อิงเยี่ยหลิงสืบเท้าไปช้าๆ พร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้า ในจังหวะนั้นเอง ก็สัมผัสได้ถึงฝาผนังด้านข้างรถม้าซึ่งเป็นไม้แผ่น “ไม่เลว ค่ายกลอำพรางตา สตรีผู้นี้ ฝีมือพอใช้ได้” ในขณะที่อิงเยี่ยหลิงลูบๆ คลำๆ หาทางเปิดประตูรถม้า เสียงเห่าของลูกสุนัขก็ดังจากด้านหลัง กระนั้นนางกลับไม่สนใจ เรื่องตรงหน้าสำคัญอย่างยิ่งยวด จวบจนรู้สึกว่าชายเสื้อถูกดึงอย่างแรง นางจึงหันกลับหลังและเห็นเต้าเหนิงกำลังคาบเสื้อของตน ทั้งกระชากจนเกือบขาด “ปล่อยข้านะ เด็กเหลือขอ!” เด็กชายทำตาแป๋ว เขาฉุนจัดทีเดียว ทั้งจวนไม่เคยมีใครเรียกเขาเช่นนี้ แม้แต่ท่านย่า ผู้ที่ทั้งน่ากลัว และมักหาเรื่องกักขังเขา ฝ่ายนั้นยังฝืนใจ และกัดฟันกรอดๆ เรียกเขาว่า ‘เหนิงเหนิง ของย่า’ ฝ่ายอิงเยี่ยหลิงหงุดหงิดเป็นทุนเดิม และกลัวจะมีคนมาพบตัวนางเข้า อีกทั้งใบหน้าของเต้าเหนิงวาดสีดำเปรอะเปื้อน เสื้อผ้ามอมแมม มองแล้วเหมือนเป็นลูกของคนรับใช้ หรือ