ห้าวันต่อมา หยุนเมี่ยงทำตัวเป็นปกติ นางไม่ได้ไปก่อเรื่องร้ายแรงอันใด ก็แค่สั่งบ่าวให้ไปตามสินเดิมของตนกลับคืน ฝ่ายชิวหงแจ้งว่า บางอย่างส่งเข้าคลังใหญ่แล้ว ซึ่งส่วนมากเป็นอาหารที่มีอายุจำกัด และของอื่นๆ ทั้งผ้าแพรรวมถึงเครื่องประดับ นางไม่ได้แตะต้อง เรื่องนี้ทำให้รู้ว่าจิวเจียกยี้ยังพอมีคุณธรรมขั้นพื้นฐานอยู่บ้าง มิใช่สุนัขหิวโซ คิดจะขโมยของผู้อื่นอย่างหน้าด้านๆ “เอาเถอะ หากข้ามัวแต่ห่วงของกิน ชาตินี้คงไม่สงบสุข ปล่อยให้พวกนางได้ อยู่ดี กินดีบ้าง เห็นว่าคลังหลักของจวนกลวงโบ๋มาเกือบครึ่งปี ส่วนพวกเจ้าไม่ต้องห่วง ว่างเมื่อใดข้าจะทำหม้อไฟรสชาติที่อร่อยที่สุดในสามโลกให้ได้กินกัน” นางบอกกับจงลี่ และฮึงซวน เสียงดังกล่าวดังไปเข้าหู คนตัวโต ที่วันนี้แวะมาหานางที่เรือนสุ่ยเซียนก่อนออกไปพบฮ่องเต้แคว้นต้าจิน (หวังหรงเทา หรือ จินอ๋อง) ที่นอกเมืองเนื่องจากมีพิธีล่าสัตว์ป่า อันเป็นประเพณีสืบทอดมาช้