สรุปเมื่อคืนเธอต้องหาที่ให้เขานอนในบ้านด้วย พร้อมกับซักรีดเสื้อยีนและกางเกงยีนของเขารอท่า
ไม่รู้เขาแกล้งขู่เธอหรือเปล่าว่าแถวนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญขึ้นยกเค้าบ่อยๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีแต่ผู้หญิง เด็กและคนสูงอายุอยู่ตามลำพัง
เสียงโทรศัพท์ดังขัดขึ้นเมื่อเตรียมอาหารเช้าเสร็จพอดี กดรับสายคุยอยู่ครู่ ใบหน้าสวยก็ซีดลงทันที ธรรศที่จัดการล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย ออกมาเจอเข้า ถามคล้ายไม่ใส่ใจกึ่งประชดประชัน
“เป็นอะไร หน้าซีดแต่เช้า หรือกลัวพี่จะบุกเข้าไปปล้ำ เลยนอนไม่หลับทั้งคืน”
มัชฌิมาถอนหายใจก่อนตอบเขาอย่างเหนื่อยหน่าย
“ป่าวค่ะ...ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งอาการคุณป้าน่ะค่ะ”
บอกเขาเสร็จก็ฝืนยิ้มรับบุตรสาวที่เดินงัวเงียออกมาจากด้านในที่เธอเปิดประตูอ้าไว้ เมื่อเห็นว่าคุณลุงยังอยู่ แม่ตัวน้อยออกอาการกระดี๊กระด๊าคุยเจื้อยแจ้วเสียงใสขึ้นมาทันที
“คุณลุงยังอยู่ เย้ เย้”
“พอใจไปอาบน้ำ แปรงฟันให้เรียบร้อยก่อนลูก แล้วจะได้กินข้าวกัน”
แม่ตัวน้อยมุ่ยหน้า หันไปทางคุณลุงตัวโตที่ยืนกอดอกพิงขอบโต๊ะมองสองแม่ลูกอยู่
“คุณลุงจะไม่ไปไหนนะคะ”
ธรรศพยักหน้าส่งยิ้มอ่อนโยนให้ แต่พอสบตาเธอ เขาเปลี่ยนสีหน้าทันที มัชฌิมาจึงเดินตัวลีบไปช่วยลูกน้อยจัดการอาบน้ำแปรงฟันจนเรียบร้อยแล้วถึงออกมากินข้าวพร้อมกันอย่างที่บอก
ธรรศขอแวะทำธุระที่บ้านของเขาก่อนไปโรงพยาบาล
เธอไม่ค่อยอยากรับรู้เรื่องราวของเขามากนัก ที่ต้องรู้ว่าธรรศคบหากับนลินีตั้งแต่สี่ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ และวางแผนจะแต่งงานกันในปีหรือสองปีข้างหน้าก็เป็นนลินีที่มักโทรมาเล่าให้ฟัง
ทันทีที่รถจอดลงที่บ้าน มัชฌิมาพลันหายใจติดขัดขึ้นมาทันที เพราะที่นี่คือสถานที่ที่เธอและเขาเคย…
“จะลงมาก่อนไหมครับ”
ธรรศถามขัดความคิดของเธอขึ้นสายตามองสลับกันระหว่างคนแม่และลูก
“ไม่ค่ะ พี่ธรรศทำธุระให้เรียบร้อยเถอะค่ะจะได้ไปกัน”
ธรรศยิ้มราวกับรู้ความคิดของเธอก่อนผละเข้าบ้านไปในที่สุด
บ้านของเขาอยู่ติดริมคลองคล้ายบ้านของป้าเธอ มัชฌิมาเบือนหน้าหนีจากตัวบ้านที่เคยบอกเขาว่า เธอจะปลูกอะไรตรงไหนบ้าง กระพริบไล่น้ำตาไม่ให้หยดลงแล้วคิดเรื่องอื่นแทนขับไล่ความรู้สึกจุกแน่นในอกให้มันหายไป ครู่เดียวธรรศกลับขึ้นมาและออกรถตรงไปโรงพยาบาลทันที
แพทย์ออกมาแจ้งอาการพร้อมแนวทางการรักษาให้ทราบแล้ว จึงขอเข้าไปดูอาการของท่าน แต่ชื่นจิตต์หลับไปด้วยฤทธิ์ยา เลยชวนกันออกมาด้านนอกด้วยกลัวจะเสียงดังรบกวนท่าน
“คุณแม่ขา น้องหิวค่า...”
“ด้านข้างโรง’บาลมีร้านเบเกอรีอร่อยๆอยู่เจ้าหนึ่ง ไปไหมครับ ลุงอุ้มเอง” ธรรศรีบบอกอย่างเอาใจ บุตรสาวตัวดีรีบถลาไปหาเขาทันทีเช่นกัน
ร้านเบเกอรีที่ว่ามีสวนสวยและน้ำพุจำลองด้านหน้า เด็กหญิงพอใจมองเห็นผีเสื้อบินเรี่ยพื้นมาจึงชี้แล้วขอลงเพื่อวิ่งตามไป พอเธอจะออกวิ่งด้วยว่ากลัวลูกล้ม เขาก็บอกขึ้นว่า
“สั่งอเมริกาโนให้ที พี่จะไปดูพอใจเอง แล้วจะพาไปส่ง”
เธอมองเขาที่เดินตามลูกไปห่างๆก่อนตัดใจเดินเข้าร้านไปก่อน ค่อยคลายใจเมื่อเห็นเขาไปถึงตัวบุตรสาวและโอบอุ้มไว้ในอ้อมกอดเรียบร้อยแล้ว
“พี่อุ่น”
เสียงเรียกทักเบาๆคล้ายไม่แน่ใจ ทำให้เจ้าของชื่อต้องหันไปมอง ก่อนเผยยิ้มบางเบาทักทายกลับ
“ทับทิม”
นลินีหรือทับทิมคือเพื่อนรุ่นน้องของเธอสนิทกันมาก ที่สำคัญคือคนที่กำลังจะแต่งงานกับธรรศ นลินีชวนคุยเมื่อเห็นเธอเงียบไป
“พี่อุ่นมาเยี่ยมใครคะ”
“คุณป้าท่านไม่สบายน่ะจ้ะ แล้วนี่ทับทิมเป็นอะไร”
“ทับทิมมาเช็คสุขภาพ เตรียมตัวเป็นคุณแม่น่ะค่ะ”
หญิงสาวอ่อนวัยกว่าบอกจบ ประตูร้านเบเกอรีเปิดออกตามด้วยเสียงหัวเราะของบุตรสาวและเสียงหัวเราะห้าวทุ้มกังวานถูกใจของชายหนุ่มที่อุ้มพะนอกันมา
นลินีมองตามแล้วยิ้มแปลกใจที่เห็นชายหนุ่มที่นี่
“พี่ธรรศ อุ้มลูกใครมาคะ น่าเอ็นดูเชียว”
ธรรศก้มมองเด็กหญิงในอ้อมแขน สายตาดำดุเปลี่ยนเป็นอบอุ่นเอ็นดูทุกทีที่คุยด้วยจนคนมองอดอิจฉาไม่ได้
“พอใจ สวัสดีคุณน้ารึยัง”
นลินีวูบไหวด้วยความรู้สึกชนิดหนึ่งก่อนจะขึงมุมปากไม่ให้รอยยิ้มหุบลง มองเด็กหญิงตัวน้อยกระพุ่มมือไหว้อย่างน่ารักแล้วเอ่ยทักทายกันอีกครู่ มัชฌิมาจึงได้ถามต่อ
“แล้วนี่ ทับทิมได้ตรวจเรียบร้อยหรือยัง”
“ยังค่ะ รอ…”
“ยัยหนูล้มด้วยนะ” ธรรศเอ่ยขึ้นก่อนที่นลินีจะพูดจบ เรียกสายตาตัดพ้อจากนลินีไปเต็มๆ
คนห่วงลูกสังเกตเห็นปฏิกิริยาบางอย่างจากทั้งคู่แล้ว จึงรีบผละไปดูด้วยการถลกกางเกงขายาวของลูกขึ้นดูอย่างรวดเร็ว หน้าสวยซีดขาวราวกระดาษเมื่อเห็นรอยถลอกบนเข่าน้อยๆ ทั้งตกใจและขุ่นเคืองธรรศอยู่ในที มองสบตาดำดุอย่างไม่พอใจที่ดูแลลูกเธอไม่ดี ปล่อยให้ล้มได้อย่างไร ก่อนบอกลานลินีแล้วพาลูกออกจากร้านเบเกอรีในนาทีถัดมา โดยมีธรรศตามออกไปด้วย ทิ้งให้นลินียืนมองตามหลังด้วยความรู้สึกดำมืดที่ค่อยๆตีตื่นขึ้นมาเรื่อยๆ
เมื่อแยกย้ายกันออกมามัชฌิมามาหาจังหวะบอกธรรศ เธอกังวลใจ สายตาของเพื่อนรุ่นน้องทำให้เธอไม่สบายใจ ใครบ้างจะรู้สึกดีหากว่าที่สามีตัวเองไปขลุกอยู่กับผู้หญิงอื่น ต่อให้บริสุทธิ์ใจทั้งคู่ก็ตาม แต่ใจคนอื่นยากแท้หยั่งถึงหากจะคิดให้เป็นเรื่องอกุศลเสีย
“พี่ธรรศไม่ต้องมาคอยเทียวไปเทียวมากับอุ่นนักก็ได้นะคะ ใครอื่นจะมองไม่ดี”
“แคร์คนอื่นเหมือนกันเหรอ...ว่าแต่ใครอื่นที่อุ่นหมายถึงนี่ใคร”
ธรรศถามยวนๆทำให้เธอต้องระงับอารมณ์พลุกพล่านเอาไว้แน่นด้วยการลอบสูดลมหายใจ ก่อนจะหาคำมาตอบเขา
“อุ่นไม่ใช่ตัวคนเดียว และพี่ธรรศเองก็คบอยู่กับทับทิม ใครอื่นจะเป็นใครก็ช่างเถอะค่ะ พี่ธรรศไม่ห่วงความรู้สึกของทับทิมบ้างรึยังไงคะ” เธอพูดพรวดออกไปหลายคำจนแทบลืมหายใจ ทั้งโมโหทั้งเหนื่อยหน่ายที่จะต่อปากต่อคำกับเขา
“ใครบอกอุ่นแบบนั้น”
“อุ่นรู้ทุกอย่าง ขอร้องเถอะค่ะ เราอย่าเจอกันบ่อยนักเลย คุณป้าอุ่น อุ่นดูแลเองได้
ลูกอุ่นก็เช่นกัน”
มัชฌิมาบอกจบฝืนสบสายตาดำดุของเขาเพื่อยืนยันคำบอกของตนเอง
“ที่พี่ยังวนเวียนอยู่นี่ เพราะห่วงคุณป้าอย่างที่เหมือนญาติของพี่คนหนึ่ง อย่าสำคัญตัวเองผิดนักเลย... และทับทิมใจกว้างพอที่จะเข้าใจเรื่องแบบนี้” ธรรศบอกจบยกมุมปากยิ้มข้างหนึ่งที่เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนพูดจริงทำจริงและคงไม่คิดทำตามที่เธอขอร้องแน่ๆ ธรรศคนนี้ต่างจากพี่ธรรศคนเดิมที่อบอุ่น อ่อนโยนไปแล้วสินะ