“ท่านยมทูตขาว” เจ้าอี้เฟยใบหน้าซีดเผือดรู้สึกว่าวิญญาณของตนเองโดนดูดจนหลุดออกมาจากหลังของท่านพี่เจี๋ยหลุน เธอพยายามวิ่งหนีหวาดกลัวว่าเขาจะจับเธอกลับไปที่โลกวิญญาณอีก แต่แม้จะพยายามวิ่งเท่าใดขาน้อยๆก็ไม่อาจขยับเขยื้อน จึงได้แต่ยืนตัวสั่นงันงกอยู่ที่นี่ ท่านเทพกาลเวลาไม่ได้แจ้งเรื่องนี้กับยมทูตหรืออย่างไร ข้าเป็นลูกค้าที่เรียกว่า วีไอพีเลยนะ
ยมทูตขาวใบหน้าบึ้งตึงไม่แสดงอารมณ์อันใด เขาสวมชุดสีขาวยาวกรอมเท้าบนศีรษะสวมหมวกทรงกรวยสูงสีขาวเช่นกัน เขามีลิ้นยาวสีแดงลงมาจนถึงหน้าอก ในมือถืออักษรโบราณอ่านได้ความ “ว่าข้ามารับเจ้า” เขามีหน้าที่มารับดวงวิญญาณที่ทำความดีไปสู่ดินแดนหลังความตาย
“ไม่ต้องกลัว ข้าเพียงมาทำตามหน้าที่เท่านั้น” ยมทูตขาวชี้ไปยังห้องที่โจวเจี๋ยหลุนหายเข้าไปด้านหน้าห้องนั้นเจ้าอี้เฟยพบว่ามีรายชื่อหมอผู้ดูแลยาวเหยียด และชื่อผู้ป่วย เฉียนเฟยเฟย ถูกเขียนไว้หน้าห้องอย่างเป็นระเบียบ
“ท่านไม่ได้มาจับข้ากลับใช่หรือไม่เจ้าคะ” เจ้าอี้เฟยยังหวาดระแวง
“ข้าแค่มาสลับวิญญาณเท่านั้น” ยมทูตขาวกล่าวด้วยใบหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม แล้วพาวิญญาณของเจ้าอี้เฟยหายเข้ามาด้านใน
เพียงแว๊บเดียวเจ้าอี้เฟยพบว่าตนเองยืนอยู่ข้างๆ โจวเจี๋ยหลุน ยมทูตขาวอยู่ปลายเท้าของสตรีผู้หนึ่งนางนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีของประหลาดที่เรียกว่าเครื่องมือแพทย์ครอบอยู่บนใบหน้า เจ้าอี้เฟยมองใบหน้าของนางไม่ชัดเจนนัก มีท่านหมอหลายคนในชุดขาวยืนรายล้อมรอบร่างของนางพร้อมคุยกันในสิ่งที่เจ้าอี้เฟยไม่เข้าใจ
ชั่วครู่ต่อมาก็เกิดเสียงจากเครื่องๆเล็ก ๆ ที่วางอยู่ข้างเตียงดังขึ้นต่อเนื่อง ยมทูตขาวกล่าวข้อความบางอย่างออกมา
“ผู้ตายเฉียนเฟยเฟยหมดอายุขัยวันที่15เดือน3 ในปีค.ศ.2019 เวลา 17.30 น. ยมทูตขาวเขียนบางอย่างลงในสมุดแล้วขานนามของหญิงผู้นั้น วิญญาณของเฉียนเฟยเฟยลอยออกจากร่างอย่างล่องลอยคล้ายยังไม่รู้สึกตัว
วิญญาณที่เพิ่งตายลอยมาหยุดตรงหน้ายมทูตขาว เขามองนางเล็กน้อยแล้วกล่าวต่อไปว่า “เจ้าอี้เฟยมีวาสนาใช้ร่างกายของเฉียนเฟยเฟยขอให้เข้าร่างของนางในทันที” พอยมทูตขาวกล่าวจบเจ้าอี้เฟยก็เดินตรงไปนอนทับร่างของเฉียนเฟยเฟยอย่างรวดเร็ว
สัญญาณชีพที่เหมือนจะขาดหายไปเมื่อเสี้ยววินาทีที่แล้วกลับเด้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำเอาคณะแพทย์แตกตื่นวุ่นวายไปหมด ทั้งหมดเร่งตรวจอาการของเฉียนเฟยเฟยอย่างเร่งด่วน
ยมทูตขาวร่ายมนต์แล้วเป่าลงไปที่ร่างของเฉียนเฟยเฟย เจ้าอี้เฟยผู้อยู่ภายในไม่สามารถลืมตาได้แม้จะรู้สติดีทุกอย่าง ตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าความเจ็บปวดภายในที่รับรู้เมื่อเข้ามาในร่างของสตรีผู้นี้จะค่อยๆ ทุเลาลง
“ข้าขอโทษด้วยนะแม่นางเฉียน ข้าจำเป็นจริงๆที่ต้องใช้ร่างของเจ้า”
“เจ้าจะฟื้นในอีกหลายวันข้างหน้า ข้าได้ทำลายโรคร้ายในร่างกายของเฉียนเฟยเฟยให้เจ้าแล้ว หากทำภารกิจไม่สำเร็จจงรอรับโทษที่จะตามมา” เสียงเย็นของยมทูตขาวก้องในโสตประสาทของเจ้าอี้เฟย นางรับรู้ถึงเลือดเนื้อด้านใน ความรู้สึกล่องลอยเปราะบางตั้งแต่เป็นวิญญาณมาหายไปแล้ว
ยมทูตขาวใช้ลิ้นยาวตวัดเลียวิญญาณที่เหม่อลอยเพราะยังไม่รู้สึกตัวของเฉียนเฟยเฟยไปหนึ่งครั้ง วิญญาณสาวที่อยู่ตรงหน้าสะดุ้งเฮือกเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว เธอตกใจตาค้างด้วยความหวาดกลัวเมื่อพบผู้ชายรูปร่างสูงลิ้นยาวสีแดงห้อยลงมาเกือบจรดพื้นยืนประจันหน้าเธออยู่
“เฉียนเฟยเฟย เจ้าไม่ได้ป่วยตายจงหาสาเหตุการตายของตนเองให้พบ และบัดนี้ร่างกายของเจ้าเป็นของเจ้าอี้เฟยซึ่งมีวาสนาต่อกัน ข้าให้เวลาพวกเจ้าเพื่อทำสิ่งที่ตั้งใจให้สำเร็จเมื่อนั้นข้าจะกลับมารับเจ้าอีกครั้ง”
"เจ้าอี้เฟยนอกจากภาระกิจของเจ้าเองแล้วเจ้าต้องช่วยเฉียนเฟยเฟยในการหาตัวคนร้ายที่ลอบฆ่านางไม่เช่นนั้นเจ้าก็ไม่สามารถใช้ร่างกายของนางได้เช่นกัน พวกเจ้ามีเวลาจำกัดหากหมดเวลาพวกเจ้าทำไม่ครบเงื่อนไขทั้งสองข้อ วิญญาณของเฉียนเฟยเฟยจะล่องลอยต่อไปไม่มีสิ้นสุด ส่วนเจ้าอี้เฟยก็ต้องกลับไปรับโทษกับข้านี่เป็นสิ่งที่ท่านเทพกาลเวลาได้ตั้งกฎเพิ่มขึ้นมา"
คำกล่าวสั้นๆของยมทูตขาวทำให้วิญญาณที่ซีดเผือดของเฉียนเฟยเฟย ซีดลงไปอีกจนแทบจะกลายเป็นสีขาวของกระดาษ เธอมองไปยังร่างของตนเองที่ถูกรายล้อมด้วยบรรดาหมอจึงเห็นวิญญาณของเจ้าอี้เฟยแต่งกายในชุดโบราณนอนทับอยู่ในนั้น
“ฉันตายแล้วจริงๆ เหรอคะ” แม้เฉียนเฟยเฟยจะทำใจนึกถึงความตายทุกวัน แต่เมื่อตายจริงๆ ก็รู้สึกหวาดกลัวหดหู่ไม่ได้
น้ำเสียงหวาดกลัวสั่นเทาของเฉียนเฟยเฟยดังออกมาบางเบาจนเจ้าอี้เฟยไม่ได้ยิน เห็นได้ชัดว่าสตรีผู้นี้ทั้งอ่อนแอและขี้กลัวขนาดไหน
“เจ้าเห็นข้าเป็นของล้อเล่นหรืออย่างไร ข้าคือยมฑูตขาวผู้ทำหน้าที่มารับเจ้า จงหาสาเหตุการณ์ตายของตนเองให้พบแล้วเมื่อนั้นข้าจะกลับมา” กล่าวจบร่างใหญ่โตในชุดขาวก็หายวับไป เฉียนเฟยเฟยโดนบรรดาหมอเดินผ่านร่างไปมา จนในที่สุดเธอก็ไปยืนอยู่มุมสงบมุมหนึ่งแล้วนั่งลงด้วยไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป