EP3: ของหวงท่านประธาน
หลังจากแอบเข้าห้องทำงานของอองเดรในตอนที่เขาเข้าประชุมพร้อมกับชมพูแพร และก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับแววดาวมาเรียบร้อยแล้ว กานติมาก็วางแผนเพื่อที่จะทำให้ชมพูแพรทำงานพลาด
“ดูสิว่าหากผู้หญิงที่แกเลือกไม่ได้ไปรอท่านประธานที่โรงแรม แกจะทำยังไง”
กานติมาเกลียดชมพูแพรเข้าไส้ ทั้งเกลียดทั้งอิจฉาริษยา
“คราวนี้แหละ แกจะไม่ได้เป็นเลขาฯ ยอดเยี่ยมของท่านประธานแล้ว”
รอยยิ้มพึงพอใจระบายบนใบหน้าที่แต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางค์จนหนาของกานติมามากมาย แววตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้าย ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาแววดาว และสวมรอยเป็นชมพูแพร
“สวัสดีค่ะคุณแววดาว พี่เป็นคนที่จะมารับคุณไปที่โรงแรมค่ะ”
“อ้าว ไหนบอกให้แววไปเองไงคะ”
“พอดีเจ้านายของพี่น่ะอยากอำนวยความสะดวกให้กับคุณแววดาวน่ะค่ะ”
“อ๋อ อย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
“แล้วตอนนี้คุณแววดาวออกมาจากมหา’ลัยหรือยังคะ”
“ตอนนี้แววอยู่คอนโดค่ะ กำลังแต่งตัว”
“คอนโดไหนคะ พี่จะได้รีบไปรอรับ”
“คอนโด...”
แววดาวบอกชื่อคอนโดของตัวเองให้กับคู่สนทนาที่ตนเองคิดว่าเป็นลูกน้องของผู้ว่าจ้างให้ตัวเองไปอุ้มบุญให้
“งั้นพี่จะไปรอคุณแววดาวอยู่ที่ล็อบบี้นะคะ แต่งตัวให้สวยที่สุดนะคะ เพราะถ้าเจ้านายพี่ถูกใจ คุณแววดาวอาจจะได้ทริปเพิ่มที่นอกเหนือจากค่าจ้างอีกนะคะ”
“ขอบคุณมากค่ะ แววจะแต่งตัวให้สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ”
เมื่อแววดาววางสายไปแล้ว กานติมาก็บิดปากกับโทรศัพท์มือถืออย่างเหยียดหยาม
“ถึงแกจะแต่งตัวสวยแค่ไหน แต่แกก็จะได้แค่นอนแห้งอยู่ข้างถนนเท่านั้นแหละ”
กานติมาเหยียบคันเร่ง บังคับรถญี่ปุ่นป้ายแดงของตัวเองให้แล่นกลับขึ้นไปบนถนน เพื่อมุ่งหน้าไปยังคอนโดของแววดาว
‘ดูสิว่าแกจะแก้ปัญหานี้ยังไง’
กานติมาหัวเราะร่วนอย่างสะใจ เพราะมั่นใจว่าอองเดรจะต้องโกรธมาก หรือบางทีอาจจะไล่ชมพูแพรออกจากงานเลยก็ได้
หึ... ถ้าเป็นเช่นนั้น หล่อนคงจะต้องไปรำแก้บนหลายวัดเลยทีเดียว
ตัวเลขแสดงเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ บอกให้หล่อนรู้ว่าตอนนี้เลยเวลาสองทุ่มตรงมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง
น้ำตาเม็ดโตๆ ที่พยายามห้ามเอาไว้ไหลลงอาบแก้มนวล และไหลเลยเรื่อยลงใส่แก้วเหล้าที่กำเอาไว้ในมือ
เหล้า...
