนา
“โอ๊ย!” เสียงร้องของคนป่วยทำให้ลินลดารีบเข้าไปยืนข้างเตียงทันที
“อย่าเพิ่งขยับแรงนะคะ คุณบาดเจ็บหลายจุด”
“ผะ... ผมเป็นใคร แล้วนี่ที่ไหน” พิพัฒน์ขมวดคิ้วยุ่ง เขารู้สึกว่าปวดหัวอย่างรุนแรง
“คุณรู้สึกยังไงบ้างคะ”
“ปวดหัว ปวดหัวจนแทบระเบิดเลย ผมเป็นใคร มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“คุณได้รับบาดเจ็บ ฉันไปพบคุณเข้าเลยพามาส่งโรงพยาบาลค่ะ”
“โอ๊ย!”
“อย่าเพิ่งขยับนะคะ ยังไม่ต้องคิดอะไรด้วย เดี๋ยวฉันจะตามหมอมาดูอาการของคุณ” ลินลดารีบกดกริ่งเรียกหมอกับพยาบาล เธอคอยดูเขาอยู่ห่างๆ เขาโดนทำร้ายบาดเจ็บขนาดนี้ต้องมีเรื่องร้ายแรงแน่ๆ ดังนั้นเธอต้องค่อยๆ คิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี เพราะเขาเองก็ความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้ ถ้าเปิดเผยออกไปว่าเขาอยู่ที่นี่ อาจเป็นอันตรายได้
อาการของพิพัฒน์สงบลงอีกครั้งด้วยฤทธิ์ยา ลินลดาคอยเฝ้าเขาอยู่ตลอดเวลา เธอมีลูกน้องของอดีตสามีที่เสียชีวิตไปแล้วคอยตามดูแลอยู่
พูดถึงอดีตสามีอย่างวินเซนโซ ทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก หากไม่เพราะความจำเป็นบางอย่างที่เธอต้องตัดสินใจแต่งงานกับเขา และการจากไปกะทันหันนั้นก็ทำให้เธอเศร้าใจอยู่ไม่น้อย จริงๆ แล้วการเป็นสามีภรรยาของเธอกับอดีตสามี มีความลึกลับซับซ้อนกว่าที่ใครจะคาดเดาได้
พิพัฒน์ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในสภาพจำอะไรไม่ได้แม้แต่ตัวเอง การจะฟื้นฟูความทรงจำของเขาต้องพาเขากลับไปยังสถานที่เดิมๆ ทำอะไรเดิมๆ ซึ่งตอนนี้อาจจะไม่ปลอดภัยนัก
ข้อมูลสำคัญจากลูกน้องที่ส่งมาให้เธอคือพิพัฒน์เข้าไปพัวพันกับแก๊งอิทธิพลมืด ซึ่งหากเดาไม่ผิดคนที่ตามล่าเขาน่าจะเป็นคนของแก๊งนั้น