“หนาวรึเปล่าคะ” ลินดาเอ่ยถามชายร่างสูงที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงเขาพยักหน้ารับเบาๆ เธอจึงเดินไปปรับอุณหภูมิแอร์ให้อยู่ในองศาปกติก่อนจะเดินกลับมาตรวจสอบคนไข้อีกครั้ง
“อย่าเศร้าไปเลยค่ะคุณหมอบอกว่าถ้าทานยาตรงเวลาก็จะไม่มีปัญหาอะไร” ร่างเล็กเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเนื่องจากคมเดชพึ่งได้รับการตรวจจากคุณหมอไปเมื่อเช้าและพบว่าอาการของเขาแย่ลงทุกวันและอาจจะอยู่ได้ไม่นานแล้ว
“แม่หนูนี่ให้กำลังใจเก่งจริงๆ นะ” คมเดชเอ่ยชมลินดาร่างเล็กเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อยเท่านั้นพร้อมกับดึงผ้าห่มคลุมร่างสูงให้อย่างแผ่วเบาไม่รู้ทำไมยิ่งมองคนไข้คนนี้ก็ยิ่งคิดถึงพ่อของตัวเองสงสัยเพราะอายุเท่าๆ กันแหละมั้งแต่โชคดีที่พ่อของเธอยังคงแข็งแรงดี
“แข็งแรงไวๆ นะคะ” ลินดากล่าวลาพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกไปทำงานต่อ
เช้าวันต่อมา
“อะไรนะคะ!” ร่างเล็กเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจเธอมองใบขอกลับบ้านอย่างไม่เชื่อสายตาทั้งๆ ที่เมื่อวานเธออุส่าห์ให้กำลังใจเขาแต่ทำไมวันนี้เขาถึงขอกลับไปรักษาตัวเองที่บ้านดีกว่าให้คุณหมอและพยาบาลดูแลล่ะ
“ก็ตามนั้นแหละลินเราไปห้ามอะไรใครไม่ได้หรอก” หัวหน้าพยาบาลตบบ่าของลินดาเบาๆ เพราะรู้ว่าลินดาเป็นห่วงคนไข้คนนี้มากแต่เมื่อคนไข้อยากกลับไปรักษาตัวเองที่บ้านและหมอเจ้าของไข้ก็อนุญาติแล้วพยาบาลอย่างพวกเราๆ ก็เพียงแค่ต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น
“แต่นี่มันไม่ต่างอะไรจากการบอกลาเลยไม่ใช่หรอคะ” ลินดาเอ่ยขึ้นมีผู้ป่วยหลายคนที่ถอดใจกับการรักษาที่ไม่มีที่สิ้นสุดจนสุดท้ายก็อยากหยุดรักษาเพื่อกลับบ้านและปล่อยวางกับชีวิต
“เดี๋ยวลินจะไปคุยกับคุณคมเดชอีกรอบค่ะ” ร่างเล็กเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกออกไปทันทีเธอตรงไปยังห้องผู้ป่วยก่อนจะเคาะประตูและเปิดมันเข้าไปเธอมองดูข้าวของที่ถูกจัดเก็บไว้จนห้องโล่งพร้อมกับมองคนไข้และผู้หญิงหุ่นเพรียวบางที่ดูมีอายุหน่อยๆ และเห็นว่าทั้งสองกำลังคุยกันอยู่
“คุณคมเดชจะไปจริงๆ หรอคะ?” ลินดาเอ่ยถามพร้อมกับชูใบกลับบ้านของอีกฝ่ายคมเดชมองเธอด้วยรอยยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับเพราะเขาไม่อยากเสียเวลานอนรักษาตัวอีกต่อไปแล้วสู้กลับไปทำงานและเขียนพินัยกรรมเสียยังดีกว่า
“แต่ว่ามันยังมีทางรักษานะคะขอแค่คุณกินยาให้ตรงเวลาเท่านั้นเอง” ลินดาเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างขอร้อง
“อะไรกันจ๊ะหนูเป็นห่วงเป็นใยอะไรขนาดนั้นหรือว่า….นี่คุณคะ!” ร่างบางมองหญิงสาวที่วี๊ดใส่เธอก่อนจะกลับไปวีนใส่ชายร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียง
“อีกแล้วใช่ไหมคะนี่คุณจะมีเมียน้อยเพิ่มอีกแล้วหรอ!” ลินดาเบิกตาโตด้วยความตกใจก่อนจะรีบปฏิเสธเรื่องเมียน้อยและบอกว่าเธอแค่เป็นห่วงในฐานะพยาบาลคนนึงเท่านั้น
“เอาล่ะพอๆ …แม่หนูฉันเป็นคนเลือกเองแม่หนูอาจจะยังไม่รู้ว่าฉันรวยมากและคนรวยก็มีงานทำเยอะแยะ” คมเดชเอ่ยห้ามทั้งสองก่อนจะหันมาพูดกับลินดาด้วยเหตุผล
“สู้เอาเวลานอนเปล่าๆ ไปใช้ชีวิตครั้งสุดท้ายให้มันคุ้มดีกว่า” ร่างสูงพูดพร้อมหัวเราะออกมาลินดามองอีกฝ่ายยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่อยู่ในโรงพยาบาลผู้ชายคนนี้ไม่เคยหัวเราะดังขนาดนี้มาก่อนหรือนี่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนไข้แล้วแต่ในฐานะที่เธอเป็นพยาบาลและรู้ว่าทุกชีวิตนั้นสำคัญขนาดไหนเธอก็ยังยืนยันว่าถ้ามันยังมีหนทางรอดก็ควรสู้ไปกับมันให้ถึงที่สุดไม่ใช่ทิ้งตัวเองลงข้างทางแบบนี้
“ถ้าคุณคมเดชเลือกทางนี้แล้วลินก็ขอให้โชคดีกับทางที่เลือกนะคะ” ลินดาเอ่ยขึ้นแม้ในใจอยากจะแย้งเต็มที่เธอระบายยิ้มออกมาก่อนจะโค้งเป็นการบอกลาและเดินจากไป
ทางด้านของอาทิตย์เขายังคงตั้งใจทำงานในทุกๆ วันหลังจากที่ผู้เป็นพ่อป่วยจนต้องเข้ารักษาตัวพ่อเขาก็ดีดเขาจากตำแหน่งรองประธานให้ขึ้นมาเป็นประธานทันทีแม้ส่วนมากจะคัดค้านเพราะเขามีรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่เป็นมิตรแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครต้านทานผลงานอันดีเด่นของเขาที่เอามาฟาดหน้าใส่พวกคนที่จ้องจะแย่งบริษัทไปจากเขาจนได้ขึ้นมาเป็นประธานจนถึงทุกวันนี้
“คุณคมเดชออกจากโรงพยาบาลพร้อมคุณเมย์และตรงกลับบ้านแล้วครับ” อาทิตย์พยักหน้ารับเลขาที่เดินเข้ามารายงานพร้อมถอนหายใจเบาๆ กับทางเลือกของพ่อตัวเองซึ่งแม้เขาจะอยากให้ทำการรักษาต่อแต่ผู้เป็นพ่อก็แย้งและบอกว่าเขาแก่แล้วและอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขมากกว่าการนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียง
“เห้ออละไหนบอกว่าเจอพยาบาลที่ชอบแล้วจะไม่ไปไหนไง” อาทิตย์เอ่ยบ่นตอนที่ไปเยี่ยมพ่อล่าสุดเขาบอกให้ฟังว่าเจอยาบาลที่ถูกใจเลยอยากจะอยู่รักษาต่อนานๆ แต่พูดยังไม่ทันจะครบ48ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำก็มาบอกให้เขาไปส่งใบขอกลับบ้านซะงั้น
“ป่านนี้บรรดาพวกเมียๆ คงดีใจเนื้อเต้นกันใหญ่เลยสินะ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกำหมัดแน่นพ่อของเขามีเมียน้อยอยู่2คนและแต่ละคนก็ไม่เคยมาเยี่ยมพ่อของเขาเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแต่ก็ไม่รู้ไปได้ข่าวมาจากไหนว่าพ่อจะหยุดรักษาตัวและกลับมาอยู่บ้านเลยพากันเสนอหน้าออกมาหลังจากที่หายไปเที่ยวเล่นซะนาน
2วันต่อมา
“เดี๋ยวตอนเย็นลินจะพาเลโอมาส่งนะคะ” ลินดาเอ่ยขึ้นพร้อมกับจูงมือลูกชายของเธอวันนี้เป็นวันหยุดและเธอกะว่าจะพาเลโอออกไปเดินเล่นที่ห้างและพาไปทานของอร่อยๆ
“เดินทางปลอดภัยลูก” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มลินดาโค้งเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป
“แม่ผมปวดฉี่” เลโอเอ่ยขึ้นพร้อมเขย่าแขนผู้เป็นแม่ลินดาเลยพาเลโอแวะเข้าห้องน้ำก่อนและนั่นทำให้เธอเริ่มได้ยินเสียงของคนทะเลาะกันดังขึ้นจนต้องเดินไปดู
“เมื่อไหร่ลูกคุณจะเอาเด็กนั้นออกไปสักทีคะ!” ลินดาจ้องมองภรรยาใหม่ของพ่อที่กำลังโวยวายใส่พ่อของเขาอยู่
“ใจเย็นๆ สิลินพึ่งจะได้งานทำไม่นานนี้เอง” พ่อของเธอเอ่ยอย่างใจเย็น
“แต่คุณคะคุณรู้มั้ยว่าพวกเรามีหนี้กันเท่าไหร่!แล้วทั้งค่านั่นค่านี้ไหนจะค่าครูสอนของไอเด็กนั่นอีก!”
“นี่คุณ!!” ผู้เป็นพ่อขึ้นเสียงใส่ภรรยาของตัวเองทันทีเมื่อพูดไม่เข้าหู
“ทำไมคะนั่งเด็กนั่นมันจะรู้บ้างมั้ยว่าคุณต้องไปขอร้องอ้อนวอนเพื่อนตัวเองเพื่อให้ได้งานนั้นมาไหนจะต้องไปหายืมเงินคนอื่นเพื่อมาเป็นค่ารักษาลูกของมันอีกคุณรู้มั้ยว่าตอนนี้พวกทวงหนี้มันจะตามมายึดบ้านเราแล้วนะ!!” ลินดาอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยินน้ำตาของเธอคลอเบ้าเพราะเธอไม่รู้เลยว่าพ่อของเธอต้องเจอเหตุการณ์หนักหนาถึงเพียงนี้ก็เพราะตัวเธอคนเดียว
“ผมจะหาทางเองคุณอย่าได้ไปพูดเรื่องนี้ให้ลินฟังเลยนะผมขอเตือน”
“แม่..” ลินดาหันควับมองไปยังลูกชายที่เดินเข้ามาหาเธอร่างเล็กรีบอุ้มเลโอขึ้นก่อนจะวิ่งออกจากตัวบ้านด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
“แม่..” เลโอมองผู้เป็นแม่ที่วิ่งไปร้องไห้ไปสองมือเล็กปาดน้ำตาของเธอเบาๆ ลินดามองใบหน้าเรียบเฉยของเลโอก่อนจะกอดเด็กชายตัวน้อยแน่นและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“เลโอฮึกแม่จะทำยังไงดีฮื่อออเลโอแม่เหนื่อยเหลือเกิน..” ร่างเล็กร้องไห้ออกมาพร้อมกับกอดลูกชายแน่นสุดท้ายเธอเองก็กลายเป็นภาระของพ่อด้วยเหมือนกัน
“แม่..รถมา” เด็กน้อยชี้ไปยังรถคันสีดำที่กำลังขับมาลินดาลุกขึ้นปาดน้ำตาแม้จะยังร้องไห้อยู่เธอจับมือเลโอก่อนจะเดินเลี่ยงมาอยู่ริมถนนเพื่อหลบรถแต่ทว่ารถคันดังกล่าวกับมาจอดอยู่ตรงหน้าเธอพร้อมกับกระจกรถที่ถูกเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าคุ้นตาของใครบางคน
“คุณคมเดช!” ลินดาเอ่ยเรียกชายคนนั้นด้วยความตกใจคมเดชมองลินดาก่อนจะมองต่ำมาที่เด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ของลินดาเด็กชายตัวน้อยจ้องมองเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยร่างสูงยิ้มหัวเราะเพราะมันเหมือนกับลูกชายของเขาเมื่อตอนเด็กๆ อย่างไม่มีผิดเพี้ยน
ทั้งๆ ที่กะว่าจะสืบประวัติของลินดาเล่นๆ แต่ดันมาเจอสิ่งที่น่าสนใจจนทำเขาช็อคไปหลายวันกับเรื่องที่ว่าลินดาเคยคบกับลูกชายของเขาเมื่อครั้งอดีตและปัจจุบันตัวเธอก็ได้คลอดเด็กคนนึงออกมาซึ่งจากการสืบจากใบเกิดที่เว้นชื่อพ่อเด็กเอาไว้ทำให้เขารับรู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนั้นอาจจะเป็นหลานของเขาและตอนนี้ทุกอย่างมันก็ลงล็อคเมื่อหลักฐานชิ้นสำคัญนั้นอยู่บนใบหน้าของเด็กตัวน้อยนั่นเอง
“เลโอเรารีบไปกันเถอะ” หลังจากอึ้งไปหลายวิลินดาก็อุ้มเลโอขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะเธอเองก็ไปสืบประวัติอีกฝ่ายมาเหมือนกันเพราะคาใจกับเรื่องที่เขาบอกว่าตัวเองรวยมากจนเอาชื่อของเขาไปหาในเน็ตและรู้ว่าเขาคืออดีตประธานบริษัทยักษ์ใหญ่และเนื่องจากป่วยเลยให้ลูกชายคนเดียวขึ้นมาบริหารแทนตัวเองซึ่งลูกชายคนนั้นคืออาทิตย์นั่นเอง
“เดี๋ยวสิแม่หนู..จะรีบไปไหนกัน” คมเดชเอ่ยขึ้นรอยยิ้มของเขาผุดขึ้นมาจนลินดาใจไม่ดีเธอกอดเลโอแน่นและทำท่าทางให้เป็นปกติที่สุด
“พอดีฉันจะพาลูกไปเที่ยวน่ะค่ะยังไงขอตัวก่อนนะคะ” เท้าบางรีบก้าวเดินออกไปแต่ก็ต้องชะงักลงกับคำพูดของชายร่างสูง
“เด็กคนนั้น…” ลินดาหันไปสบตากับคมเดชที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้วนิ้วของเขาชี้ตรงมาที่เลโอที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับคำพูดที่ทำเอาเธออ้าปากค้างในทันที
“เป็นหลานฉันใช่ไหม”
เอาแล้วววววววววววววววว คุณคมเดชคือหัวไวฉลาดมากเวอร์
อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะยิ่งคอมเม้นเยอะยิ่งมาไวนะจุ้บๆ