บทที่ 2 ผัวที่ดีคือผัวใหม่ (2)

1384 คำ
ด้วยความที่เมื่อคืนเสียใจกับคำพูดของสามี เธอจึงไม่สนใจจะชาร์จแบตโทรศัพท์ เช้ามาก็รีบออกจากคอนโดทำให้ตอนนี้โทรศัพท์ แบตเตอรี่หมด ดับไปเป็นที่เรียบร้อยและบังเอิญเธอลืมพกที่ชาร์จมาด้วย หันไปขอจากใครก็ไม่ได้เพราะทุกคนใช้ไอโฟน ส่วนเธอใช้ซัมซุง เห็นทีต้องไปถอยเครื่องใหม่แล้ว จะได้ใช้เหมือนคนอื่นบ้าง “มีไหมใส ที่ชาร์จแบต” เฟรินเดินมาถามเพื่อน พวกเธอสองคนทำงานที่เดียวกัน ไม่รู้จะขำหรือสงสารพรนับพันดีที่ใช้โทรศัพท์ไม่เหมือนคนอื่น เป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ในแผนกที่พวกเธออยู่ไม่มีใครใช้ยี่ห้ออื่นเลยนอกจากไอโฟน “ไม่มี ไม่มีใครใช้ซัมซุงเลยว่ะ ให้ตายเถอะ” พรนับพันเอาหัวโขกโต๊ะไปหนึ่งครั้งด้วยความเซ็ง ชีวิตหนอชีวิต มีอะไรได้ดั่งใจบ้าง เพราะเรื่องของสามีแท้ ๆ ทำให้เธอเป็นแบบนี้ มาทำงานหน้าก็ไม่ได้แต่งจนโดนทักว่าหน้าศพ เอ๊ย หน้าสด ยังดีที่เธอยังพอคิดหาทางแก้ปัญหาได้ ด้วยการขอยืมเครื่องสำอางของเพื่อนมาโบ๊ะหน้าหมอง ๆ ให้กลายเป็นหน้าไบรต์ ตบท้ายด้วยสีปากที่แดงยิ่งกว่ากุหลาบ อย่างที่เขาว่า ปากไม่แดงไม่มีแรงทำงาน “ฮ่า ๆ ๆ ๆ กูบอกแล้วให้เปลี่ยน ดูโทรศัพท์มึงสิ รุ่นเก่าจะตาย เปลี่ยนเถอะเชื่อกู” จริง ๆ พรนับพันควรเปลี่ยนโทรศัพท์ตั้งนานแล้ว แต่ความเสียดายเงินจึงไม่ยอมซื้อใหม่ เอาแต่บอกว่าเครื่องนี้ก็ใช้ได้ ถึกทนอีกต่างหาก อีกอย่างเธอก็มีไอแพดแล้วไม่จำเป็นต้องซื้อไอโฟน “เปลี่ยนแล้ว กูจะเปลี่ยนทั้งโทรศัพท์ทั้งผัวเลย” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาหนักแน่นมาก นอกจากจะเปลี่ยนโทรศัพท์แล้ว เธอจะเปลี่ยนสามีด้วย แววตาของพรนับพันทำให้เพื่อนสนิทถึงกับต้องนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะถามเสียงเบา “รอบนี้เอาจริง ทำไม เกิดอะไรขึ้น ทะเลาะกับคุณสามีมาเหรอ” เฟรินถามด้วยความเป็นห่วง เพราะปกติพรนับพันไม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอย่างนี้ “เออสิ กูเหนื่อยแล้ว กูขอใช้ชีวิตแบบมึง ไม่ก็หาผัวใหม่ไปเลย จบ” เธอถอนหายใจหนัก ๆ ออกมาก่อนตอบเพื่อน ระหว่างที่เดินทางมาทำงานพรนับพันคิดทบทวนแล้ว เธอจะไม่ทนอีกต่อไป การหย่าคือทางออกของชีวิต “เอาเลย กูสนับสนุนมึง แล้วนี่มึงต้องไปคุยกับคุณพอร์ชไม่ใช่เหรอ เห็นเขาถามหามึง” “กำลังจะไปคุย แต่คุณพอร์ชมีสายสำคัญโทร.มา กูเลยไม่ได้เข้าไปคุย” “อ้าวนั่นคุณพอร์ชมาพอดี งั้นกูไปก่อนนะ เดี๋ยวมาตามตอนไปกินข้าว” “โอเค กูจะไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ด้วย” สองสาวนัดแนะกันเสร็จเรียบร้อยก็แยกย้ายไปทำงานของตนเอง พรนับพันเข้าไปคุยงานกับเจ้านายสักพักใหญ่ ๆ ก็เดินออกมาด้วยสีหน้าแช่มชื่น เพราะได้รับคำชมจากลูกค้าทำให้เจ้านายพิจารณาขึ้นเงินเดือน ถึงเรื่องรักจะไม่สมหวังแต่เรื่องงานเจริญรุ่งเรือง แค่คิดว่าจะหย่ากับสามีเงินเดือนก็ขึ้นเลย ถ้าเธอหย่าเรียบร้อย หน้าที่การงานไม่รุ่งโรจน์กว่านี้เหรอ “ถ้าโสดแล้วเฮง ฉันจะโสดตลอดชีวิต” พรนับพันยิ้มร่า มีความสุขกับเรื่องเงินเดือนจนลืมเรื่องของสามีไปเสียสนิท จวบจนเวลาพักเที่ยงมาถึงเฟรินก็เดินมาตามเพื่อนไปกินข้าว สองสาวกำลังจะออกจากประตูของบริษัทที่ตั้งอยู่ชั้นสิบห้าของตึก AMS ซึ่งเป็นตึกของตระกูลแอมเมอร์สันที่ปล่อยให้บริษัทชั้นนำต่าง ๆ เช่าเพื่อทำเป็นที่ตั้งของบริษัท พวกเธอเจอกับเจ้านายพอดีจึงชวนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน “พวกคุณสองคนอยากกินอะไรตามสบายเลยนะครับ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง” เจ้านายบอกกับพนักงานของตนเองด้วยน้ำเสียงยินดี นานแล้วที่เขาไม่ได้ไปกินข้าวกับคนในบริษัท “เกรงใจจังเลยค่ะ แต่ก็ขอบคุณล่วงหน้า” เฟรินเอ่ยก่อน “เกรงใจเหมือนกันค่ะ แต่ก็ขอบคุณมาก” ตามมาด้วยพรนับพัน ทำให้เจ้านายหลุดยิ้ม สองคนนี้สมกับที่เป็นเพื่อนกันจริง ๆ “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ เราต้องทำงานไปด้วยกันอีกนาน” “แล้วไปกินอะไรดีคะ เฟย์ให้คุณพอร์ชเลือกดีกว่าค่ะ ไหน ๆ ก็เป็นเจ้ามือแล้ว” “อืม ผมให้คุณสดใสเลือกดีกว่า” “จะดีเหรอคะ ใสว่าคุณพอร์ชเลือกเองดีกว่าไหม ใสเกรงใจ” “ถือว่าเป็นคำสั่งแล้วกัน คุณสดใสเลือกเถอะ” “คำสั่งเลยเหรอ ก็ได้ค่ะ ใสไม่อยากขัดเจ้านาย งั้นกินอาหารญี่ปุ่น คุณพอร์ชกินไหมคะ” “ผมกินได้หมด ไม่เรื่องมากครับ” “งั้นเราไปกันเถอะค่ะ ยิ่งนานคนยิ่งเยอะ” “ใช่ค่ะ เฟย์เห็นด้วยกับสดใส” “ครับ เชิญ” ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่มีคนเริ่มมาใช้บริการไม่น้อย ร้านนี้ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าซึ่งอยู่ติดกับตึก AMS พรนับพันกำลังจะก้าวขาตามเจ้านายกับเพื่อนสนิทเข้าไปในร้าน แต่แขนกลับโดนดึงทำให้เธอหันไปมองด้วยความตกใจ แต่คนที่ไวกว่าคือคุณพอร์ชหรือพิรันต์ที่เข้าไปจับมือของออร์ดี้ด้วยความไม่พอใจ “กรุณาปล่อยแขนผู้หญิงด้วยครับคุณ” “ปล่อยค่ะ ถ้าไม่อยากให้คนมอง” ออร์ดี้เห็นคนหันมามองจึงจำเป็นต้องปล่อยแขนของภรรยา ก่อนจะหันไปจ้องตาพิรันต์ที่กำลังมองพรนับพันด้วยความสงสัย ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวแต่งงานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าชื่ออะไร “คุณออร์ดี้มาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ” เฟรินเอ่ยถามก่อนจะมองหน้าเพื่อนสนิทที่กำลังแสดงความไม่พอใจผ่านแววตาและสีหน้า “ผมมาทำธุระแถวนี้ เลยมาหาข้าวเที่ยงกิน ไม่คิดว่าจะเจอภรรยากับเพื่อนแล้วก็...” “คุณพอร์ชค่ะ เจ้านายของพวกเราเอง” “ภรรยา? หมายความว่าผู้ชายคนนี้คือสามีของคุณสดใสเหรอครับ” “ครับ ผมออร์ดี้สามีของพรนับพัน ยินดีที่ได้รู้จัก” “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมพอร์ช เจ้านายของคุณสดใส” พรนับพันรู้สึกว่าคนมองมาทางนี้เยอะจึงชวนสามีกับเจ้านายและเพื่อนสนิทเข้าไปคุยต่อในร้านอาหาร ในระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ เธอไม่คุยกับออร์ดี้แม้แต่คำเดียว ไม่เหมือนกับพิรันต์ที่คุยจ้อจนสามีต้องกระแอมขัดจังหวะ เหมือนไม่พอใจที่เห็นภรรยาคุยกับชายอื่น เฟรินจึงหันไปถามออร์ดี้แทนเพื่อนว่าไม่สบายรึเปล่า แต่สามีเพื่อนตอบกลับว่าเขาไม่ได้เป็นไร และขอคุยกับภรรยาเป็นการส่วนตัว ก่อนจะจูงมือพรนับพันออกนอกร้าน แล้วพาไปยืนในจุดที่ไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมา “คุณออมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ” “ทำไมปิดเครื่อง ฉันโทร.หาเธอไม่ติดเลย” “ไม่ได้ปิดเครื่องค่ะ แต่โทรศัพท์แบตหมด ไม่ได้พกที่ชาร์จแบตมา แล้วคุณออโทร.หาใสมีอะไรไม่ทราบ” “ฉันจะถามเรื่องกินข้าวกับพ่อแม่เสาร์นี้ เธอจะไปไหม” เขาโกหก แต่ไม่กล้าพูดความจริงว่าโทร.หาภรรยาทำไมจึงเอาเรื่องบิดามารดามาอ้าง หญิงสาวจึงพยักหน้าก่อนตอบ เธอต้องไปอยู่แล้วเพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยกับพวกท่านและพี่น้องของสามี “ไปค่ะ ใสมีเรื่องสำคัญจะบอกพวกท่าน” “เรื่องอะไร ทำไมเธอถึงทำหน้าเครียดแบบนั้น” “เรื่องสำคัญมากค่ะ เอาไว้คุยกันเย็นนี้ ใสขอตัว” พรนับพันจ้องเข้าไปในดวงตาของสามี ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ เธอตัดสินใจแล้ว ในเมื่ออยู่ด้วยกันไม่มีความสุข อย่างนั้นก็ให้ต่างคนต่างไปเผื่ออะไร ๆ มันจะดีขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม