บ่ายโมงที่เธอ ลูกและธรรศอยู่เฝ้าดูแลคุณป้าแต่กลับถูกท่านไล่กลับในเวลาต่อมา เพราะท่านว่าท่านอยากพักผ่อน และไม่อยากให้หลานตัวน้อยมาคลุกคลีในโรงพยาบาลนัก
แม้ตอนนี้จะมีถุงยาอีกถุงห้อยข้างถุงน้ำเกลือ แถมยังมีสายออกซิเจนคล้องที่จมูกเพิ่มเข้ามาอีกด้วย แต่พอถาม ท่านก็บอกว่าแค่เหนื่อยเท่านั้นและหมอขอตรวจเพิ่มและจัดยาตามอาการเพียงเท่านั้น มัชฌิมาจึงจำใจยอมกลับมาบ้านในที่สุด
ถึงบ้านแล้ว ธรรศออกรถไปทันที
แม้จะพูดตัดความต้องการไปแบบนั้นแต่เสี้ยวหนึ่งในใจรู้สึกวูบโหวงไปเช่นกัน
ไม่ถึงชั่วโมงดีที่เขาวนรถกลับมา ธรรศไม่ได้เลิกราไปง่ายๆจริงๆอย่างที่เธอแอบหวัง ซ้ำคราวนี้ยังมาพร้อมเด็กสาวรุ่นๆหนึ่งคน บอกแต่ว่าให้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ก่อนจะขับรถออกไปอีกครั้ง
เด็กสาววัยรุ่นอายุอานามน่าจะไม่เกินยี่สิบปี ชื่อ มาย ช่างคุย ช่างซักถามไปเสียทุกเรื่องจนเธออ่อนใจจะตอบ ในความอ่อนใจยังมีเรื่องดีๆของเด็กสาวชื่อมายอยู่บ้าง ตรงที่ช่างเล่นกับน้อง ดูแลพอใจเข้าขั้นดีทีเดียว
“คุณอุ่นเคยอยู่แถวนี้ แล้วทำไมถึงย้ายไปละคะ” จู่ๆเด็กมายก็ถามขึ้น
“พี่แต่งงาน แล้วเลยย้ายไปกับสามีน่ะจ้ะ”
มัชฌิมาแทนตัวเองว่าพี่ พร้อมบอกอีกฝ่ายให้เรียกตนเองว่าพี่ แต่เด็กมายยังเรียกเธอว่าคุณอยู่อย่างนั้น ราวกับถูกใครสั่งการมา
เด็กมายยังคงซักไซ้ต่อเนื่อง
“แล้วทำไมสามีของคุณอุ่นไม่มาด้วยละคะ”
“สามีพี่เสียแล้ว”
“อ้าว...อุ้ย ขอโทษค่ะ อย่างนี้คุณอุ่นก็เป็นหม้ายน่ะสิคะ”
มัชฌิมาทำเพียงยิ้มบางๆตอบรับเด็กสาว
“แล้ว…ตอนนี้คุณอุ่นมีแฟนใหม่หรือยังคะ”
คนถูกถามยังไม่ทันตอบเสียงรถที่เธอเริ่มคุ้นเคยก็ขับเข้ามาในบ้าน พร้อมจอดเคียงที่รถของเธอ บุตรสาวของเธอที่เล่นอยู่ในบ้านชะเง้อคอมองยืดยาว พอเห็นว่าเป็นใครก็กระโดดจนตัวลอย ดีใจออกนอกหน้า จนมัชฌิมาส่ายหัวเริ่มระอาหน่อยๆ
“คุณลุงมาแล้ว คุณลุงมาแล้ว” เสียงเล็กๆพูดซ้ำอยู่ประโยคเดิม
เด็กมายมองไปทางเจ้านายหนุ่มที่เพิ่งลงรถมาพร้อมถุงสัมภาระมากมายในมือ ก่อนจะหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้หม้ายสาวแล้ววิ่งปู้ดออกไปช่วยถือของเข้าบ้าน
แค่ธรรศเยี่ยมหน้าเข้ามา บุตรสาวตัวดีก็ชวนออกไปเที่ยวเล่นทันใด
“คุณลุงขา พอใจอยากไปดูน้ำตกเล็กๆที่คุณลุงบอกว่าส้วย สวยน่ะค่ะ อยู่ตรงไหนเหรอค้า...”
“ขออนุญาตคุณแม่รึยังครับ”
ผู้เป็นมารดาส่ายหน้าเป็นคำตอบ ใบหน้าเรียบนิ่ง ยามจริงจังบุตรสาวจะกลัวเธออยู่บ้างหรอก“ไม่ต้องไปหรอกลูก น้องยังไม่ได้นอนกลางวันเลยนะคะ”
“แต่.. น้องอยากไปค่ะคุณแม่ขา...”
เสียงน้อยๆอ่อยลงฟังดูน่าสงสารทีเดียว และเธอไม่อยากให้บุตรสาวต้องใกล้ชิดกับเขานัก เพราะอีกไม่กี่วันเธอและลูกก็จะกลับอยู่แล้ว อีกอย่างคือไม่อยากใจอ่อนตามใจจนเคยตัว แต่พออ้าปากจะห้ามจริงๆจังๆก็มีคนขัดขึ้น
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ พาลูกเดินลัดสวนไปแค่นี้จะเป็นไรไป” ธรรศกลับถือหาง บุตรสาวของเธอเองก็ดูเหมือนจะฟังเขามากกว่าเธอแล้วด้วย
“นะคะคุณแม่ขา ไปแค่แป้บเดียว กลับมาแล้วน้องจะรีบนอนไม่งอแงเลยค่า...”
จะทำอะไรได้อีก มัชฌิมาอ่อนใจกับคนตรงหน้าเหลือกำลัง
ธรรศนั้นค่อนข้างคุ้นเคยกับบ้านของชื่นจิตต์อยู่พอควร บ้านของท่านเป็นบ้านที่ปลูกมานานตั้งแต่เธอยังไม่เกิด และอยู่ท่ามกลางสวนผลไม้แบบผสมผสาน หลากหลายชนิด ทั้งยังมีฝายน้ำที่ด้านหลังสวนนี้อีกด้วย มันคงไม่เป็นไรมากนักหรอก หากที่นั่นจะไม่ใช่ที่ที่เธอและธรรศเคยไปนั่งเล่น คุยเล่นกัน ตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่เคยมีอะไรเกินเลยจนน่าเกลียด
มัชฌิมาสะบัดไล่ความคิดนั้นออกก่อนลุกไปเปลี่ยนชุด แล้วเดินตามเขาที่พาบุตรสาวขึ้นขี่คอเดินไปยังน้ำตกเล็กๆที่หลอกล่อเอาไว้ตอนไหนไม่รู้ได้ ปล่อยให้เด็กมายอยู่เฝ้าบ้านไป