บทที่ 3 คุณหนูใหญ่สตรีมือเปื้อนเลือด

1547 คำ
ผ่านไปนานจนคนถามคิดว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ตอบแล้ว ร่างสูงที่เงยหน้ามองดูดวงจันทร์ที่กำลังถูกก้อนเมฆบดบังจึงได้เอยเสียงเรียบขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของยามค่ำคืน “เพราะกลัวจวนแม่ทัพกู้จะเป็นหนามตำเท้า” “จะเป็นเช่นนั้นได้ยังไงคุณหนูใหญ่ทั้งรักและหลงองค์ชายสี่ขนาดนั้นยอมแม้แต่สังหารคนบริสุทธิ์สามร้อยกว่าชีวิตเพื่อช่วยองค์ชายสี่ให้ได้ขึ้นเป็นรัชทายาท” ป๋อหลินถามด้วยความแปลกใจเพราะตนเองเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์ชายใหญ่ที่เคยเป็นอดีตรัชทายาทมาก่อน จึงได้รู้ถึงการกระทำของคุณหนูใหญ่ตระกูลกู้มาพอสมควร เพราะศึกชิงตำแหน่งรัชทายาทนั้นเป็นไปอย่างดุเดือดแต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เทพเซียนทะเลาะกันคนธรรมดาสามัญต้องสังเวยชีวิต ในครั้งนี้โอรสของฮ่องเต้แก่งแย่งชิงความเป็นหนึ่งย่อมจะหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตของขุนนางและราษฎรษ์ไปไม่ได้ “ถ้านางรู้ว่าพี่ชายทั้งสองของนางถูกสามีของตนเองสังหาร ท่านว่านางจะยังช่วยส่งเสริมจ้าวลู่เหวินอยู่อีกหรือไม่?” ชินอ๋องจ้องมองดวงจันทร์ที่อยู่บนท้องฟ้ากล่าวไขข้อสงสัยของคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งไร้ความรู้สึกเหมือนกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศไม่ใช่เรื่องความเป็นความตายของใครสักคน "อ้อ เป็นเช่นนี้นี้เองรัชทายาทจึงต้องรีบทำลายหมากตัวนี้ไปเสีย" วิญญาณของกู้ฮุ่ยหนิงจ้องมองดูชินอ๋องด้วยแววตาที่แดงก่ำ นางไม่อยากจะเชื่อกับคำพูดของอีกฝ่ายเลยพี่ใหญ่และพี่รองตายด้วยน้ำมือขององค์ชายสี่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางอย่างนั้นหรือ “ไม่จริง!! ไม่จริงมันต้องไม่เป็นเช่นนั้น” ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปีพี่ใหญ่กู้หวังหมิ่นและพี่รองกู้หวังจิ้งยอมช่วยเหลืองานของจ้าวลู่เหวินหลายครั้งตามคำขอของนางผู้เป็นน้องสาวแล้วทำไม่จ้าวลู่เหวินถึงต้องสังหารพี่ชายทั้งสองของนางด้วย เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างแน่นอน เพราะเมื่อสองปีก่อนถึงยังไงจ้าวลู่เหวินก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางอยู่ย่อมไม่ลงมือกับคนในครอบครัวของนางอย่างแน่นอน “เหตุใดองค์ชายสี่ถึงต้องสังหารพี่ชายทั้งสองของภรรยาตนเองด้วย” “ถ้าเขาไม่สังหารทั้งสองคนจะบีบให้กู้ฮุ่ยหนิงลงมือกับตระกูลใหญ่สี่ตระกูลที่สนับสนุนองค์ชายใหญ่ได้อย่างไรกัน” ชินอ๋องจ้องมองดูใบไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นถูกลมพัดพามาตกอยู่ที่ฝ่ามือของตนอย่างพิจารณาเหมือนดังว่าที่อยู่ในมือนั้นไม่ใช่แค่ใบไม้ทั่วไป ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เป็นเช่นนี้ที่ทำให้ตระกูลกู้ของนางต้องสิ้นชื่อ เป็นเช่นนี้เอง วิญญาณของกู้ฮุ่ยหนิงถอยหลังไปพร้อมกับส่ายหน้าไปอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นางไม่อยากยอมรับความจริงเลยว่าแท้จริงแล้วตนเองเป็นเพียงหมากในมือขององค์ชายสี่จ้าวลู่เหวินเท่านั้น คำสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะรักข้าเพียงผู้เดียวจะเคียงคู่กันจนแก่เฒ่าอะไรกันล้วนเป็นคำหลอกลวงทั้งสิ้น “ไม่จริ๊งงงงงงง!!!! ข้าไม่เชื่อออ!!!!” เสียงร้องโหยหวนด้วยความโศกเศร้าเสียใจและโกรธแค้นของวิญญาณกู้ฮุ่ยหนิง ทำให้บรรยากาศยามค่ำคืนที่เงียบวังเวงยามค่ำคืนได้เกิดสายลมพัดอย่างแรงใบไม้สั่นไหวอย่างรุนแรง ป่ายามค่ำคืนที่แลดูเงียบสงบเกิดพายุลมขึ้นอย่างไม่กะทันหันทำให้องครักษ์ที่ยืนอยู่ต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย เสียงใบไม้กรีดไปตามแรงพัดโหมกระหน่ำของสายลมเกิดเสียงแหลมโหยหวนชวนให้ผู้คนที่ได้ยินเกิดความหวาดกลัวอย่างยิ่ง เสียงนกกลางคืนกรีดร้องด้วยความตกใจก่อนที่จะกระพือปีกบินหนีไปอย่างรวดเร็ว ร่างสูงของชินอ๋องมองดูกิ่งไม้ลู่ไปตามสายลมที่พัดมาอย่างแรงด้วยแววตาที่ไร้ความรู้สึก โลกใบนี้ก็เป็นเช่นนี้ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนโง่ย่อมตกเป็นเครื่องมือของคนที่ฉลาดมันเป็นกฎเกณฑ์ของการมีชีวิตรอด เมื่อเข้ามาพัวพันกับสายน้ำของราชวงศ์แล้วไม่มีผู้ใดที่จะมีความบริสุทธิ์และไร้เดียงสาอย่างแท้จริง ท้องฟ้ายามเช้าตรู่ของวันนี้แลดูเงียบสงบบนท้องฟ้ามีก้อนเมฆลอยต่ำถูกสายลมพัดพาเหมือนภาพฝัน อากาศฟ้าหลังฝนมีลมพัดมาแผ่วเบาเหมือนดังว่าเมื่อสามวันก่อนไม่เคยเกิดพายุฝนฟ้าตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนเลย เหมือนดังคำโบราณที่กล่าวไว้ว่าฟ้าหลังฝนย่อมสวยงาม เมื่อพายุฝนสงบลงท้องฟ้าในเช้าวันนี้ดูสดใสและอากาศเย็นสบาย ผู้คนในเมืองเสียนหยางต่างออกจากเรือนของตนมาทำงานด้วยรอยยิ้มหลังจากฝนไม่ตกทำให้พื้นดินแห้งแล้งมานานหลายเดือน แต่จู่ ๆ เมื่อสามวันก่อนก็เกิดพายุฝนตกหนักวันนี้พวกเขาจึงได้เร่งรีบออกจากบ้านเพื่อไปดูไร่นาเพื่อเริ่มขุดดินไถหวานเมล็ดข้าวกันอย่างมีความสุข แต่ภายในจวนของท่านแม่ทัพพิทักษ์ชายแดนกู้ตงหยางกลับแตกต่างออกไปตลอดสามวันที่เกิดพายุขึ้นภายในจวนของท่านแม่กลับมีแต่ความวุ่นวายบ่าวรับใช้ทุกคนต้องอดนอนตามเจ้าของจวน หมอที่อยู่ในเมืองเสียนหยางถูกตามตัวกลางดึกอย่างเร่งด่วนหลายคน เพื่อเดินทางเข้าจวนมารักษาบุตรสาวคนเล็กของท่านแม่ทัพพิทักษ์ชายแดน ความวุ่นวายนี้ยาวนานติดต่อกันหลายวันจนกระทั่งคืนวันที่สามทุกอย่างจึงสงบบ่าวรับใช้ได้นอนหลับกันอย่างเต็มตา “ฮุ่ยเอ๋อเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ฮูหยินใหญ่เปิดประตูห้องนอนของบุตรสาวเข้ามาด้วยความเป็นห่วง สองสามวันที่ผ่านมาเมืองเสียนหยางเกิดพายุฝนตกหนักอย่างไม่ทันตั้งตัวเหมือนดังฟ้าพิโรธ ทำให้ผู้คนในเมืองทั้งแปลกใจและยินดีเพราะฝนไม่ตกนานกว่าหนึ่งปีแล้วทำให้ผู้คนในเมืองเสียนหยางต้องประสบกับภัยแล้ง โชคดีที่เมื่อสามวันก่อนอยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาและตกติดต่อกันนานถึงสามวันสามคืน ส่วนบุตรสาวของนางกู้ฮุ่ยหนิงได้ออกไปเที่ยวเล่นกับพวกบ่าวรับใช้ที่นอกจวนจนเปียกฝนกลับมา เมื่อคืนก่อนจึงทำให้เกิดตัวร้อนเป็นไข้หนักบ่าวในเรือนต้องวุ่นวายตามหมอมาตรวจดูอาการท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักทั้งคืน แม้ว่าจะกินยาหลายถ้วยแล้วอาการยังไม่ทุเลาลง ฮูหยินใหญ่ผู้เป็นมารดากังวลใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาสองคืนแล้ว โชคดีที่เช้านี้บ่าวรับใช้คนสนิทของบุตรสาวมาแจ้งว่าบุตรสาวรู้สึกตัวแล้วฮูหยินใหญ่จึงได้รีบเร่งมาที่เรือนนอนของบุตรสาวของตนทันที “ท่านแม่” กู้ฮุ่ยหนิงที่นั่งมองดูท้องฟ้าข้างหน้าต่างหันมามองมารดาของตนด้วยแววตาที่สับสนและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อนางรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าวิญญาณของนางมาอยู่ในร่างของตนเองในวัยเด็กเสียแล้ว “ลูกสาวแม่เจ้าเป็นเช่นไรบ้างดีขึ้นหรือยัง?” “ท่านแม่ลูกไม่ได้เป็นอันใดเพียงแค่เป็นไข้เพราะเปียกฝนก็เท่านั้นเอง” “หนิงเอ๋อลูกแม่ ดีแล้วที่เจ้าไม่เป็นอะไรท่านพ่อของลูกและพี่ชายทั้งสองคนต่างเป็นห่วงเจ้าเป็นอันมาก หากวันนี้ไม่มีประชุมหารือกับพวกนายกองที่ค่ายทหารท่านพ่อและพี่ชายคงจะมาเยี่ยมเจ้าที่เรือนแต่เช้าแล้ว” ฮูหยินใหญ่เดินมายืนอยู่ข้างหลังบุตรสาวคนเล็กของตนด้วยความยินดีที่บุตรสาวหายจากอาการป่วยแล้วพร้อมกับใช้มือลูบผมและแก้มของอย่างรักใคร่ บุตรสาวเพิ่งจะสิบขวบต้องถูกจวนตระกูลกู้ที่อยู่ในเมืองหลวงปล่อยให้เดินทางไกลหลายพันลี้เพียงลำพังเพื่อมาหาครอบครัวที่ชายแดนทำให้นางผู้เป็นแม่ต้องห่วงกังวลกินไม่ได้นอนไม่หลับหลังจากได้รู้ข่าว บุตรสาวเดินทางมาถึงเมืองเสียนหยางได้ไม่ถึงสิบวันยังปรับตัวกับสภาพอากาศไม่ได้ เมื่อสามวันก่อนบุตรสาวดื้อดึงไม่เชื่อฟังคำเตือนของคนเป็นแม่แอบออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกจวน อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาทำให้บุตรสาวเปียกฝนกลับมา พอตกกลางคืนจึงทำให้เกิดอาการไข้ขึ้น สองวันที่ผ่านมาบุตรสาวมีอาการไข้ขึ้นสูงตัวร้อนจนไม่รู้สึกตัวทำให้คนเป็นแม่หัวในแทบสลายต้องคอยห่วงกังวลอยู่ตลอดสองคืนที่ผ่านมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม