ฉันนั่งเขียนจดหมายหาใครคนหนึ่งใจความบอกเล่าเรื่องราวที่ไอแก่กับคนที่ฉันเขียนหาทำเอาไว้ อาจจะถึงยากหน่อนแต่แค่ใช้นามสกุลโฺฮวินสันต์มันต้องยอมอ่านแน่ถึงไอแก่นั้นจะตายไปแล้วก็เถอะ มันจะมาเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของฉัน
"ขอเวลาเก็บที่เหลือก่อน" ฉันมองชายที่โดนจับมา "เริ่มกันเลย"
ชานส์ยังอยู่ที่สถานนีเขาถูกกักบริเวณและถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เขานั่งอ่านข่าวเหยื่อรายใหม่มิสเตอร์ อดัม ริมาฮาน อาศัยอยู่ที่คอนโดวาเลนเซียในเขตซีเจ้าตัวทำงานที่เขตเฮชเรื่องถ้าจะจับตัวเขา บวกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สถานนียิ่งทำให้ชานส์โดนสงสัยหนักขึ้นว่าเขาบอกตำแหน่งให้รอยยิงมาที่นี่ ไงซะกระสุนพุ่งเฉียดไปนิดเดียวรอยคงรีบร้อนน่าดูเรื่องยิงปืนรอยถนัดนักแลไม่มีทางที่จะพลาด ถ้าชานส์คิดจะช่วยรอยคงไม่บอกให้พวกเขาหลบกระสุน
เสียงเคาะประตูดึงเขาออกจากพะวง ประตูเลื่อนเปิดเดวิดเดินเข้ามาในห้อง
"เข้าไปนะ" เดวิดนั่งฝั่งตรงข้าม "เพิ่งเคยเห็นคนกล้าต่อปากต่อคำกับผู้อำนวยการโรจินนะเนี่ย"
“พูดธุระของคุณเถอะ”
เดวิดมองหน้าเขา "คนอุตสาห์ชม"
“ธุระ”
“มีคนเห็นเขาก่อนที่จะหายไป”
“ที่ไหน”
"คนที่ทำงานบอกว่าเจอริมาฮานครั้งสุดท้ายเมื่อตอนเที่ยงนี้เอง พวกเขากำลังจะไปทานอาหารกลางวันทุกคนอยู่หมดยกเว้นริมาฮาน หลังจากนั้นไม่ใครเจอเขาอีก เพื่อนของเขาเลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่” และหลังจากนี้ไม่วันนี้ตอนกลางคืนก็พรุ่งนี้เช้าอดัมก็จะตาย เหยื่อแต่ละรายของรอยเจ้าตัวไม่ปล่อยให้รอดเกินสองวัน
“แค่นั้นไม่พอหรอก ข้อมูลต้องมากกว่านี้”
“เราพยายามอยู่คุณคิดว่าจะเจอตัวมาริฮานไหม”
“คงยาก ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้พวกคุณจะเจอเพียงร่างที่ไร้วิญญาณของเหยื่อ”
ประตูเลื่อนเปิดอีกรอบ
“แฮร์รี่”
“ผู้กำกับดีนให้คุณพาชานส์ไปส่งที่บ้านเขา ผู้กำกับดีนเกลี้ยกล่อมผู้อำนวยการอยู่นานกว่าฝ่ายนั้นจะยอมปล่อยตัวชานส์ไป”
“ผมเอารถมา” ชานส์ลุกขึ้นเดินออกไปเขาบอกทุกอย่างไปหมดแล้วที่เหลือขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขา เขากำลังจะขึ้นรถเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
‘เบอร์ไม่คุ้นเลย’
“โฮวินสันต์พูดครับ” เสียงจากปลายสายทำเขาชะงัก
ชานส์ขับรถไปที่ตรอกแห่งหนึ่งในเขตเอแถวนี้ไม่มีผู้คนเพราะแถบนี้ติดกับทุ่งโล่งกว้างมักมีสัตว์ป่าชุกชุมนอกจากพวกทำไร่ปศุสัตว์เท่านั้นที่สามารถอยู่ได้ คนส่วนใหญ่ทิ้งบ้านแถบนี้ไปอยู่ในเมืองแทน เขาจอดรถรอคนที่โทรมาเขาคิดว่าจะพูดแก้ตัวยังไงถ้ามีคนเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน ณ ตอนนี้
ประตูรถเปิดรอยเข้ามานั่งชานส์กดเปิดฟิมล์กระจกมันมืดพอไม่ให้คนข้างนอกเห็นข้างใน รอยนั่งมองฟิมล์กระจกเปลี่ยนสีเป็นสีดำผ่านไปพักหนึ่งเขามองชานส์
“ผอมไปเยอะนะ”
“เครียดนิดหน่อย” เขายิ้มให้พี่ชาย
“นายไปเจอกับพวกเจ้าหน้าที่มา”
“โดนสงสัยนิดหน่อย วันที่นายฆ่าแอสลอนหลังจบถ่ายทอดสดฉันแอบหนีออกมาเลยโดนไปด้วย”
“พวกมัน...”
