EP2: ของหวงท่านประธาน
อองเดรพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก ในขณะที่หล่อนรู้สึกเศร้าใจเหลือเกิน
“คุณสมบัติของแม่พันธุ์ที่ผมบอกไป คุณพอจะหาได้ไหม”
“แพรจะหาให้ท่านประธานให้ได้ค่ะ ว่าแต่ท่านประธานมีเวลาให้แพรกี่วันคะ”
“ผมอยากได้เร็วที่สุด สักวันศุกร์นี้คุณไหวไหม”
ชมพูแพรนับนิ้วก่อนจะตอบรับออกไปด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“ได้ค่ะ”
“คุณไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยสักครั้ง ชมพูแพร”
หล่อนทำได้แค่ยิ้มรับกับคำชื่นชมของอองเดร แต่หัวใจกลับปวดร้าวเหลือเกิน
อยากจะให้มีสักครั้ง แต่นาทีเดียวก็ได้ ที่
อองเดรจะมองหล่อนเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่เลขาฯ ทำงานยอดเยี่ยมแบบที่เคยมอง
“งั้นแพรขอตัวไปเตรียมเอกสารประชุมต่อให้เสร็จก่อนนะคะ นี่ก็ใกล้เวลาประชุมเต็มที่แล้ว”
หล่อนจำได้ว่าตัวเองก้าวเดินออกไปจนเกือบถึงประตูห้องแล้ว แต่ก็ถูกเรียกเอาไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน ผมนึกได้อีกอย่าง”
“คะ? ท่านประธาน”
อองเดรเดินอ้อมโต๊ะและก้าวมาหยุดตรงหน้าของหล่อน
เขาสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ในขณะที่หล่อนสูงแค่ร้อยหกสิบสามเซนติเมตรเท่านั้น ทำให้เวลายืนเผชิญหน้ากัน เขาต่อโน้มศีรษะต่ำลงมาเล็กน้อย เพื่อที่จะสบตากับหล่อน
หัวใจสาวเต้นแรงเหมือนทุกครั้งที่อยู่ใกล้กับ
อองเดร แต่ก็โชคดีที่แว่นหนาช่วยอำพรางความรู้สึกอ่อนไหวเอาไว้มิดชิด
“ผมไม่เอาสาวบริสุทธิ์นะ”
“คะ?”
“ผมไม่ต้องการผู้หญิงบริสุทธิ์มาอุ้มบุญให้กับผม เข้าใจนะคุณแพร”
“ทะ ทำไมล่ะคะ”
“เพราะผมไม่ต้องการให้ตอนจบมีปัญหายังไงล่ะ”
เมื่อเห็นเครื่องหมายคำถามยังคงเกลื่อนใบหน้าของเลขาฯ เขาจึงอธิบายต่อ
“ถ้าเป็นผู้หญิงที่โชกโชนเรื่องบนเตียงมาก่อน จะไม่มีปัญหาอะไร หากเธอจะต้องทิ้งลูกให้กับผม และไม่เกี่ยวข้องด้วยอีก”
“ค่ะ แพรจะจัดการตามที่ท่านประธานต้องการทุกอย่างค่ะ”
“ขอบใจมาก”
หล่อนยิ้มให้กับชายหนุ่มสุดหล่อทิ้งท้ายก่อนจะหมุนตัวเพื่อที่จะออกไปจากห้องทำงานโอ่อ่า แต่คงเพราะสมองจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อองเดรต้องการเกินไป ทำให้หล่อนซุ่มซ่ามสะดุดเท้าของตัวเอง
“อ๊ะ...”
