ตอนที่ 9

2609 คำ
ชานส์นั่งคิดคำใบ้ที่รอยให้ไว้พร้อมทั้งหาสถานที่ที่รอยจับสองคนนั้นไว้ เขาคิดไปถึงวันที่มิสเตอร์อดัม ริมาฮาน ถูกจับตัวไว้ที่หลุมถ้ารอยไปถึงเขตเอชเป็นไปได้ว่าอาจไปเขตอื่นด้วยแต่ไม่น่าเกิดเขตจีเพราะเกินเขตจีจะเข้าตัวเมืองแล้ว ประตูเลื่อนเปิดผู้กำกับดีนเดินเข้ามาเขานั่งฝั่งตรงข้ามจากที่ฟังรอยพูด ผู้กำกับดีนเป็นคนเดียวที่รับสถานการณ์ได้ดีเขาฟังอย่างตั้งใจทุกคำพูดของรอยดูชิวมาก ๆ “ทำไมถึงไม่โทรหาผม” “บอกแล้วช่วยอะไรได้” ชานส์ถอนหายใจ “บอกหรือไม่ก็อีหร่อมเดิม” “อย่างน้อยผมยังช่วยคุณได้ โรจิน...ถึงเป็นผู้อำนวยการแต่เขาก็เกรงบารมีของผมอยู่ ผมช่วยให้เขาได้เป็นผู้อำนวยการ เขารู้ตัวว่าควรภักดีกับใคร” ชานส์วางเอกสาร “ว้าว...โรจินผู้หยาบกระด้างเกรงกลัวคนที่ตำแหน่งต่ำกว่าเขาเหรอ” “ผมเคยถูกเสนอชื่อให้รับตำแหน่งผู้อำนวยการแต่มันน่าเบื่อ ผมชอบเป็นผู้กำกับมากกว่าไม่ต้องคอยแถลงข่าวหรือรับผิดชอบส่วนที่มากเกินแก้ ผมเลยเสนอตำแหน่งนั้นให้โรจินในตอนนั้นเขามียศเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุด ครั้งนี้เขาทำเกินไปเขาฝ่าฝืนคำสั่งตามจับพี่ชายคุณ ทำให้เสียเจ้าหน้าที่มือดีไปสองนาย ตอนพี่ชายคุณมาที่เมืองอีกครั้ง” ชานส์จำได้เดวิดโทรหาเขาอยากเตือนว่าฆาตกรล่องหนกลับมาที่เมืองอีกครั้ง “พวกเขาต้องตายเพราะการกระทำโง่ ๆ ของคน ๆ หนึ่ง” “เพราะเหตุนี้ผมเลยให้เดวิดเรียกคุณกลับมา...ไม่คิดว่าจะแย่แบบนี้” “คุณรู้ดี” ชานส์ลูบหน้าอกตัวเองตรงแผลเป็นที่เริ่มจางหายแต่เจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึง “ถ้าให้ผมมาช่วย ผมยอมช่วยพี่ชายตัวเองดีกว่าช่วยพวกคุณ” “แม้เขาจะทำคุณเจ็บ” “เขาไม่มีทางเลือกผมเป็นคนต้อนเขาจนมุม เขาจำต้องทำร้ายผมเพื่อหนีออกจากที่นั้น” โกดังร้างตรงท่าเรือ “มันทำให้เขาเจ็บปวด” ประตูเลื่อนเปิดครืด “ผู้กำกับดีนมาดูนี่เร็วเถอะ” เดวิดพูดปนหอบ เดวิดพาพวกเขามาที่ห้องปฏิบัติการ ห้องนี้เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อใช้ค้นหาสำหรับเขตเอเฉพาะ พวกเขาจ้องมองภาพหน้าจอที่ปรากฏรายชื่อหลายร้อยรายชื่อ “นี่...นี่มันอะไรกัน” ผู้กำกับดีนเดินไปตรงหน้าจอใหญ่ตรงกลาง “คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกับพ่อผม” ผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่อยู่ในห้องมองเขา “คุณคือมิสเตอร์ชานส์ โฮวินสันต์ สินะ” ผู้บริหารคนหนึ่งถามเขา ชานส์พยักหน้า “เล่าให้ละเอียดหน่อย” “ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินในบริษัทที่พวกเขาเหล่านี้ทำงาน พ่อของผมตอนที่ยังเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเขาจับพวกเขาได้แต่เพื่อผลประโยชน์ คนพวกนี้เลยทำสิ่งที่พ่อผมต้องการแลกกับการนอนในคุก” “พระเจ้า...