“ฉันปลอดภัย”
“แค่ตอนนี้” รอยทำเสียงฮึดฮัดเขาไม่สบอารมณ์ที่คนพวกนั้นเข้ามายุ่งวุ่นวายระหว่างเขากับชานส์
“ฉันต้องรีบกลับอีกสองชั่วโมงเดวิดจะไปที่บ้าน”
“ริมาฮานจะตายพรุ่งนี้ตอนเช้าฉันมาบอกว่าฉันไม่ใช่คนที่ฆ่ามัน มันเหมือน ‘หลุมหลบภัยเก่าสมัยสงครามโลก’ ให้พวกมันหาแถวนั้นดู
“ทำไม”
“ความหวังไงสิ่งที่พวกมันอยากได้ ฉันบอกแล้วที่เหลือให้พวกมันหาเอง” รอยปัดฝุ่นตรงไหล่ชานส์ “นายบอกว่าเพื่อนนายจะไปที่บ้านอย่าลืมบอกล่ะ” ก่อนที่รอยจะออกจากรถ
“หยุดเถอะ หยุดเถอะรอยให้จบแค่นี้จบที่ครอบครัวเราอย่าดึงใครมาเกี่ยวข้องอีก”
“ไม่มีอะไรจบถ้าพวกสารเลวนั้นยังอยู่ ฉันฆ่าพวกมันหมดเมื่อไหร่นั้นล่ะถึงจบ” ว่าจบรอยเดินหายเข้าไปในตรอกทิ้งให้ชานส์ร้องไห้คนเดียวอยู่ในรถ
ยี่สิบนาทีต่อมาชานส์มาถึงบ้านเขาเห็นเดวิดนั่งรอตรงบันไดทางขึ้น
“คุณไปไหนมา”
“นั่งรถเล่น” ชานส์โกหกหน้าตาย
“คุณเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่นะถูกตราหน้าว่าช่วยฆาตกรหลบหนี ยังไปไหนมาไหนไม่บอกผมเนี่ยนะ” เดวิดยกมือยอมแพ้ “ตามสบายอยากทำอะไรก็ทำ” เดวิดลุกเดินลงบันไดไป
“หลุมหลบภัยเก่าสมัยสงครามโลก”
“อะไรนะ”
ชานส์มองเดวิด “หลุมหลบภัยเก่าสมัยสงครามโลกริมาฮานถูกจับไว้ที่นั้น” ชานส์เปิดประตูบ้าน
เดวิดมองชานส์ไม่เชื่อสายตา “คุณไปเจอเขามา”
ชานส์หันไปนิดหนึ่งแล้วเดินเข้าบ้าน
วันนี้ฉันเจอน้องชายอีกครั้งเขาสูบผอมไปเยอะคงโดนหางเลขไปด้วย
“ฉันพานายมาเจอเรื่องยุ่งจนได้” ฉันยืนมองรูปถ่ายในโทรศัพท์ที่เขาแอบถ่ายไว้ตอนกลับมาเมืองนี้รอบแปดปี ฉันเสียใจมาตลอดที่ตัวเองไม่สามารถดูแลน้องชายคนนี้ได้ทิ้งเขาไว้กับนรกที่ไม่สิ้นสุดแต่หลังจากกลับมาฉันเห็นสีหน้ายิ้มแย้มของเขารู้สึกโล่งใจที่เขาสามารถผ่านอุปสรรค์เหล่านั้นไปได้ ฉันคิดว่าจะพาเขากลับมาอยู่กับฉันเราจะได้อยู่ด้วยกัน แต่ฉันดันเห็นคนพวกนั้นสารเลวที่ทำให้ชีวิตเขาเหมือนตกนรกทั้งเป็นทำให้ฉันกับชานส์ต้องแยกจากกัน บังคับให้ฉันต้องทำร้ายเขา!
ฉันมองอดัมตามตัวมันเต็มไปด้วยบาดแผลลึกพอเรียกเลือดได้ ฉันมองแผลอย่างพึงพอใจใจผลงานของตัวเอง ฉันดูข้อมูลในโทรศัพท์
“เหลืออีกหนึ่งคน”
ฉันออกมาจากหลุมปล่อยให้มันรอความตาย เลือดที่ไหลออกจากแผลมากพอที่จะเรียกหนูทั้งฝูงมากินเลือดสด ๆ
เช้าวันใหม่พร้อมข่าวที่ชวนสลด
“ชาวบ้านผวาเห็นหนูนับร้อยในหลุมหลบภัยเก่าหลังลงไปดูถึงกลับผงะ ศพชายนิรนามกำลังโดนหนู่แทะตามตัวมีบาดแผลจากมีดและหนูแทะ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สันนิฐานว่าผู้ตายคือมิสเตอร์ อดัม ริมาฮาน ที่หายตัวไปเชื่อว่านี้เป็นฝีมือของฆาตกรล่องหนที่กลับมาอีกครั้งเจ้าหน้าที่ทุกเขตเร่งตามล่าฆาตกรรายนี้ ชาวบ้านหวาดผวากับสิ่งที่เกิดขึ้นในเขตเฮซ...”
ชานส์กดปิดทีวีสุดท้ายก็ไม่มีใครหาเจอ เดวิดโทรมาบอกว่าหลุมหลบภัยที่อดัมถูกจับไว้อยู่นอกเขตการค้นหาไม่แค่นั้นหลุมหลบภัยที่ว่าก็มีหลายจุดส่วนใหญ่ปิดตายไปแล้ว กว่าเจ้าหน้าที่จะเจอหลุมที่อดัมถูกจับไว้เล่นเอานานทีเดียว ในที่เกิดเหตุปริมาณเลือดของผู้ตายมากพอที่พวกหนูมาแทะทั้งฝูง ชานส์สลัดภาพพวกนั้นออกจากหัวหยิบเสื้อคลุมไปทำงาน
ที่ทำงานเต็มไปด้วยช่วงเวลาสงบสุขเขาทำงานตามปกติหลังหยุดงานมานาน
“มิสเตอร์ชานส์ โฮวินสันต์”
“ครับ”
เจ้าหน้าที่สองคนมายืนหน้าเคาน์เตอร์ หนึ่งในนั้นชูตรา “คุณโดนจับข้อหาสมรู้ร่วมคิด”
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาหลังเคาน์เตอร์จับมือเขาไพ่หลัง “คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด คำพูดทุกคำสามารถเอาผิดคุณได้ในชั้นศาล แต่ถ้าคุณต้องการทนายเราจะหาให้” ชานส์เดินตามแรงผลักของเจ้าหน้าที่ ทุกคนมองเป็นตาเดียวเพื่อนของเขาถลาเข้ามาชานส์ส่ายหน้าห้ามไว้ พอถึงที่หมายพวกเขาพาชานส์เข้าไป แต่ไม่ได้พาไปที่ห้องขังกลับพาไปที่ห้องประชุมในห้องทุกคนอยู่ครบมีเพียงสองพี่น้องเอฟบีไอที่ไม่อยู่คราวนี้พวกเขานั่งอยู่อีกฝั่งเขานั่งลงฝั่งประตูทางเข้า
“หวังว่าจะมีคำอธิบายดี ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำ”
ชานส์เงียบนี่เป็นทางเลือกเดียวแล้วขืนพูดแม้คำเดียวเขาอาจโดนมากกว่าติดคุกแน่
“ยังเงียบอยู่อีก” เจ้าหน้าอวุโสผู้หญิงมองเขา
“ผมไม่สิทธิ์พูดจำไม่ได้เหรอ”
“เราจะเป็นคนกำหนดสิทธิ์เองพูดมาเถอะ”
นาที สองนาที สามนาทียังคงมีแต่ความเงียบโรจินตบโต๊ะแล้วตวาดขึ้น
“เราจะมัวเสียเวลาทำไววะ เอามันไปขังไว้มันจะพูดหรือไม่ผมไม่สนหลังจากเราจับเจ้าฆาตกรนั้นได้จะได้ฆ่าทั้งพี่ทั้งน้องเลย”
“ใจเย็นน่าโรจิน” ผู้กำกับดีนว่าโรจิน
“แกเย็นไปคนเดียวเถอะ ติดต่อเจ้าหน้าที่คราวิ่นทั้งสองคนได้ยัง”
“ยังครับโทรศัพท์ของพวกเขาปิดเครื่องด้วย”
“บัดซบ!”
มือถือของผู้กำกับดีนดังขึ้น “ผู้กำกับดีนพูด...เข้าใจแล้ว” เขาสั่งให้เดวิดเปิดจอภาพขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ในห้อง
จอภาพกำลังเชื่อมต่อสัญญาณแบบออนไลน์แล้วภาพปรากฏ
“นั้น...”
“สวัสดีทุก ๆ ท่าน” ใบหน้าที่ปรากฏเหมือนชานส์ทุกระเบียบนิ้ว ในห้องหันมองชานส์ก่อนหันไปที่จอภาพดังเดิม
“แกเข้ามาในเครือข่ายนี่ได้ไง”
“แฮกข้อมูลนิดหน่อย พวกคุณคิดจะทำอะไรกับน้องชายของผม”
“ถามได้เขาสมรู้ร่วมคิดกับแก”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงป่านนี้เขาไม่อยู่ให้พวกคุณจับหรอก ผมพาเขาออกจากเมืองนี้ไปแล้ว...เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดผมเป็นคนทำเองเขาไม่ได้เกี่ยวด้วยเลย พวกคุณคิดเตลิดไปไกลมากเลยนะ”
“คิดว่าจะหนีไปได้ตลอดเหรอ”
รอยยักไหล่ “ไม่ลองไม่รู้” เขาเอี่ยวตัวหลบข้างหลังเขาเอฟบีไอสองคน โคจิม่ากับเรจีน่ามือกับเท้าถูกจับมัดมีเทปปิดปากพวกเขาเหมือนคนเมายาแต่รอยประชิดพวกเขาได้ยังไง
“มันจำเป็น” รอยตัดเพ้อเขาปลอมตัวเป็นชานส์ไปหาสองพี่น้องคราวิ่นก่อนวางยาพวกเขา
“มากไปแล้ว” โรจินพูดรอดรอยฟัน
“สาบานถ้าแกทำอะไรพวกเขา...” ผู้กำกับดีนลุกพรวด
“กระต่ายตื่นตูมไปได้มิน่าชานส์ถึงได้เกลียดพวกคุณนัก ผมมีเป้าหมายในใจแล้วพวกเขาก็แค่เด็กซนที่เข้ามายุ่งเรื่องชาวบ้าน...เกะกะ...อีกหนึ่งวันผมจะโทรหาพวกคุณอีกเพื่อบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จริง ๆ แล้วผมน่าจะทำแบบนี้แต่แรกน้องชายผมจะได้ไม่โดนหางเลขไปด้วย”
“แก...”
“ฟังให้ดีนี่เป็นคำใบ้สุดท้ายที่ผมจะให้พวกคุณ ถ้าพวกคุณหาคำตอบได้ก่อนที่ผมจะบอกข้อมูลผมไม่รับประกันว่าสองพี่น้องนี่จะรอด ชายผู้ที่เป็นดั่งพระเจ้าเป็นผู้บันดารสิ่งของต่าง ๆ ให้ผู้คนได้ใช้สอยชายที่ทุกคำพูดประกาศิษย์ดังพระเจ้าแต่เขาคือปีศาจร้ายที่ทำให้ผู้คนที่ศรัทธาในตัวเขาต้องตาย...เจอกันนะ” สายถูกตัดไป
“ใบ้อะไรของมัน”
“เหยื่อ...เหยื่อที่ทำให้เขาตกนรกทั้งเป็น”
“จะบอกว่าเอฟบีไอสองคนนั้นเป็นหนึ่งในนั้นด้วยเหรอ” แฮร์รี่มองเขา
“สองคนนั้นอยู่ผิดที่ผิดเวลา” ชานส์มองพวกเขาแต่ละ “ผมบอกพวกคุณแล้วเตือนแล้ว...เป็นไงละสมใจแล้วสิ”
"ก..."
"พอได้แล้ว" ผู้กำกับดีนยุติ "ช่วยกันคิดเกี่ยวกับคำใบ้พวกนี้เถอะ" เขาสั่งเจ้าหน้าที่ "ปล่อยเขา"
เจ้าหน้าที่ทำตามคำสั่งแบบไม่เต็มใจนักเขาปลดกุญแจมือออก ชานส์ลูบข้อมือ
“พูดมา”
“วันที่พวกเขามาหาผมผมเตือนแล้วว่าอย่ายุ่งกับเรื่องนี้เพราะถ้าผมถูกจับหรือพวกคุณมาพัวพันกับชีวิตผมรอยจะเห็นพวกคุณเป็นศัตรูและจะไม่หยุดจนกว่าพวกคุณจะตาย”
“งั้นเราควรทำยังไง” ผู้อวุโสผู้หญิงถาม
“ทำในสิ่งที่เขาต้องการ...เลิกยุ่งกับพวกเราเขากลับมาเพื่อฆ่าคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ก็เท่านั้น”
“ปล่อยให้พวกเขาตายน่ะเหรอ”
“พวกเขาแค่ชดใช้กรรมที่ก่อไว้”