ตอนที่ 4 : จอมแสบ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เพลงขวัญเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเดรสสีหวาน แบบเดียวกับที่เธอสวมใส่เมื่อคืน ทว่าชุดนี้ไม่เปิดหลังแต่ดูจะสั้นกว่าเมื่อคืนมาก สร้างความไม่พอใจให้กับชายหนุ่มที่กำลังมองอยู่ลึกๆ
ไม่ใช่ว่าขาเรียวยาวที่อวดต่อสายตาอยู่ตอนนี้ไม่สวย ตรงกันข้ามผิวขาวเนียนน่ามองนั้นสวยจนเขาอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้เมื่อคิดถึงสายตาของหนุ่มๆ คนอื่นที่ได้เห็นมัน
"ช่วยอธิบายเรื่องเมื่อคืนทั้งหมดให้ฉันฟังทีนะคะ พอดีฉันจำอะไรไม่ได้เลย"
หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม พลางเชิดใบหน้างามขึ้นเล็กน้อยเพื่อนเผชิญหน้ากับคนที่ตัวสูงกว่าเธอพอสมควร
"คุณชอบออกไปเที่ยวแล้วดื่มจนเมาแบบนี้เป็นประจำเลยเหรอ ดูเหมือนคุณจะชินกับการหมดสติแล้วตื่นมาในห้องของคนแปลกหน้า จนผมไม่แน่ใจแล้วว่าผมเป็นผู้ชายคนแรกที่พาคุณกลับมาในห้องตอนที่คุณเมาหรือเปล่า"
เขาไม่ได้อยากดูถูกเธอ หากแต่ท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจ หรือเอะอะโวยวายอย่างที่ควรจะเป็นตอนที่เธอได้สติตื่นมาแล้วพบว่าอยู่ห้องของคนแปลกหน้า แถมยังเป็นห้องของผู้ชายที่เพิ่งเจอกันได้วันเดียว มันทำให้คีรินอดคิดไม่ได้ว่าเธอจะชินชากับเรื่องแบบนี้
"ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธนี่ว่าคุณไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่พาฉันกลับห้อง"
เธอพูดไปตามความเป็นจริง เพราะเวลาเมาก็มักจะได้วิทยาเพื่อนหนุ่มใจสาวหอบเธอกลับคอนโดด้วยเสมอ และเขาก็เป็นคนที่สองที่หอบเธอกลับมา แต่เธอก็ไม่คิดจะลงรายละเอียดอะไรให้มากไปกว่านั้น จนทำให้คนฟังรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
"ผมไม่ชอบผู้หญิงที่ไม่รักตัวเอง ทำตัวง่ายๆ กับผู้ชายไปทั่ว"
คราวนี้ชายหนุ่มถึงกับหลุดปากออกมาตรงๆ และคำต่อว่าของเขาก็แรงพอที่จะทำให้ใบหน้างดงามตึงขึ้นด้วยความไม่พอใจเช่นกัน จากที่ตั้งใจจะพูดคุยกับเขาดีๆ ก็เปลี่ยนใจไม่อยากฟังเรื่องราวเมื่อคืนแล้ว
"ฉันก็ไม่ได้บังคับให้คุณมาชอบเสียหน่อย ถ้ารับในสิ่งที่ฉันเป็นไม่ได้ก็หยุดเรียนรู้กันตอนนี้ก็ได้ ไว้ฉันจะไปบอกคุณปู่เองว่าเราเข้ากันไม่ได้"
"มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก คุณก็รู้ว่าคุณปู่ของเราเป็นยังไง ถ้าท่านฟังเสียงเราบ้างก็คงไม่จับเราหมั้นตั้งแต่เรายังไม่รู้ความหรอก"
"ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไง เอาเป็นว่าเรื่องเมื่อคืนขอบคุณที่ช่วยนะคะ วันนี้ขอตัวไปทำงานก่อน"
หญิงสาวตัดบท เมื่อตระหนักว่าการเข้าทำงานวันแรกของเธอนั้นสายแล้ว ถึงแม้จะต้องโดนตำหนิตั้งแต่วันแรกของการทำงานเธอก็พร้อมจะน้อมรับมัน โดยที่เธอไม่ต้องการเรียกร้องสิทธิ์พิเศษให้ใครช่วยแก้ต่าง หรืออ้างเหตุผลอื่นเพื่อเอาตัวรอด โดยเฉพาะกับท่านประธานใหญ่ตรงหน้าของเธอ
คีรินถึงกับต้องขบกรามแน่นเก็บอาการกรุ่นๆ ไว้ภายในอย่างสุดความสามารถ ขณะที่มองตามร่างบางระหงเดินผ่านหน้าออกจากประตูไป ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นควรจะจัดการกับผู้หญิงคนนี้ยังไงดี
………………………………………..
“ตาคีย์ แกได้เจอกับหนูเพลงขวัญหรือยัง”
เสียงของชายชราเอ่ยถามมาตามสาย ทันทีที่ชายหนุ่มกดรับโทรศัพท์
“เจอแล้วครับคุณปู่”
“แล้วเป็นยังไงบ้าง สวยถูกใจอย่างที่ปู่ว่าหรือเปล่าล่ะ”
“เรื่องความสวยผมไม่เถียงครับ ยอมรับว่าสเปคของผมอาจจะเหมือนคุณปู่จริง แต่เรื่องนิสัยใจคอผมว่า…”
“เพิ่งจะได้รู้จักกันจะไปรู้จักนิสัยใจคอลึกซึ้งได้ยังไง ไว้ค่อยๆเรียนรู้กันไปก็รู้จักกันดีเองนั่นแหละ”
คุณคณกรพูดดักคอหลานชายไว้อย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายจะเอาเรื่องนิสัยมาอ้าง ซึ่งก็ทำให้คีรินถึงกับต้องพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างขัดใจ ก่อนจะย้อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าหนักแน่นจริงจัง
“สรุป ยังไงคุณปู่ก็จะให้ผมคุยกับเธอให้ได้ใช่ไหมครับ”
“ใช่ ลองดูสักหน่อย ถ้าลองศึกษากันแล้วพบว่าเข้ากันไม่ได้จริงๆ ถึงเวลานั้นปู่ก็ไม่อยากบังคับให้แกแต่งงาน”
“คุณปู่พูดจริงนะครับ”
“พูดจริงสิ แกเคยเห็นปู่พูดเล่นด้วยเหรอ”
“ครับ งั้นผมจะลองดู แต่ถ้าเวลาผ่านไปพักใหญ่แล้วผมไม่คิดกับเธอเชิงชู้สาว คุณปู่ก็อย่าลืมตามที่คุยกันไว้นะครับ”
“รู้แล้วน่ะ ฉันไม่ใช่คนแก่ขึ้นหลงขี้ลืมสักหน่อย”
“ตามนั้นครับคุณปู่”
พูดจบคีรินก็กดวางสายจากผู้เป็นปู่ นัยน์ตาคมกริบประกายแสงแห่งความหวังอีกครั้ง เพราะอย่างน้อยปู่ของเขาก็ไม่ได้ใจร้ายบังคับจิตใจของเขาจนเกินไป
……………………………………….
เพลงขวัญกลับมาถึงห้องพักแล้วก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำเพื่อตรวจดูความผิดปกติของร่างกายตัวเองอย่างเร่งด่วน เธอใช้ความรู้ในฐานนะหมอบวกกับสัญชาตญาณตรวจสอบตัวเองอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะถอนหายใจโล่งอกเมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเธอยังคงปกติดีทุกส่วน ไม่มีส่วนใดบุบสลายหรือสูญเสียอย่างที่กังวลในทีแรก
หญิงสาวพาร่างบางออกมายังห้องแต่งตัว จัดการเปลี่ยนชุดสลัดคราบสาวเซ็กซี่ กลายมาเป็นคุณหมอคนสวยเรียบร้อยในชุดเสื้อกาวน์ตัวยาวพร้อมดูแลคนไข้ แต่ก่อนออกจากห้องไปปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ลืมที่จะต่อสายหาเพื่อนสนิท ที่ปล่อยให้เธอกลับกับชายหนุ่มเมื่อคืน
“เป็นยังไงบ้างยายเพลง ฉันดีใจนะที่แกโทรกลับมาหาได้ นึกว่ายังนอนหลับไม่ได้สติอยู่”
“ฉันสบายดี แกก็รู้ว่าถึงฉันจะเมาหนักแค่ไหนก็ตื่นมาทำงานไหว ว่าแต่เมื่อคืนทำไมถึงปล่อยให้ฉันกลับกับอีกตานั่นได้ล่ะ”
“ทำไมเรียกคู่หมั้นตัวเองแบบนั้นล่ะยายเพลง นั่นมันคู่หมั้นแกนะ แถมยังหล่อมากด้วย”
“หยุดเลย หยุดเพ้อถึงรูปร่างหน้าตาของเขาแล้วตอบคำถามฉันมาก่อนว่าทำไมถึงปล่อยให้เขาพาฉันกลับ”
“ก็เพราะฉันเห็นเขาดูน่าเชื่อถือ และดูน่าไว้วางใจยังไงล่ะ และอีกอย่างเขาก็เป็นคู่หมั้นของแก คงไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอกมั่ง ว่าแต่เขาส่งแกถึงห้องและปลอดภัยดีใช่ไหม”
"อืม ปลอดภัยดี"
เพลงขวัญตอบออกไปแบบนั้นเพื่อให้เพื่อนของเธอสบายใจ โดยไม่ยอมบอกว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้พาเธอมาส่งที่ห้อง หากแต่พาไปยังคอนโดของเขาแทน ซึ่งแน่นนอนว่าถ้าเธอบอกเพื่อนไปตามความจริงเกรงว่าวิทยาจะมีคำถามกลับมามากมาย ซึ่งเธอยังไม่มีเวลาที่จะเล่าหรืออธิบายอะไรให้เพื่อนฟังตอนนี้
"งั้นก็ดีแล้ว"
"งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ไปเข้างานสายแล้ว"
"โอเค ไว้เจอกันนะเพื่อน"
“อืม…บาย”
สองคู่เกลอบอกลากันก่อนที่เพลงขวัญจากวางสาย แล้วรีบเดินออกจากห้องพัก เพื่อไปที่ทำงานใหม่ของตน
…………………………………………….
เวลาเกือบหนึ่งทุ่ม คีรินมานั่งรอคุณหมอคนสวยอยู่ที่ห้องทำงานของเธอ ระหว่างที่เธอออกไปดูอาการของคนไข้ที่ห้องผ่าตัด ถึงแม้ตอนนี้จะเลยเวลางานมาเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ด้วยการที่เธอเข้างานสายเลยทดแทนเวลางานจนครบชั่วโมง กระทั่งกลับเข้ามาในห้องทำงาน แล้วพบว่ามีคนนั่งรออยู่
"คุณคีย์เป็นอะไรคะ ไม่สบายเหรอ"
เธอถามคนที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เก็บซ่อนความตื่นเต้นไว้ในใจ เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอหน้าเขาอีกหลังจากที่พูดจาไม่ดีกับเขาไปเมื่อเช้านี้
"เปล่า ผมสบายดี แค่จะมารับคุณไปทานข้าว"
"เป็นคำสั่งของใครคะ คุณปู่ของคุณหรือคุณปู่ของฉัน"
"ไม่ใช่คำสั่งของใครทั้งนั้น แต่ที่ผมมาก็เพราะตั้งใจจะมาด้วยตัวเอง"
คีรินปฏิเสธพร้อมบอกความจริง และนั่นก็ทำให้มุมปากเรียวสวยกระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น
"หึ ฉันนึกว่าคุณจะถอดใจเรื่องของเราแล้วเสียอีก เพราะคุณพูดเองว่าไม่ชอบผู้หญิงอย่างฉัน"
"ผมขอโทษที่เมื่อเช้าพูดจากับคุณไม่ดี คุณช่วยลืมๆ มันไปซะ แล้วเรามาเริ่มต้นใหม่กันเถอะ"
คีรินไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาขอโทษผู้หญิงตรงหน้าเพียงเพราะเรื่องเมื่อเช้า เพราะเธอเองก็ย้อนเขาไว้มากเหมือนกัน แต่เมื่อพูดโอออกไปใบหน้างามก็ระบายยิ้มออกมาอย่างพอใจ
"ได้สิคะ ฉันไม่ชอบจำอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่อยู่แล้ว ฉันให้อภัยคุณก็ได้"
“สรุปคุณจะเริ่มต้นใหม่กับผมไหม”
“ลองดูอีกครั้งคงไม่เสียหาย”
‘ฮึ่มม!!! ยัยตัวแสบ’
คีรินคำรามในอกด้วยความรู้สึกหมั่นไส้คนตรงหน้า เธอทำเหมือนเขาเป็นคนผิดเสียเต็มประดา ทั้งที่ตัวเองก็แสบใช่ย่อย