เยอะขนาดนี้จะจับยังไงไหว” “พวกคุณได้มายังไง” ผู้กำกับดีนหันไปถามบ้าง “มีอีเมล์ส่งมาจากบุคคลนิรนามมันเป็นไฟล์รายชื่อแต่ใส่รหัสผ่านไว้ พอเราเข้ารหัสได้อย่างที่เห็น” “แบบนี้เท่ากับก่อการร้ายเลยนะ” จู่ ๆ เครื่องฉายโฮโลแกรมประมวลผลอย่างรวดเร็วปรากฏรายชื่อของผู้ตายที่รอยฆ่าไป “พวกเขาทำไม” เครื่องฉายภาพเริ่มประมวลผลอีกครั้งเช่นเดิมไม่ถึงนาทีก็เสร็จสิ้น ทุกคนหยุดทำงานที่ตนกำลังทำจ้องจอภาพไม่กระพริบ ผู้กำกับดีนหลับตาสูดหายใจเข้า “มิน่าพี่ชายคุณถึงฆ่าไม่เลือกแบบนี้” แฮร์รี่กระซิบข้างชานส์ “รอยแค่ฆ่าไปเรื่อยเพราะมีหลายคนที่ทำงานให้พ่อของผม เขาจะฆ่าใครก็ได้ที่อยาก” “เท่ากับ” ผู้บริหารหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงพูดขึ้น “งมเข็มในมหาสมุทร เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าฆาตกรจะเลือกเหยื่อคนไหน” “เราจะทำยังไงดีครับ” เดวิดถามผู้กำกับดีน แต่ผู้กำกับดีนไม่ตอบโรจินพูดดักความคิดเขา “คุณกำลังคิดใช่ไหมว่าสิ่งที่ฆาตกรนั้นทำมันถูกน่ะ” “ถึงอยากแต่ยังไงก็ผิดกฎหมาย” “ออกหมายจับเถอะอาจทำให้เราถึงตัวฆาตกรเร็วขึ้น” เจ้าหน้าที่ระดับสูงเสื้อของเธอปักชื่อ ‘วิเรีย’ ผู้กำกับดีนพูดโดยไม่หันไปมอง “ทำแบบนั้นผู้คนจะคิดว่าชานส์เป็นฆาตกรน่ะสิ หน้าเหมือนกันขนาดนี้” เขาเพ่งมองรายชื่อนับร้อย “เราต้องจับเขาแบบเงียบ ๆ” “แล้วคำใบ้ล่ะคิดออกหรือยัง” โรจินเดินมาหยุดข้างผู้กำกับดีน “ยังหวังแค่ว่าเขาจะไม่ลงมือตอนนี้” ชานส์ออกมาจากห้องปฏิบัติการเขาเดินไปข้างนอก จากไฟล์รายชื่อพวกนั้นแสดงว่ารอยคงไปเข้าถึงฐานข้อมูลคนคนนั้นแต่ยังประชิดตัวไม่ได้ คิดใช้ให้พวกเจ้าหน้าที่จำกัดคนในรายชื่อให้พ้นทาง...ตัวเองจะเข้าถึงเขาคนนั้นได้ง่ายขึ้น มือของเดวิดจับไหล่เขา “อยากขอโทษผมไม่...ควรบอกพวกเขาเรื่องคุณ” ชานส์ส่ายหน้า “สักวันพวกเขาต้องรู้อยู่ดี แค่เมื่อไหร่ก็เท่านั้น” “คุณจะกลับแล้วเหรอ” “อยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรหนิ” “ผมขับไปส่ง” “ไปส่งผมที่ร้านดีจี-เกรดผมจอดรถไว้ที่นั้น” เสียงหยดน้ำค่อย ๆ หยดลงมา โคจิม่าหอบหายใจเขากระพริบภาพตรงหน้าเหมือนตึกร้างสักแห่ง เขาพยายามแกะเทปที่แขนไว้ แขนเขาถูกมัดไว้ข้างหลังเพราะนั่งท่านี้นานทำให้ตระคริวเริ่มกิน เขาปวดหนึบ ๆ ที่ไหล่...เรจีน่าเธออยู่ในสภาพเดียวกับเขาตรงที่พวกเขาอยู่มีแสงอาทิตย์รอดเข้ามาจากหน้าต่างที่แตกกระจัดกระจาย เขาขยับตัวอีกครั้งเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เขาหยุดมองเงาที่เดินเข้ามา “ไงตื่นแล้วเหรอ” รอยยกเก้าอี้มานั่งตรงหน้าเขาในมือมีเข็มฉีดยาพร้อมยาเต็มกระบอก โคจิม่ามองไม่กระพริบ เขาตื่นตัวเต็มที่พร้อมสู้กับฆาตกรตรงหน้า รอยยักคิ้วข้างหนึ่งมองเข็มฉีดยา “อ้อ...ผมไม่ฉีดพร่ำเพื่อหรอก มันเปลืองน่ะ มอร์ฟีนใช่ว่าหาซื้อที่ไหนได้ ผมเสี่ยงไปซื้อกับพวกพี้ยาทั้งที่ตัวเองถูกตามล่าแบบนี้” รอยขยับเข้ามาใกล้ “ถ้าคุณทำตัวดีผมอาจใจดีปล่อยคุณกับน้องสาวคุณไป” เสียงมือถือรอยดังขึ้น เขาอ่านข้อความที่ส่งมา โคจิม่าส่งเสียงอู้อี้เพราะเทปกาวแปะติดกับปากเขาอยู่ “คุณอยากพูดแต่ผมไม่อยาก” รอยลุกขึ้นยกเก้าอี้เก็บที่ “ผมต้องไปแล้วเดี๋ยวกลับมาใหม่” เขาเดินหายไปในมุมมืด ชานส์มาถึงร้านแต่ผู้จัดการให้เขากลับบ้านไปก่อน เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้พนักงานคนอื่นไม่สบายใจ เขาเข้าใจดีเลยไม่พูดอะไร เขาสตาร์ถรถก่อนขับกลับบ้านโดยที่มีใครบางคนตามดูเขาอยู่ขับไปได้พักใหญ่เขาสังเกตุเห็นรถสีดำคนหนึ่งขับตามเขามาเพราะเขาขับเลยบ้านตัวเองมาไกลมาก เขาคิดว่าจะทำยังไงดี “เปิดรายชื่อ” แผงควบคุมหน้ารถปรากฎเบอร์โทรและชื่อ “โทรหาเดวิด” สัญญาติดปลายสายรับ “ฮัลโหล” “เดวิดมีคนตามผม” “คุณเห็นเขาไหม” “ไม่...เขาขับตามผมมาได้พักใหญ่แล้ว” เดวิดสบถ “ขับไปที่ร้านกาแฟโลโรผมจะรีบไปเดี๋ยวเนี่ย” ชานส์กดวางสายรีบเร่งเครื่องไปยังที่หมาย เขาพยายามมองรถด้านหลังเหมือนคนที่ตามจะรู้ว่าเขารู้แล้วรถสีดำเปลี่ยนเส้นทาง แต่ชานส์ไม่หยุดรถเขาขับไปยังร้านกาแฟ พอเขามาถึงเดวิดมารออยู่ก่อนแล้ว “มันตามมาอยู่ไหม” ชานส์ส่ายหน้า “มันเลี้ยวขวาเขาซอยหายไปเลย” “บ้านคุณไม่ปลอดภัยไปที่สถานนีเถอะ” ชานส์จำยอมทำตามถึงขี้เกียจจะอยู่ที่นั้นแต่ปลอดภัยไว้ก่อน ยี่สิบนาทีต่อมาชานส์ตัดสินใจทิ้งรถไว้ที่ศูนย์จอดรถเขานั่งไปกับเดวิด เดวิดโทรบอกผู้กำกับดีนว่าจะพาชานส์ไปที่สถานนีให้ชานส์พักที่ห้องรับรองในสำนักงานของผู้กำกับ “ดีที่คุณไหวตัวทัน” “ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกแล้ว” เดวิดมองชานส์แวบหนึ่งเขาไม่เคยได้สังเกตุชานส์ เพื่อนเขาผอมไปมากชานส์ดูอิดโรยเหนื่อยกับการหนีไหนจะจากพี่ชายตัวและตอนนี้ก็มาเจอคนตามเขาอีก “ผมกับแฮร์รี่จะผลัดอยู่เป็นเพื่อนคุณ คุณควรได้รับการคุ้มกัน” “อืม...” ชานส์นั่งตะแคงข้างยกขาขึ้นเกือบชันเข่า เจ้าตัวหลับสนิท เดวิดนวดไหล่ชานส์ “หลับซะ” เดวิดเลี้ยวขวาเข้าสู่สถานนีผู้กำกับดีนมารอรับ พอเดวิดจอดรถแล้วดับเครื่องเขาลงรถเดินอ้อมมาเปิดประตูฟังชานส์ “เขาเป็นอะไร” “หลับน่ะครับ” เดวิดอุ้มชานส์ออกมา ชานส์หลับสนิท “เขาเหนื่อยมามากเข้าข้างในเถอะ” ผู้กำกับดีนเดินนำไปห้องรับรองในห้องทำงานของเขา โต๊ะทำงานของเพื่อนร่วมงานโล่งโจ้ง “ทุกคนไปไหนหมดครับ” “โรจินสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนไปประจำตำแหน่งที่วางแผนไว้” “คิดว่าได้ผลเหรอครับ” “คงต้องรอดูกันไป” ผู้กำกับดีนเลื่อนเปิดประตูห้อง เดวิดวางชานส์บนโซฟายาว ผู้กำกับดีนยื่นผ้าห่มให้ “ขอบตาคล้ำไปหมด” เดวิดรับมากางห่มให้ชานส์ “รอย...” ชานส์พึมพำออกมาเดวิดชะงักผู้กำกับดีนเดินมานั่งลงข้าง ๆ มือใหญ่หนาลูบผมชานส์เบามือ “ปล่อยเขานอนเถอะเขาเจอมาเยอะทั้งวันแล้ว” ผู้กำกับดีนเรียกให้เดวิดตามเขาไป“ผมว่าพี่ชายเข้ากลับมาไม่ได้คิดจะกลับมาฆ่าหรอกแต่เพราะนึกถึงอดีตที่เจ็บปวด เขาเลยบ้าเลือดขึ้นมา เขาแค่อาจอยากกลับมาเอาของล้ำค่าคือก็เท่านั้น” เดวิดเหล่มองชานส์ที่หลับในห้องก่อนเดินตามผู้กำกับดีนไป ฉันส่องกล้องส่องทางใกล้ เจ้าผู้กำกับนั้นดูไม่เลวร้ายนักเจ้าหนุ่มนั้นเหมือนกัน สถานที่เน่าเฟะแบบนั้นอาจยังมีสิ่งดี ๆ อยู่แต่มันน้อยไป ฉันเห็นหนุ่มอีกคน...คนนี้ดูเหมือนผู้หญิงนิดหน่อยชื่อแฮร์รี่ล่ะมั้ง เด็กนั้นยกเก้าอี้มานั่งข้างโซฟาที่ชานส์นอนแล้วก็นั่งอยู่แบบนั้น ฉันมองภาพตรงหน้าในหัวโล่งไปหมดมีอีกหลายคนที่ฆ่าให้ได้ หลายวันมานี้ฉันฆ่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับไอแก่นั้นที่เหลือให้พวกเจ้าหน้าที่จัดการเอง รวมถึงการหาตัวเอฟบีไอสองคนนั้นอาจพอถ่วงเวลาได้หน่อย ถ้าคนพวกนั้นยังตายไม่หมดเรื่องอะไรฉันต้องโดนจับ แต่แค่เอฟบีไอคงไม่พอ...เอาใครอีกดี รถสีดำคันหนึ่งฉันไม่เห็นยี่ห้อแต่เคยเห็น “คนของประธานาธิบดีเหรอ” เขาได้ข่าวว่าแม้แต่ประธานาธิบดีออกคำสั่งให้ตามจับฉันด้วย...อื้ม...น่าสน รถนั้นจอดสนิทฝั่งเดียวกับสถานนี คงรอช่วงสถานนีปลอดคนแล้วเขาไปลักพาตัวชานส์ “คนเดียวที่มีสิทธิ์ได้ตัวชานส์มีแค่ฉันเท่านั้น” ฉันไม่ยอมสูญเสียอีกครั้งแน่ ฉันเก็บกล้องส่องทางใกล้หยิบกระเป๋าเก็บปืนไรเฟิลออกจากตึก แฮร์รี่นั่งเฝ้าชานส์ไม่ห่างคอยมองว่าเขาจะตื่นเมื่อไหร่ แฮร์รี่กับชานส์กลายเป็นเพื่อนสนิทกันตอนพวกเขาได้รับมอบหมายภารกิจให้ตามจับผู้ก่อการร้ายที่ผันตัวเองไปเป็นสุดยอดนักฆ่า พวกเขาตามจับอยู่นานจนเจอแหล่งกบดาน แต่เป็นว่าผู้ก่อการร้ายพวกนั้นโดยพี่ชายชานส์ฆ่ายกแก๊ง คดีครั้งนั้นก่อนเกิดคดีฆาตกรล่องหนหลังจบงานพวกเขามักจะนัดไปเที่ยวกันพร้อมกับเดวิด ทั้งสามซี้ปึกขนาดขอเบื้องบนให้ทำงานหน่วยเดียวกัน...ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนหมดชานส์ลาออก เดวิดกลายเป็นคนเงียบขรึม ส่วนแฮร์รี่เอง... “ถ้าเรื่องทุกอย่างจบพวกเราสามคนไปเที่ยวกันไหม ผมมีสถานที่แนะนำเยอะเลยไปค้างสักคือสองคืนคงสนุกน่าดู” เสียงเดวิดังอยู่ข้างนอก “เขามาแล้วผมไปก่อนนะ” “แฮร์รี่ เขาตื่นยัง” “ยังเลย” แฮร์รี่มองนาฬิกาข้อมือ “ผมออกเวรแล้วพรุ่งนี้จะรีบมาแต่เช้านะ” “ระวังตัวด้วยล่ะ” “อาฮะ” แฮร์รี่วิ่งเหยาะ ๆ ไปที่รถ ตรงที่เขาจอดเกือบมือสนิทมีรถเหลือไม่กี่คัน เขาแตะตัวปลดล็อคประตู มีมือปริศนาปิดปากเขาพร้อมรวบตัวเขาไปที่รถสีดำที่จอดตรอกข้างสถานนี แฮร์รี่พยายามดิ้นขัดขืนเห็นสัญลักษณ์ตึกใหญ่กับตัวอักษรแอลตัวพิมพ์ใหญ่ ‘แอล’ ย่อมาจากหลีดเดอร์ แฮร์รี่มองคนที่จับเขา คนของประธานาธิบดีตัวใหญ่กว่าเขาแค่มือเดียวก็จับแขนของแฮร์รี่ได้ทั้งสองข้าง “ชานส์ โฮวินสันต์อยู่ไหน” แฮร์รี่กัดเข้ามือที่จับตัวเขาไว้ มืออีกข้างของชายตรงหน้าตบเข้าที่หน้าของเขา แฮร์รี่นิ่งงันภาพตรงหน้าเบลอ เขาหยุดดิ้น “ถามครั้งสุดท้ายชานส์ โฮวินสันต์อยู่ไหน” เมื่อแฮร์รี่ไม่ตอบชายตัวใหญ่มือข้างที่ว่างถอดเข็มขัดแฮร์รี่ “งั้นเรามาสนุกกันก่อนดีกว่า” มือใหญ่ป้วนเปี้ยนแถวกระดุมกางเกงแฮร์รี่ เงาดำเดินมาข้างหลังในมือมีมีดสั้นมันสะท้อนกับแสงดวงจันทร์เผยให้เห็นปลายอันคมกริบพร้อมสำหรับการฆ่า มีดนั้นปักเข้าจุดตายคนของประธานาธิบดีร่วงลงพื้นทันที แสงจันทร์สาดส่องใบหน้าคมเข้มของรอยไร้ความรู้สึก มองเลือดที่ไหลนองสลับกับแฮร์รี่ที่กำลังลุกขึ้นนั่ง “เจ็บมากไหม” รอยเข้าดูแผลที่ปากแฮร์รี่ “แฮร์รี่ใช่ไหม” แฮร์รี่เงยหน้ามองใบหน้าที่เหมือนเพื่อนอย่างกับแกะ “ร...รอย” “อืม...มองใกล้ ๆ น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย ไม่ต้องกังวลฉันไม่ทำเรื่องอย่างว่าหรอก” รอยมองซ้ายมองขวา “มืดแล้วไปกับฉันละกัน” รอยอุ้มแฮร์รี่ที่กึ่งหลับกึ่งตื่นเพราะโดนตบไปที่รถสปอร์ตของตน เขาวางแฮร์รี่ที่เบาะหลังจัดท่านอนให้เขานอนสบายที่สุด เขาขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยมองที่สถานนีก่อนออกรถ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม