น้ำหวานจากขาที่สามคนอัปลักษณ์
“สตรีบอบบางเช่นเจ้า ไม่ควรท้าทายบุรุษ... โดยเฉพาะคนอัปลักษณ์ ที่กินมูมมาม และเอาแต่ใจเช่นข้า”
“เฮอะ ข้านิยมเอาชนะผู้อื่น โดยเฉพาะบุรุษที่ชอบยกหางตนเอง!”
เมื่อนางว่าเขาเป็นสุนัข ดวงตาคมส่งประกายวาบหนึ่งขึ้น แล้วท่อนแขนกำยำจึงขยับรัวๆ รั่วตงอวิ๋นตัวสั่น นางซ่านสยิว และไม่อาจเก็บเสียงคราง ทั้งคำพูดหยาบคายได้อีกต่อไป
“เพ้ย... ทะ ท่านเป็นม้าศึกหรืออย่างไร ถึงได้แรงเยอะเช่นนี้ โอ้... อี๊ๆ ๆ... ข้าจะขาดใจตาย เพราะถูกบุรุษบอกรักเช่นนี้ไม่ได้ อ๊าส์... คนเจ้าเล่ห์ และไร้ยางอายคือท่าน หลอกล่อให้ข้าพูดจาเลื่อนเปื้อนไม่หยุด!”
“ส่งเสียงออกมาอีก ให้คนทั้งหอวสันต์รัญจวนแห่งนี้รู้ว่าเรากำลังบอกรักกัน”
“อี๊... คุณชาย... ทะ ท่านเก่งแต่ทำให้สตรีร้องครวญครางหรอกหรือ”
“ผิดแล้ว ข้ายังมีความสามารถ ทำให้เจ้าขึ้นสวรรค์ติดๆ กันได้ด้วย”
“มันคือสิ่งใดหรือ ที่ท่านจะทำต่อสตรีนางนี้”
รั่วตงอวิ๋นถามด้วยความซื่อบริสุทธิ์ นางกร้านโลกเมื่ออยู่ที่หอนางโลมก็จริง ทว่าการอุ่นเตียงกับบุรุษนั้น นี่คือประสบการณ์ครั้งแรก
“อย่าใจร้อน ขอแค่เชื่อข้าเป็นพอ”
หญิงสาวอยากจะเซ้าซี้ถามอีก ทว่ายามนี้กลีบอวบอูมนางร้อนฉ่า และเขาก็ไม่หยุดเคลื่อนไหวท่อนแขนกำยำ กระทั่งนางเริ่มหอบ และหายใจไม่ทัน คนตัวโตจึงจูบนางอย่างหวานชื่น
เขาแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปาก ตวัดรัดและไล่ต้อน รั่วตงอวิ๋นไม่คุ้นชินกับการกระทำเช่นนี้ นางเกือบกัดลิ้นสากร้อนนั่น ทว่าได้ยินเสียงดุๆ สลับการคำราม นางจึงได้แต่เรียนรู้จากการสอนของเขาอย่างเงอะงะ
กระทั่งเขาถอนริมฝีปากออก แต่นางกับรู้สึกว่า ตนยังกินความหวานที่เผ็ดร้อนจากเขายังไม่อิ่ม
โต้วเซ่าเหล่ยเห็นอาการนางแล้ว เขาชอบใจยิ่ง สตรีผู้นี้ติดไฟง่าย และยังคลั่งไคล้เรื่องอุ่นเตียงไม่ต่างจากเขา
“ข้าเป็นคนปากหนัก ดังนั้นการบอกรักของเรา อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วยาม... คนปากอย่าง ใจอย่างเช่นอวิ๋นชิน... คงต้องอดทนให้มาก”
เขาบอกนางเช่นนั้น แล้วก็ก้าวไปข้างหน้า พานางไปยังเตียงกว้างๆ ที่เป็นพื้นที่ทำให้หญิงสาวได้คลายความเมื่อยเกร็งจากท่าทำรักเมื่อครู่
เมื่อแผ่นหลังนางรองรับด้วยฟูกหนานุ่ม และคนตัวโตขึ้นคร่อมอยู่ด้านบน
ดวงตากลมโตก็ประจักษ์แล้วว่า ท่อนเอ็นของโต้วเซ่าเหล่ย คือสมบัติชิ้นงามของแผ่นดินนี้
“ท่านล้อข้าเล่นแล้ว เมื่อครู่ ขะ ขาที่สามนั่น คุณชายได้ใช้กับข้าจริงๆ หรือ”
นางเอ่ยเช่นนั้นเขาก็ยิ้มกว้าง รู้สึกขบขัน และอดเอ็นดูไม่ได้ สตรีผู้นี้ไม่เหมือนนางโลมสักนิด หรือว่าถูกสกุลใดขายตัวมาใช้หนี้ คิดถึงจุดนี้ เขาก็อยากให้นางเป็นมากกว่าสตรีที่หลับนอนด้วยกัน
“ไม่ใช่มั้ง... คงเป็นนิ้วของข้า ที่ทำให้เด็กน้อย ฉ่ำเยิ้มไปทั้งกลีบงามนี้”
เขาว่าแล้วก็ใช้นิ้วเปิดกลีบอวบอูมของนาง ก่อนจะส่งมันเข้าลึกๆ แทงย้ำช้าๆ กระตุ้นให้รั่วตงอวิ๋นเกิดราคะเร่าร้อนอีกหน
“เจ้าต้องการข้า... นี่คือความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้”
“เอาล่ะ... เสี่ยวอวิ๋นไม่โกหกคุณชาย ข้าปรารถนาท่านมอบความสุขให้ และของในหีบนั้น สตรีเช่นข้าก็ละโมบอย่างได้มันเพียงแต่ผู้เดียว”
“อวิ๋นชิน ของเล็กน้อยเหล่านั้น ข้าเตรียมไว้ให้สตรีที่ถูกใจอยู่แล้ว ตอนนี้ห่วงตนเองเถิด คนปากหนักเช่นข้า หากต้องการทำสิ่งใดแล้ว ไม่มีวันล้มเลิกความตั้งใจเด็ดขาด”
หญิงสาวยิ้มยั่วเขา และนางหายจุกไปบ้างแล้ว ตอนนี้มีแต่เรื่องสัปดนในหัว ซึ่งเขาก็กำลังกระตุ้นให้นางร่านสวาทอย่างไม่ออมมือ
“ข้าจะไม่ยอมสิ้นลมหายใจ ก่อนได้ใช้เงินทองที่ท่านจะปรนเปรอให้แน่นอน คุณชายได้โปรดบอกรักข้าเถิด กลีบฉ่ำแฉะนี้ ปากนี้...และตลอดเรือนกายของข้า จะเป็นของท่านเพียงผู้เดียว”
นางกล่าวอย่างเอาอกเอาใจ และนิ้วของเขาก็แทงลึกกว่าเดิม พร้อมกับน้ำเมือกที่เจียนจะไหลออกมาจากกลีบงามๆ ที่ตอดรัดนิ้วยาวใหญ่ของเขาไม่หยุด
“คุณชาย... ขะ ข้าไม่ไหวแล้ว”
“อวิ๋นชิน บอกรักข้าสิ พูดออกมา แล้วข้าจะให้เจ้าได้ชิมน้ำหวานจากขาที่สามนี้”
รักหรือ... นางจะกล่าวคำนั้นได้อย่างไร หัวใจนางตายด้านไปแล้ว ที่มารับใช้เขา ก็เพราะต้องการเงินไถ่ถอนตัว และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนางกับเขา ล้วนเป็นความต้องการของร่างกาย มิได้เฉียดใกล้คำว่า ‘รัก’ สักนิด
“ท่านก็รู้ ข้าเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ ขะ ข้าเกลียดท่าน!”
เอ่ยออกไปอย่างนั้น นิ้วเขาก็ซอยไม่หยุด ขณะเดียวกันเขาก็โน้มตัวลงมา แล้วใช้ลิ้นสากร้อนดูด และโลมเลียยอดถันนาง ก่อนที่ฟันคมๆ จะทำให้นางเสียวสยิว แทบขาดใจ!
“อ๊า... อี๊... ทะ ท่าน อย่ากัดนะ”
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เขาขบยอดถันจนนางดิ้นและร้องประท้วงไม่หยุด แต่มันได้เพิ่มแรงขับเคลื่อนพิศวาสในร่างกายนี้ ให้พร้อมรับศึกระแสนรัญจวนใจ
“มะไหว... ทะ ท่าน คนไร้ยางอาย เก่งแต่รังแกสตรี ระวังเถอะ ข้าจะทำให้ขาที่สามท่านหักจนใช้การไม่ได้ เป็นไอ้ด้วนไปตลอดชาติเลย”
“อวิ๋นชิน รู้หรือไม่ ว่าเจ้ากำลังท้าทายอ๋องเอวดุ แห่งแคว้นต้าเหลียง และบุรุษมังกรผู้นี้ ไม่มีวันสิ้นฤทธิ์ แม้ว่า หากวันข้างหน้าขาที่สามอันแข็งแกร่งจะถูกเจ้าทำให้หัก หรือโดนตัดทิ้ง!” เขายียวนไม่เลิก แต่นางไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ด้วยมีสิ่งที่ชวนให้ฉงนมากกว่า
“อ๋อง!?”
นางทวนคำพูดเขา และจู่ๆ คนตัวโต ก็แสร้งเป็นใบ้ และน่าแปลก เขาเป็นใบ้แต่ยังไม่หยุดที่จะมอบความสุขอันโลดโผนแก่รั่วตงอวิ๋น