ไหนมีคนเคยบอกว่าเหล้าจะทำให้ลืมความทุกข์ ความเจ็บปวด แต่ทำไมหล่อนถึงยังคงเจ็บปวด ทั้งๆ ที่ดื่มมันเข้าไปเกือบหมดแก้วแล้ว
มือเรียวยกขึ้นดึงแว่นหนาออกจากใบหน้า เพื่อที่จะได้เช็ดน้ำตาที่กำลังไหลหลากราวกับน้ำป่าออกจากแก้มได้ง่ายขึ้น
หล่อนเจ็บปวด เมื่อคิดว่าตอนนี้กำลังมีผู้หญิงโชคดีคนหนึ่งกำลังได้อยู่ใต้ร่างของอองเดร ท่านประธานที่หล่อนแอบรักมานาน
“หยุดร้องไห้ได้แล้วชมพูแพร เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะร้องไห้ด้วยซ้ำ”
หญิงสาวบอกตัวเองซ้ำไปซ้ำมาในอกด้วยความปวดร้าว และก็บอกตัวเองให้ชินสักทีกับการที่อองเดรมีผู้หญิงคนอื่นข้างกาย
แต่ให้ตายเถอะ หล่อนไม่อาจจะทำใจให้ชินได้สักที
หล่อนร้องไห้เสียใจทุกครั้งที่รู้ว่าอองเดรกำลังทำกิจกรรมกับผู้หญิงคนอื่น ผู้หญิงที่หล่อนเป็นคนคัดเลือกให้กับเขาด้วยมือตัวเอง
ดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำแห่งความเสียใจจับจ้องมองที่แก้วเหล้า
สงสัยหล่อนคงยังดื่มไม่พอ ต้องดื่มให้มากกว่านี้สินะ ถึงจะลืมความทุกข์ได้
มือขาวสะอาดสวมแว่นหนากลับคืนสู่ใบหน้า ก่อนจะยกแก้วเหล้าเทกรอกลงไปในลำคอ ใบหน้านวลบิดเบี้ยวเพราะรสชาติของแอลกอฮอล์บาดลึกถึงจิตวิญญาณ
“น้องเอามาอีกแก้ว”
หล่อนกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟที่เพิ่งเดินผ่านไปและสั่งเหล้าเพิ่ม
แก้วเหล้าใบใหม่ถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าตามที่หล่อนต้องการ
ชมพูแพรยื่นมือไปจับแก้วเหล้าเอาไว้ กำลังจะยกขึ้นดื่ม แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดันดังขึ้นเสียก่อน
แก้วเหล้าใบสวยถูกวางลงบนโต๊ะที่เดิมในฉับพลัน ดวงตากลมโตที่มีหยาดน้ำตาเปื้อนเปรอะต้องรีบกะพริบถี่ๆ
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือหล่อนตั้งเอาไว้เฉพาะบุคคล และเสียงเรียกเข้านี้ก็คือเบอร์ของอองเดรนั่นเอง
เขาโทรมาหาหล่อนทำไมตอนนี้ หรือว่ากิจกรรมอุ้มบุญของเขากับแววดาวสิ้นสุดลงแล้ว
หญิงสาวอดที่จะเหลือบมองเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้ และก็ต้องแปลกใจจนคิ้วขมวดมุ่นพันกัน
เพิ่งสองทุ่มสามสิบแปดนาที ทำไมอองเดรทำเสร็จเร็วนัก ปกติเขาทำทั้งคืนนี่นา...
หรือว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น?
ชมพูแพรลนลานกดรับสายของเจ้านายหนุ่มสุดหล่อด้วยความร้อนอกร้อนใจ และก็ยิ่งตกใจมากขึ้นจนแทบสร่างเมา เมื่อได้ยินเสียงของคนปลายสาย
“คุณรีบมาหาผมที่โรงแรมเดี๋ยวนี้เลยนะ คุณชมพูแพร”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะท่านประธาน”
“ไม่ต้องมาถาม! รีบมาด่วน”
“ค่ะ... ค่ะ แพรจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
หล่อนกำลังจะวางสาย แต่เสียงคนปลายสายหยุดยั้งเอาไว้เสียก่อน
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนน่ะ”
“เอ่อ...”
“ไม่ใช่ที่คอนโดใช่ไหม”
“เอ่อ... พอดีแพรออกมาเที่ยวน่ะค่ะ”
“ปกติคุณไม่เคยเที่ยวกลางคืนนี่ชมพูแพร ทำไมตอนนี้ถึงอยากเริ่มเที่ยวขึ้นมาล่ะ”
หล่อนไม่เข้าใจนักว่าทำไมอองเดรจะต้องไม่พอใจเมื่อรู้ว่าหล่อนไม่ได้อยู่คอนโดด้วย
“แพร... ก็แค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ น่ะค่ะ”
หล่อนได้ยินเสียงคำรามคล้ายไม่สบอารมณ์ของคนปลายสาย ก่อนที่เขาจะเค้นเสียงกระด้างที่น้อยครั้งนักที่จะได้ยินดังมาเข้าหู
“ผมขอเตือนว่า คุณไม่เหมาะกับสถานที่แบบนั้นหรอก ชมพูแพร”
เขาจะต้องมาใส่ใจอะไรหล่อน ในเมื่อหล่อนมันก็แค่เลขาฯ หน้าห้องที่เขาเชิดชูว่าทำงานได้ยอดเยี่ยมเท่านั้นเอง
“ทำไมท่านประธานถึงคิดว่าผับบาร์ไม่เหมาะกับแพรล่ะคะ”
“ก็เพราะในสายตาของผม คุณเหมาะที่สุดที่จะอยู่หน้าห้องทำงานของผมยังไงล่ะ เอาล่ะ เลิกถามอะไรเซ้าซี้ได้แล้ว รีบมาหาผม”
หล่อนควรจะตอบ ‘ค่ะ’ ‘รับทราบค่ะ’ เหมือนที่เคยทำมาตลอด แต่แอลกอฮอล์ที่วิ่งพล่านอยู่ในกระแสเลือด ทำให้หล่อนรู้สึกแกร่งกล้ามากกว่าปกติ
“แล้ว... คุณแววดาวล่ะคะ”
“ก็ที่ผมโทรหาคุณ ก็เรื่องนี้แหละ”
“ทะ... ทำไมคะ หรือว่าท่านประธานไม่ถูกใจคุณแววดาว”
แต่เขาเป็นคนเลือกเองกับมือ ตอนที่หล่อนนำประวัติเข้าไปให้เลือกในห้องทำงานนี่นา
“ไม่ใช่ว่าผมไม่ถูกใจ”
“อ้าว แล้วเรื่องอะไรคะท่านประธาน”
คนปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะเค้นคำพูดที่ทำให้หล่อนตื่นตกใจจนช็อกออกมาอย่างชัดเจน
“แววดาวไม่มาตามนัด”
“คะ? ท่านประธาน”
หล่อนตกใจจนต้องรีบผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ หน้านวลซีดเผือด
หล่อนรีบวางเงินลงกับโต๊ะ โดยไม่คิดจะรับเงินทอน จากนั้นก็รีบเดินออกไปจากสถานบันเทิงด้วยความรีบร้อน
“ผู้หญิงคนนั้นไม่มา ผมนั่งรออยู่ในห้องมาเกือบสี่สิบนาทีแล้ว”
“ทำไม เป็นอย่างนั้นละคะ เอ่อ... เดี๋ยวแพรจะรีบโทรตามให้นะคะ”
“ผมไม่สนว่าคุณจะทำอะไรต่อจากนี้ แต่คุณต้องมาหาผมที่นี่ เดี๋ยวนี้ ชมพูแพร”
“ค่ะ ท่านประธาน แพร... กำลังรีบไปค่ะ”
ชมพูแพรก้าวขึ้นรถของตัวเอง ติดเครื่องยนต์และขับออกไปด้วยความเร็ว ในระหว่างที่จอดติดไฟแดงก็รีบโทรหาแววดาว
“ทำไมไม่รับนะ”
แต่ปลายสายไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะกดโทรหาสักกี่ครั้งก็ตาม
“รับปากแล้วก็ไม่มา ท่านประธานคงกำลังโกรธเรามากแน่ๆ”
นี่หล่อนจะทำยังไงดีนะ
ชมพูแพรเต็มไปด้วยความร้อนใจ หวาดวิตก เพราะนี่คือการทำงานผิดพลาดครั้งแรก ตั้งแต่ทำงานในฐานะเลขาฯ ของอองเดรมา
ในขณะที่ชมพูแพรกำลังกระวนกระวายร้อนรน กานติมาก็ยิ้มเยาะด้วยความสะใจ ปรายตามองร่างไร้สติของแววดาวที่นั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่เบาะข้างคนขับ
หล่อนไปรับแววดาวมาขึ้นรถ และก็วางยานอนหลับในน้ำดื่ม จนกระทั่งแววดาวหลับใหลไม่ได้สติแบบนี้
“ทำไมมันง่ายแบบนี้นะ”
กานติมาตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทางซึ่งเป็นป้ายรถโดยสารประจำ จากนั้นก็รีบมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าปลอดคนก็รีบลากร่างของแววดาวที่ไม่ได้สติลงไปข้างทาง
“ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำแบบนี้ คุณอาจารย์คนสวย”
กานติมาเอ่ยกับแววดาวด้วยรอยยิ้มหยัน หล่อนมองอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะฮัมเพลงเดินขึ้นรถไปอย่างอารมณ์ดี
“ฉันชนะแกแล้ว นังชมพูแพร”
รถญี่ปุ่นป้ายแดงถูกขับออกไปจากป้ายรถเมล์ ทิ้งร่างหลับใหลไม่ได้สติของแววดาวเอาไว้ตรงนั้นอย่างใจดำ