ตอนที่ 2 : การพบกันครั้งแรก

1600 คำ
ตอนที่ 2 : การพบกันครั้งแรก เพลงขวัญทรุดนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับชายหนุ่มตามคำเอ่ยเชิญ สายตายังคงจับจ้องที่ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร ใบหน้าคม สันจมูกโด่ง ริมฝีปากหยักได้รูป รูปร่างกำยำแม้จะอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตเนื้อผ้าดีก็สามารถสังเกตเห็นความล่ำนั้นได้ไม่ยาก ทั้งนี้ก็เพราะเขาดูเหมือนคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เลยมีบุคลิกภาพที่ดูดีแบบไม่ต้องพยายามเก๊กให้ลำบาก "ยินดีต้องรับสู่โรงพยาบาลของเราอย่างเป็นทางการครับ คุณหมอเพลงขวัญ" ชายหนุ่มเป็นคนเอ่ยทักเธอก่อน เพื่อทำให้บรรยากาศที่แสนจะเงียบสงบในห้องผ่อนคลายลง "ค่ะ เรียกว่าเพลงเฉยๆ ก็ได้ค่ะ" เธอเองก็ไม่คิดจะอ้อมค้อมหรือเล่นตัวให้เสียเวลา เพราะรู้ดีว่าจุดประสงค์ของผู้ใหญ่คืออะไร หากทำเรื่องทุกอย่างให้ง่ายก็จะทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและเขาพัฒนาไปได้ไว และ ถ้าไปต่อไม่ได้ก็จะได้จบลงไวไวเช่นกัน "ผมชอบคนที่ตรงไปตรงมานะ งั้นต่อไปผมจะเรียกคุณว่าเพลงก็แล้วกัน ส่วนคุณจะเรียกผมว่าคีย์ หรือพี่คีย์ก็ได้" ด้วยอายุที่ต่างกันถึงสองปี เขาเลยเอ่ยแนะนำเธอไปแบบนั้น แต่สำหรับเพลงขวัญรู้สึกว่าตัวเองยังไม่สนิทกับเขาถึงขั้นต้องมีคำนามหน้าชื่อว่าพี่ หรือน้องขึ้นก่อน เลยเอ่ยตอบไป "เรียกคุณคีย์ดีกว่าค่ะ" นี่เป็นการเว้นระยะห่างไว้ สำหรับการที่เพิ่งได้ทำความรู้จักกันเป็นครั้งแรก ซึ่งคีรินก็ไม่คิดจะขัดอะไร "แล้วคุณพร้อมหรือยัง ผมจะได้พาเดินดูโรงพยาบาลก่อนที่คุณจะเริ่มงาน" "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่รบกวนดีกว่า ไว้ว่างๆ ฉันจะลองศึกษาห้องต่างๆดูเอง" หญิงสาวปฏิเสธด้วยความเกรงใจ เพราะทราบดีว่าอีกฝ่ายงานยุ่งมาก แต่ที่เขาเสนอตัวพาเธอเดินชมก็เพราะเป็นคำสั่งจากผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่ใช่เพราะเขาเต็มใจ ทว่าเหตุผลต่อมาของเขาก็ทำให้เธอล้มเลิกความคิดเดิมในทันที "โรงพยาบาลเรามีแค่สามสิบชั้นก็จริง แต่คุณควรรู้จักห้องสำคัญๆไว้บ้าง เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ไม่ลำบากวิ่งวุ่นไปทั่ว" “ก็ได้ค่ะ”เมื่อปฏิเสธไม่ได้เธอก็ยอมที่จะตอบตกลง เพลงขวัญเดินออกจากห้องรับแขกพร้อมกับท่านประธานสุดหล่อ และตามเขาไปยังห้องต่างๆ รวมทั้งสถานที่สำคัญของโรงพยาบาล ชายหนุ่มไม่เบื่อที่จะอธิบายหรือแนะคำเธอให้รู้จักกับบุคคลสำคัญของโรงพยาบาล ทั้งนี้ก็เพราะเธอเข้ามาที่นี่ในฐานะแพทย์หญิงคนสำคัญคนหนึ่งที่มีฝีมือไม่ธรรมดา อีกทั้งยังแจงเรื่องงาน และหน้าที่รับผิดชอบให้เธอฟังแบบคร่าวๆ ด้วย "เดี๋ยวคุณคีย์ส่งถึงนี่ก็พอค่ะ ฉันจำทางกลับที่พักได้" หลังจากที่การเดินชมโรงพยาบาลเสร็จสิ้นลง หญิงสาวก็เอ่ยปากขอตัว แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะยังมีเรื่องที่ต้องคุยกับเธออยู่ โดยเฉพาะเรื่องระหว่างเขาและเธอ "รู้ใช่ไหมว่าที่เราได้มาพบเจอกัน เป็นเพราะความต้องการของผู้ใหญ่"เขาเอ่ยถามออกมาตรงๆ "ก็พอทราบค่ะ"เพลงขวัญไม่คิดจะปฏิเสธ และเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาคิดยังไงกับเรื่องนี้ "แล้วคุณจะเอายังไง" "ไม่รู้สิคะ แต่ฉันคงทำให้ตัวเองรู้สึกกับคุณในเชิงชู้สาวตั้งแต่ครั้งแรกที่พบไม่ได้หรอก" คำตอบที่แสนจะตรงไปตรงมานั้น ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาที่เคร่ง ขรึมตลอดเวลาถึงกับหลุดขำออกมา เธอพูดถูก เขาเองก็คงทำให้ตนเองรู้สึกในเชิงชู้สาวกับเธอตั้งแต่แรกพบไม่ได้เช่นกัน แต่เพราะความตรงไปตรงมาของเธอทำให้เขาเกิดสนใจเธอเพิ่มขึ้นมาเสียอย่างนั้น "ผมเห็นด้วย งั้นเอาเป็นว่าเราค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก่อนก็แล้วกัน" อันที่จริงเขาควรจะถามเธอว่าเธอมีเจ้าของหัวใจหรือยัง แต่เพราะกลัวคำตอบว่าเธอกำลังคบกับใครอยู่เขาเลยสรุปให้แบบนั้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้โอกาสกับตัวเองที่จะได้ทำความรู้จักกับเธอเพิ่มมากขึ้น และหาข้ออ้างพบเจอเธอบ่อยๆ นั่นเอง "ค่ะ" เพลงขวัญตอบตกลงอย่างว่าง่าย เธอมองว่าการพูดคุยกันแบบตรงไปตรงมานั้นดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้น "งั้นฉันขอเข้าที่พักก่อนนะคะ" "ครับ เดินตรงไปเลี้ยวซ้าย ห้องคุณอยู่ชั้นที่ห้า" เขาพยักหน้า พลางทวนทางไปตึกพักสำหรับแพทย์หญิงให้เธออีกครั้งเผื่อว่าเธอจะลืม "ค่ะ ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวกล่าวขอบคุณก่อนที่จะเดินจากไป ท่ามกลางนัยน์ตาคู่คมที่มองตามร่างบางที่เดินจากไปด้วยสายตาชื่นชม “สวย เก่ง น่าค้นหา” คีรินพึมพำกับตัวเองเบาๆ หลังจากที่ได้รู้จักตัวตนของเธอครั้งแรก บางทีคุณปู่ของเขาอาจจะพูดถูก เขามักชอบอะไรคล้ายๆ ท่าน แม้กระทั่งสเปคผู้หญิง …………………………………………… “ห้องไม่เลวนี่” เพลงขวัญวางกระเป๋าสะพายใบเล็กของตัวเองลงบนโต๊ะเครื่องแป้งพลางพึมพำกับตัวเองอย่างพอใจ จากนั้นก็เริ่มเดินสำรวจห้องพักที่ถือว่ากว้างใหญ่ และสะดวกสบายพอๆ กับการเช่าโรงแรมหรูอยู่เลยทีเดียว ก็เพราะผู้บริหารโรงพยาบาลใส่ใจกับความเป็นอยู่ของแพทย์และลูกจ้างโรงพยาบาลมากสินะ ถึงได้ทำให้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลทำงานกันอย่างมีความสุข สังเกตได้จากเสียงตอบรับของผู้มาใช้บริการที่ต่างชื่นชมถึงความเป็นมิตรและรอยยิ้มจากเจ้าหน้าที่ทุกคน เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าถือใบเล็กส่งเสียงขึ้นมา ทำให้คนที่กำลังเดินสำรวจห้องน้ำ และระเบียงอยู่ต้องเดินกลับมาหยิบโทรศัพท์มาดู ก่อนที่จะกดรับสายแล้วกรอกเสียงตามลงไป "ว่างไงวิทย์”หญิงสาวเอ่ยทักเพื่อนร่วมอาชีพ หนุ่มหล่อใบหน้าขาวตี๋ ทว่าใจเป็นหญิงด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง "ลืมหรือยังว่าคืนนี้เรามีนัดเจอกัน" "ไม่ลืม แต่ขอทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนแล้วจะออกไป" “โอเค ที่เดิมนะจ๊ะเพื่อน” “อืม แล้วเจอกัน” เพลงขวัญกดวางสาย พลางมองนาฬิกาในหน้าจอโทรศัพท์ซึ่งตอนนี้บ่งบอกว่าเป็นเวลาเกือบจะสามทุ่มแล้ว เธอวางโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูลงบนโต๊ะที่เดิมแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปตามนัด 22.00 น.ไนต์คลับหรูใจกลางเมืองกรุง สองแพทย์คู่หูหย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้มุมหนึ่งของไนต์คลับท่ามกลางแสง สี เสียง ที่ดังกระหึ่ม ลบภาพจำของหลายๆ คนที่ว่าแพทย์เป็นสายอาชีพที่รักสุขภาพ ต้องท่องตำรา อยู่แต่หน้าหนังสือ เพราะสำหรับแพทย์ทั้งสองคนที่รักในแสงสีเสียงมาตั้งแต่สมัยเรียน กระทั่งเดินในสายอาชีพแพทย์ก็ยังคงหาเวลานัดกันมาปลดปล่อยความเครียดโดยการดื่ม และเต้นท่ามกลางเสียงเพลง เสียงดนตรีที่เร้าใจ เรียกได้ว่าเป็นการทำให้ชีวิตมีสีสันและไม่ตึงเครียดจนเกินไป "มาถึงก็ดื่มเอา ๆ พรุ่งนี้ไม่ทำงานเหรอไงยายเพลง"วิทยาเอ่ยถามเพื่อนสาวเมื่ออีกฝ่ายตั้งหน้าตั้งตาดื่ม ราวกับกระหายมาเป็นชาติ "ทำสิ เริ่มงานที่ใหม่ซะด้วย" เพลงขวัญตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ยังคงเติมเครื่องดื่มใส่แก้วไม่หยุด "ทำไม มีเรื่องให้กลุ้มใจหรือไง" "เปล่า ไม่ได้กลุ้มใจ เพียงแต่มีเรื่องให้ทำมากกว่างาน" "หมายความว่าไงที่ว่ามีเรื่องให้ทำมากกว่างาน" "ทำตัวให้สวย ดูดี หาสามีตามที่คุณปู่ต้องการ" คำตอบหน้าตายของเพื่อนสาวทำเอาเหล้าในปากของวิทยาแทบจะหลุดพรวดออกมา ยังดีที่เขาเอามือปิดปากไว้ได้ทัน ไม่งั้นคงพุ่งใส่หน้าสวยๆ ของเพื่อนสาวเต็มๆ “พูดจริงดิ?” วิทยามองเพื่อนสาวกึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อ ก่อนที่จะได้รับคำยืนยันเสียงหนักตอบกลับมา “พูดจริงสิ แกเคยเห็นฉันพูดเล่นด้วยเหรอ” “แล้วเขาเป็นใครล่ะ หนุ่มผู้โชคดีคนนั้น” “คีริน ท่านประธานโรงพยาบาลที่ฉันย้ายไปทำงานใหม่ไง” “แล้วได้เจอกันหรือยัง” “เจอแล้ว เมื่อบ่ายนี้เอง” “แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง หล่อสมคำร่ำลือหรือเปล่า” เพราะเคยได้ยินเรื่องความหล่อรวยของท่านประธานโรงพยาบาลคนดังกล่าวมาก่อน วิทยาเลยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด “มากกว่าที่ข่าวลือด้วยซ้ำ” เพลงขวัญไม่ได้ตอบเกินจริง จะว่าไปแล้วต้องเห็นตัวจริงถึงจะรู้ว่าหัวใจเต้นแรงเบอร์ไหน ตอนที่ได้สบตากัน และนั่นก็ทำให้วิทยาเอ่ยสนับสนุนเพื่อนในทันที “อย่ารอช้าเพื่อนรัก งานนี้อย่าให้พลาด” “ขอบใจ ขอไปเต้นก่อน” เพลงขวัญกล่าวขอบคุณเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงเรียบ ไม่ได้แสดงความรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษแต่อย่างใด ก่อนที่จะลุกขึ้นขอตัวไปโยกย้ายตามเสียงดนตรี จังหวะเร้าใจเพื่อระบายความพลุกพล่านของฤทธิ์แอลกอฮอล์ในกาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม