จากผิวที่ขาวอมชมพู กลายเป็นนรอยจ้ำๆ อย่างน่าตระหนก
“ข้าเป็นทาส เป็นสัตว์เดรัจฉานหรืออย่างไร เหตุใดต้องทำร้ายกันถึงเพียงนี้”
“เฮ้อ ข้าบอกไปแล้ว เจ้าสามารถรุนแรงกลับข้าได้เช่นกัน และทุกอย่างที่ทำ เพื่อเพิ่มความสุขระหว่างเรา”
รั่วตงอวิ๋นไม่อยากตอบหรอก นางมีความซ่านสยิวจับใจ เขาใช้ท่อนเอ็นตีเนื้อนุ่มนิ่มที่เด้งรับแรงกระแทก ฝ่ายนางก็หลั่งน้ำใสๆ จนชุ่มนิ้วยาวเขา
ส่วนมือใหญ่ข้างหนึ่ง เขาส่งเข้าไปในโพรงปากหญิงสาว
“ค่อยๆ อม แล้วดูด... ปากเล็กๆ เจ้าต้องเรียนรู้สิ่งนี้เอาไว้ ก่อนที่ข้าจะส่งความใหญ่โตเสือกเข้าไป แล้วสาดความขาวข้นให้เจ้ากลืนกิน สิ่งนี้ยิ่งกว่ายาอายุวัฒนะ เจ้าจะดื่มได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังเป็นข้าคนเดียวในใต้หล้านี้ ที่จะมอบมันให้อวิ๋นชิน ผู้อ่อนต่อโลก ได้อิ่มหนำ”
ยามนั้นด้วยหายใจไม่ออก นางเลยต่อต้าน ทั้งก่นด่า ทั้งร้องประท้วง
แต่คนอำมหิต ย่อมรังแกนางไม่เลิกรา เขากวาดนิ้ว ไล่ต้นลิ้นเล็กๆ ของนาง และเย้าหยอกราวกับต้องการให้นางขาดใจตายเสีย
“นอกจากหีบสมบัติที่เจ้าเห็นนั่น ข้ายังจะมอบสิ่งวิเศษไว้ให้ด้วย มารหัวคนสักคนเป็นอย่างไร ช่วยเลี้ยงเขาให้ข้าสักหน่อยนะไกวไกว* (เด็กดี) ในภายภาคหน้า ข้าจะพาเขากลับเรือนหลังใหญ่ ส่วนตัวเจ้า นั่งกินนอนกินที่หอนางโลมไปก่อน... ขอเพียงอย่างเดียว เป็นเมียข้าแล้ว อย่าได้ร่านไปอ้าข้าให้ผู้ใดเอาอีก หากทำตัวดีๆ ข้าก็จะให้เจ้าอยู่ข้างกาย”
ตอนแรกฟังแล้วน่ายินดีอยู่หรอก แต่ปลายประโยค คนที่หยาบคาย ยังใช้วาจารุนแรงและเหยียดหยามนางเช่นเดิม รั่วตงอวิ๋นอดใจไม่ไหว ทั้งหมั่นไส้เป็นทุน เลยตัดสินใจกัดนิ้วยาวๆ ของเขา
“อวิ๋นชิน จะ เจ้ากัดนิ้วข้า”
เขาเจ็บหรือ โถ ใจเสาะนัก หนังหนาออกเพียงนั้น ให้นางกัดดิ้นให้ด้วนทั้งสิบนิ้ว เขาก็คงยังมีแรงเหลือที่จะข่มเหงรั่วตงอวิ๋น
“ฮึ ดีที่มันเป็นนิ้ว ลองแหย่ขาที่สามท่านหรือไข่เหยี่ยวม้าดำๆ เข้ามาในปากข้าสิ ข้าผู้นี้จะกัดจนขาดเลย”
นางคงบ้าไปแล้ว ซึ่งแทนที่โต้วเซ่าเหล่ยจะโกรธ หรือโมโห เขากับชอบ ยามนั้นเลยพลิกตัวหญิงสาวให้มาเผชิญหน้ากัน และดันร่างนางให้สูงขึ้น กระทั่งอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง สองขานางยามแรกอยู่ในท่าทางพิลึก ลอยอยู่เหนือพื้น เขาเลยขยับแขนขึ้นลง และนางกลัวพลัดตก จึงเกาะเกี่ยวเอาสอบไว้อย่างรู้งาน
และรั่วตงอวิ๋นเขินอายจึงหลบเลี่ยงสายตาคมๆ แม้ส่วนนั้นของเขายังไม่แทรกเข้ากลีบอวบอูม แต่การเผชิญหน้าเช่นนี้ นางยอมรับว่ากำลังจะพ่ายแพ้ต่ออีกฝ่าย
คนผู้นี้ เป็นปีศาจ สวมหน้ากากอัปลักษณ์ ทว่าลึกๆ แล้ว นางเชื่อว่า เขาซ่อนภาพลักษณ์ที่ไม่อยากให้ผู้อื่นเข้าถึงตัวตนที่แท้จริง
“ตอนนี้ให้ทวนทองข้าแทงกลีบล่างเจ้าก่อน ส่วนกลีบบนนั้น ข้าจะใช้มีดสั้น*(ลิ้น)ทิ่มแทงมันเอง”
“ฮึ ส่งมันเข้าปากข้าสิ มีดสั้นของท่านนั้น... จะได้รู้ว่า ฟันของข้าคมสักแค่ไหน”
เมื่อเอ่ยจบนางก็ขึงตาใส่เขา
ชายหนุ่มยกยิ้มร้ายๆ ตรงมุมปาก ดูเหมือนเขาจะรู้ทันนางแล้ว สตรีผู้นี้ปากกับใจไม่ตรงกัน
“กอดคอข้าไว้อวิ๋นชิน หากเจ้ายังไม่คุ้นชิน หลับตาเอาไว้ก่อนก็ได้ พอข้าบอกรักเจ้าแล้ว จึงลืมตาขึ้น... และเราจะได้มีความสุขร่วมกัน”
รั่วตงอวิ๋นคิดว่าตนหูฝาดแน่ น้ำเสียงเขายังแหบต่ำ แต่ถ้อยคำที่สื่อสารมันน่าฟัง ทั้งยังส่งผลให้หัวใจไหวโอนไปกับโต้วเซ่าเหล่ย
ยามนั้นสองแขนเลยเกาะที่ลำคอเขาไว้ แต่นางไม่ได้หลับตา หากพยายามมองเขาอย่างพินิจ
คนผู้นี้... มีพื้นเพเช่นไรกัน เป็นโจรร้ายปล้นของผู้อื่น ที่ทางการกำลังตามจับตัวอยู่ หรือเป็นขุนนางกังฉินที่ชอบเสพรักกับสตรีไม่ซ้ำ มิเช่นนั้น ก็อาจมีความสูงส่งถึงขั้นเป็นองค์ชายในแผ่นดินต้าเหลียง
และอึดใจต่อมา มือข้างหนึ่งของเขาก็เปิดกลีบอวบอูมนาง ซึ่งฉ่ำแฉะด้วยความรัญจวนใจ เขาแยกให้กว้าง กว้างจนรั่วตง
อวิ๋นครางเสียงหวานจัด ขณะเดียวกัน เขาก็แทรกปลายหัวหยักที่ชุ่มด้วยน้ำหล่อลื่นเข้าไป!
รั่วตงอวิ๋นร้องคราง และสะอื้นจนตัวสั่น เขาจึงปลอบนาง พร้อมขยับตัวใหม่ ด้วยกลัวนางพลัดตก ส่วนปากไล่จูบพรมไปตามจุดที่ไหวต่อความรู้สึกของหญิงสาว
“คุณชาย ข้ากำลังจะตาย ร่างนี้ เจียดจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อะ อึดอัดเหลือเกิน”
“อวิ๋นชิน อย่างที่เจ้าเคยพูด ไม่มีสตรีคนใดนอนกับบุรุษแล้วเสียชีวิตกับข้าก็เช่นกัน และถึงเจ้าจะโกรธเกลียดอย่างไร แต่ข้าเป็นชายชั่ว จึงจะเดินหน้าต่อ อดทนสักนิด... และเมื่อมันผ่านเข้าไปทั้งหมด เจ้าจะขอบใจข้าเอง”
และมือทั้งสองข้างนางบีบเนื้อตัวเขา เมื่อความใหญ่โตทะยานเข้าไปจนเกือบจะมิดลำ นางจึงจิกเล็บที่กลางแผ่นหลังโต้วเซ่าเหล่ย
“ข้าเกลียดท่าน... เกลียดในสิ่งที่ท่านทำยามนี้ เพราะมันเป็นเหตุให้สตรีผู้นี้อ่อนไหว และขยะแขยงการข่มเหงนี้ ตะ แต่ข้ากลับไม่อาจปฏิเสธความต้องการของตัวเอง”
นางร้องไห้ออกมาในที่สุด เมื่อชายหนุ่มเห็นน้ำตาจึงอยากหยุดมือ เขาเตรียมผละจากรั่วตงอวิ๋น ด้วยโต้วเซ่าเหล่ยพ่ายแพ้ต่อน้ำตาของนาง
ทว่าดวงตากลมโตที่ฉ่ำด้วยหยาดน้ำตาลืมขึ้นช้าๆ ริมฝีปากนางสั่นน้อยๆ และมีเสียงสะอื้นรอดออกมา
“โอ้ วาจาเจ้าช่างเฉือนใจ มันทำให้ข้าอับอายยิ่ง จงรู้ไว้ ตัวข้านั้นทั่วทั้งใต้หล้าสตรีล้วนกองอยู่แทบเท้า หากการร่วมรักนี้เป็นการฝืนใจ ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก ไม่ใช่แค่ตอนนี้ หากเป็นทุกชาติภพ”
ชายหนุ่มกล่าว และนั่นคือมารยาเล็กน้อยของเขา ซึ่งมันทำให้รั่วตงอวิ๋นต้องรีบเอ่ยว่า
“ข้าต้องได้ของในหีบสมบัติทั้งหมด และ... หากท่านจะมอบปีศาจแสนอัปลักษณ์ เข้าไปในท้องข้า ก็อย่าคิดสิ่งใดให้มาก จงรีบเร่งมือเสีย มิเช่นนั้นเสี่ยวอวิ๋น ผู้นี้จะปลุกปล้ำ และข่มเหงท่านด้วยตนเองเพื่อระบายโทสะที่กำลังแผดเผาร่างกาย หากเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น ท่านก็อย่าหาว่าข้าร้าย แล้วกัน”
“ฮ่าๆ ๆ เจ้ากำลังขอร้องข้า”
คนตัวโตยียวน
“มิได้ ข้ากำลังสั่งท่าน... คุณชายเหล่ยจงแนบเนื้อผสานใจกับข้า และอย่าได้หยุดจนกว่า น้ำวิสุทธิ์จะถูกส่งเข้าไปด้านส่วนที่ข้าหวงแหน...”
นางบอกเขาและดวงตากลมโตฉ่ำปรือ ริมฝีปากก็เผยออ้า ยั่วเย้าเขาให้ลงมือทำในสิ่งที่ทั้งคู่ต่างต้องการ