หล่อนคงล้มหน้าคะมำลงไปกับพื้นแล้ว หากไม่มีมือแข็งแรงของอองเดรมาคว้าเอาไว้เสียก่อน
ร่างของหล่อนถลาเข้าสู่อ้อมอกแข็งแกร่งโดยไม่อาจจะขืนตัวเอาไว้ได้ พร้อมกับแว่นตาที่กระเด็นหลุดออกไปจากใบหน้า
“เป็นอะไรไหมคุณแพร”
หล่อนเผยอปากครางตกใจ และมองหน้าเขา ซึ่งเขาก็จ้องมองมาพอดิบพอดี สองดวงตาสบประสานกันโดยที่ไม่มีแว่นหนามาขวางกั้นเอาไว้เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
ความรู้สึกแท้จริงในหัวใจแทบจะไหลออกมากองรวมกันในแววตาเสียให้ได้
หล่อนอ่อนแอ และเข้มแข็งไม่ได้เท่ากับที่ใจต้องการเลย เมื่อได้สบตากับดวงตาสีสนิมทรงอำนาจของอองเดรใกล้ๆ แบบนี้
“ไม่... ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณท่านประธานมากค่ะ”
หล่อนขยับตัว เตือนให้เขาปล่อยมือจากเอวคอด แต่อองเดรยังไม่ได้คลายมือออกไป เขาเอียงหน้า กวาดมองใบหน้าของหล่อนอย่างสำรวจตรวจตราเป็นครั้งแรก
“ตาคุณสวยจัง ไม่น่าใส่แว่นปิดเอาไว้เลย”
“เอ่อ... แพรสายตาสั้นน่ะค่ะ”
เขาระบายยิ้ม ยังไม่ยอมปล่อยมือจากเอวเล็กเหมือนเดิม
“ผมไม่คิดว่าเอวคุณจะเล็กขนาดนี้ คงเพราะปกติคุณใส่แต่เสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ นั่นแหละ”
ถ่านร้อนๆ นาบแนบไปตามผิวสาว และมันก็มีผลให้เลือดในกายร้อนฉ่าจนแทบจะเกิดประกายไฟเลยทีเดียว
“เอ่อ... มือท่านประธานใหญ่ต่างหากล่ะคะ เอวแพรหนาจะตายไป...”
หล่อนขยับตัวอีกครั้ง และคราวนี้เขาก็ยอมปล่อยให้หล่อนถอยออกห่างแต่โดยดี ก่อนจะเดินไปหยิบแว่นหนามาส่งให้
“ขอบคุณค่ะ”
หล่อนกัดฟันข่มความรู้สึกตื่นเร้าในใจเอาไว้สุดกำลัง และจะก้าวออกไปจากห้องทำงาน แต่อองเดรหยุดหล่อนเอาไว้ด้วยคำพูดที่น่าตื่นตกใจเสียก่อน
“คุณใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรหรือ ผมพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก”
“คือ... แพรไม่ได้ใช้น้ำหอมหรอกค่ะ”
“แต่ตัวคุณหอมนะ หอมเย็นๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นดี...”
“แพรใช้แต่แป้งเด็กน่ะค่ะ เอ่อ... ขอตัวนะคะท่านประธาน”
หล่อนกัดฟันยืนยิ้มให้กับอองเดร ก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำคร่อมจังหวะ
เมื่อเดินมาถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง ก็หย่อนกายลงนั่งอย่างหมดแรง มือเล็กยกขึ้นกุมหัวใจเอาไว้ และก็รับรู้ได้ถึงจังหวะเต้นระทึกของก้อนเนื้อข้างในได้อย่างชัดเจน
“ท่านประธานไม่ได้คิดอะไร แต่แพร... คิดไปไกลเหลือเกินค่ะ”
สองพวงแก้มแดงระเรื่อ เมื่อความรู้สึกที่แท้จริงค่อยๆ โผล่ออกมาจากลิ้นชักหัวใจ โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนเพิ่งเดินหายเข้าลิฟต์ตัวใหญ่ไป
“ฉันจะต้องทำให้ท่านประธานเห็นว่า แกไม่ใช่เลขายอดเยี่ยมอย่างที่สร้างภาพเอาไว้”
กานติมาคือคู่แข่งของชมพูแพร เพราะทั้งคู่เข้ามาสมัครตำแหน่งเดียวกันเมื่อห้าปีก่อน แต่ชมพูแพรได้ตำแหน่งเลขาฯ ของอองเดรไปครอง ส่วนกานติมาได้ทำงานในตำแหน่งเลขาฯ ของผู้จัดการฝ่ายขายแทน ซึ่งแน่นอนว่าเกรดต่ำกว่าชมพูแพร
กานติมาคิดเสมอมาว่าถ้าไม่มีชมพูแพรสักคน หล่อนจะได้เลื่อนขั้นมาเป็นเลขาฯ ของท่านประธานบริษัทฯ มีหน้ามีตามากกว่าทุกวันนี้ ดังนั้นหล่อนจึงหาทางกลั่นแกล้งชมพูแพรมาตลอดห้าปี แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง
แต่ครั้งนี้ หล่อนมั่นใจว่า แผนการร้ายของตัวเองจะต้องสำเร็จแน่นอน
“ฉันคงไม่แพ้แกไปตลอดชาติหรอกนังแพร”
กานติมากำมือแน่น สิ่งที่ได้ยินมาโดยบังเอิญจากหน้าห้องทำงานของอองเดร ทำให้หล่อนยิ้มไม่หุบ เพราะคิดว่าตอนนี้สวรรค์กำลังเข้าข้างตัวเอง
เวลาสี่วันช่างผ่านไปรวดเร็วนัก เพราะในที่สุดวันศุกร์ก็เดินทางมาถึง
ผู้หญิงนับร้อยคนที่หล่อนคัดชื่อทิ้งไป จนกระทั่งเหลือเพียงคนเดียวที่มีคุณสมบัติตามที่อองเดรต้องการที่สุด
แววดาว อาจารย์มหาวิทยาลัยคือคนที่ถูกหล่อนเลือกให้กับอองเดร
“คืนนี้สองทุ่มตรงที่โรงแรม...”
หล่อนบอกชื่อโรงแรมไปตามสายของแววดาว และคนปลายสาวก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะมาให้ตรงเวลา
“คุณควรมาก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ”
หล่อนกำชับแววดาวไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ในใจกลับรู้สึกแทบจะขาดรอนๆ
“ค่ะ”
เมื่อคู่สนทนาตอบตกลงตามที่ต้องการแล้ว ชมพูแพรก็ตัดสาย และโทรหาโรงแรมเพื่อเช็คให้เรียบร้อยว่าห้องหรูที่จองเอาไว้พร้อมสำหรับกิจกรรมอุ้มบุญของเจ้านายในค่ำคืนนี้
ทุกอย่างพร้อมแล้ว...
หญิงสาววางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะอ่านหนังสือตรงหน้า แว่นหนาถูกถอดออก เผยให้เห็นดวงตากลมโตหวานฉ่ำที่กำลังเศร้าหมอง
ทำไมนะ หล่อนต้องรู้สึกว่ากำลังจะเสียอองเดรไปด้วย
หล่อนไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวของเขา เป็นแค่เพียงเลขาฯ หน้าห้องที่เขาโปรดปรานเท่านั้น
หยาดน้ำตาร่วงหล่นอาบแก้ม แต่ก็รีบป้ายทิ้งจนแห้ง
หากอยู่แต่ในห้องแบบนี้ หล่อนคงจะเศร้าหมองไม่เป็นอันกินอันนอน ดังนั้น... หล่อนจะต้องออกไปที่ไหนสักที่ ที่จะสามารถทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นได้
ชมพูแพรตัดสินใจออกจากคอนโดที่ตัวเองพักอาศัยอยู่ตอนค่ำ หลังจากตระเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้เจ้านายครบครันหมดแล้ว
ห้องหรู...
สาวสวยที่เขาต้องการ...
บางทีค่ำคืนนี้หล่อนอาจจะต้องใช้เหล้า เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดก็เป็นได้