ตกเย็นออร์ดี้นั่งรอภรรยากลับมาจากการทำงานอยู่นานสองนานแต่เธอก็ไม่มาเสียที ปกติเขาไม่เคยต้องมารอเธอ เป็นเธอมากกว่าที่ต้องมารอเขา ความรู้สึกของคนรอมันเป็นแบบนี้เองหรือ ชายหนุ่มเพิ่งจะเข้าใจ
แต่นี่มันมืดแล้วนะทำไมหญิงสาวยังไม่กลับบ้านอีก หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพราะตอนเที่ยงที่เจอกันเขาเห็นใบหน้าของพรนับพันดูอิดโรยคล้ายคนป่วย แม้จะถูกกลบด้วยเครื่องสำอางแต่ก็ยังเห็นอยู่ดี โดยเฉพาะแววตาที่แสดงออกมาถึงความเหนื่อยล้า
“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ทำไมเธอยังไม่กลับมาอีก” บ่นเป็นตาแก่ขณะรอเมียกลับบ้าน ดวงตาก็จ้องมองแต่นาฬิกาบนผนังห้อง ใบหน้ายับยู่ยี่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“หรือว่าจะไปกินข้าวกับผู้ชายคนนั้น อย่าให้รู้นะพรนับพัน”
เขาคิดราวกับคนหึงหวง อดนึกถึงช่วงเที่ยงที่ไปรับประทานอาหารด้วยกันไม่ได้ เจ้านายอะไรมองลูกน้องตาหวาน
เวลาผ่านไปสักพัก คนที่ชายหนุ่มรอก็กลับมาพร้อมด้วยข้าวของพะรุงพะรัง ตอนเที่ยงเธอไม่มีเวลาไปซื้อโทรศัพท์จึงใช้เวลาหลังเลิกงานแทน ไหน ๆ ก็ไปห้างสรรพสินค้าแล้ว หญิงสาวจึงถือโอกาสซื้อข้าวของเครื่องใช้เสียเลย ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง พูดว่าจัดเต็มก็ได้ ทำให้กลับบ้านช้ากว่าทุกวัน
“คุณออ กลับมานานแล้วเหรอคะ” พรนับพันแสดงสีหน้าประหลาดใจหลังจากเห็นสามีนั่งอยู่บนโซฟา เพราะปกติสามีจะกลับมาหลังสองทุ่ม แต่วันนี้ยังไม่ถึงสองทุ่มเลยเขาก็อยู่ที่คอนโดแล้ว เป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับเธอ
หรือว่าวันนี้จะมีพายุเข้าออร์ดี้จึงกลับบ้านเร็ว คิดได้อย่างนั้นหญิงสาวจึงเดินไปดูบรรยากาศข้างนอกคอนโด แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีเค้าลางของฝนหรือลม
“ทำอะไรของเธอ” เขาถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นภรรยามัวแต่สนใจท้องฟ้าข้างนอกอาคาร
“ใสกำลังดูว่าคืนนี้พายุจะเข้าไหม คุณออกลับบ้านก่อนสองทุ่ม เป็นไปได้ยังไง” ท้ายประโยคหญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชัน นับตั้งแต่แต่งงานกันมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่สามีกลับเร็ว แล้วจะไม่ให้ภรรยางงได้อย่างไร
“ฉันจะกลับเร็วบ้างไม่ได้หรือไง ทำเป็นเรื่องแปลกไปได้”
“ได้สิคะทำไมจะไม่ได้ แต่คุณออไม่เคยทำไง มันก็เลยแปลก”
“พอ ๆ ไม่อยากเถียงกับเธอแล้ว”
“ใสก็ไม่อยากเถียงกับคุณออเหมือนกันค่ะ ขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน วันนี้เธอกลับช้า ไปไหนมา” ออร์ดี้ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบคล้ายถามตามมารยาททั้งที่จริงอยากรู้ใจจะขาดว่าพรนับพันไปไหนมา แล้วไปกับใครบ้าง ไอ้คุณเจ้านายหน้าหล่อรูปร่างดีคนนั้นไปด้วยไหม
“ไปซื้อโทรศัพท์ใหม่มาค่ะ คุณออมีอะไรรึเปล่า” หญิงสาวหยุดฝีเท้าก่อนจะหันมาตอบคำถามชายหนุ่ม คิ้วทั้งสองข้างของเธอติดกันเป็นแพยาว เกิดอะไรกับออร์ดี้ อยู่ ๆ อยากรู้ว่าเธอไปไหน ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะสนใจ
“เธอต่างหากที่มี ไหนตอนเที่ยงเธอบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับฉันไงล่ะ ฉันรอฟังอยู่” ชายหนุ่มกลบเกลื่อนความอยากเผือกเรื่องของเมียได้อย่างแนบเนียน พรนับพันจึงร้องอ๋อในใจ ที่แท้สามีรอคุยเพราะเรื่องนี้เอง
“อ้อค่ะ นึกว่าเรื่องอะไร ใสขอไปอาบน้ำก่อนได้ไหมคะ ใสร้อนมาก” ถามว่าอยากพูดไหม มันก็อยากพูด แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อย ขอไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า เพราะเรื่องที่จะพูดเป็นเรื่องใหญ่
“ก็ได้ พร้อมแล้วก็ค่อยออกมา ฉันจะนั่งรออยู่ตรงนี้” เห็นสภาพของพรนับพันแล้ว ออร์ดี้ห้ามไม่ลง เขาไม่ชอบผู้หญิงไม่เรียบร้อย หน้ามันเยิ้ม หัวกระเซอะกระเซิงแบบนี้
“ค่ะ ใสออกมาคุยแน่นอนเพราะมันเป็นเรื่องสำคัญ”
แววตาจริงจังบวกกับน้ำเสียงเรียบนิ่งของภรรยาอดทำให้สามีสงสัยไม่ได้ว่า เรื่องสำคัญของเธอนั้นคือเรื่องอะไร
สมองของเขาไม่คิดหรอกว่าเมียจะพูดถึงเรื่องหย่า เพราะเป็นคนมั่นใจในตัวเอง และเห็นพรนับพันเป็นลูกไก่ในกำมือมาตลอด จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด เธอเหรอจะกล้าขอหย่า
หญิงสาวปิดประตูห้องนอนเรียบร้อยก็เดินตรงไปยังเตียงนุ่ม ๆ ทันทีก่อนจะทิ้งตัวลง ด้วยความเหนื่อยล้าจากงานและปัญหาชีวิตจึงเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว ทั้งที่ตั้งใจจะพักสายตาไม่เกินสิบนาที จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงเธอก็ยังไม่ตื่น
ออร์ดี้เห็นว่าพรนับพันยังไม่ออกมาอีกจึงตัดสินใจเข้าไปดู พอลองบิดลูกบิดปรากฏว่าไม่ได้ล็อก จึงค่อย ๆ เปิดอย่างระมัดระวัง ทันทีที่เห็นสภาพของภรรยา เขาถึงกับต้องส่ายหน้า
ไหนบอกจะเข้ามาอาบน้ำ แล้วออกไปคุยด้วยแน่ อะไรคือการมานอนอยู่บนเตียง ไม่อาบน้ำ ไม่เช็ดเครื่องสำอาง ไม่ทำอะไรกับร่างกายทั้งนั้น
“ยัยผู้หญิงซกมก” ปากด่าเมียพอเป็นพิธี แต่ตัวเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะสะกิดเบา ๆ ครู่เดียวหญิงสาวก็ลืมตาขึ้นมาด้วยอาการสะลึมสะลือ
“คุณออมีอะไรคะ” เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงอู้อี้คล้ายคนไม่สบาย
“ก็เธอบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับฉัน ฉันรอเธอมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ” พูดด้วยน้ำเสียงโมโห พรนับพันกล้ามากที่ปล่อยให้เขารอ
ใบหน้าของออร์ดี้ถมึงทึงอย่างเห็นได้ชัด แต่หญิงสาวไม่สนใจ ตอนนี้เธอเหนื่อยมากจริง ๆ เหนื่อยจนหมดแรง ไม่อยากอาบน้ำ ไม่อยากแปรงฟัน ขอหลับไปแบบนี้แหละ ใครจะว่าสกปรกก็ช่างมัน
“ขอโทษค่ะ ใสรู้สึกเหนื่อย คุยพรุ่งนี้แทนได้ไหมคะ”
“ไม่ได้ ต้องคุยวันนี้” คนเอาแต่ใจเอ่ยอย่างไม่ยอม
“แต่ใสเหนื่อย ใสอยากนอน” หญิงสาวตาจะปิดอยู่รอมร่อ วันนี้คุยกับสามีไม่ไหวจริง ๆ
“ไม่สบายรึเปล่า” เห็นอาการของเมียแล้วคำถามนี้หลุดออกจากปากทันที เขาไม่พูดเปล่า ยังเอามือไปอังตรงหน้าผากของภรรยาราวกับห่วงใย หญิงสาวถึงกับตาโตตกใจ ออร์ดี้ไม่เคยใส่ใจเธอแบบนี้เลย
“คุณออเป็นห่วงใสเหรอคะ”
“เปล่า ฉันกลัวเธอจะตายในคอนโดของฉัน”
“ว่าแล้ว รู้หรอกน่า คนอย่างคุณออจะไปห่วงใส เป็นไปได้ยังไง ใสไม่ได้ป่วยค่ะ แค่รู้สึกเหนื่อย ใสขอนอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
“เดี๋ยวสิ เธอจะนอนทั้งแบบนี้เหรอ สกปรกไปไหม”
“คุณออขา ใสเหนื่อยยยยย อย่าหาเรื่องทะเลาะตอนนี้ได้ไหม ขอร้องละค่ะ”
“ไม่ได้หาเรื่อง แต่เธอต้องไปอาบน้ำก่อน ลุกขึ้นมา ฉันไม่ชอบผู้หญิงซกมก”
“คุณออ”
“พรนับพัน”
“เฮ้อ ก็ได้”
พรนับพันทนเสียงบ่นของออร์ดี้ไม่ไหวจึงเด้งตัวขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะวาดขาลงจากเตียงแล้วเดินกระแทกส้นเท้าหายไปทางห้องน้ำ
ออร์ดี้กลัวหญิงสาวจะเข้าไปหลับในห้องน้ำจึงตะโกนบอกดัง ๆ ว่าถ้าเธอไม่ออกมาภายในสิบห้านาทีมีเรื่องแน่ แต่พรนับพันไม่ส่งเสียงตอบกลับมา เขาจึงเดินไปยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำก่อนจะเคาะเรียก
“นี่ฉันถามทำไมไม่ตอบ สดใสเธออยากมีปัญหากับฉันใช่ไหม เธอเป็นอะไรรึเปล่า อย่าเงียบแบบนี้สิ ถ้าไม่ตอบฉันจะพังประตูเข้าไป”
ถามไปหลาย ๆ ครั้งแต่ภรรยายังไม่ส่งเสียงตอบกลับมา เขาจึงตัดสินใจจะพังประตู แต่ยังไม่ทันจะลงมือประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกซึ่งมาพร้อมกับใบหน้าหงุดหงิดของพรนับพัน
“เลิกเคาะ เลิกเรียก แล้วกลับห้องตัวเองเถอะ รำคาญ”