EP4: ของหวงท่านประธาน
“บ้าจริง ทำไมโทรเท่าไหร่ก็ไม่ยอมรับสายนะคุณแววดาว”
ชมพูแพรเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เพราะตลอดทางที่ขับรถมา หล่อนกดโทรหาแววดาวนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีคนรับสายเลย
“แล้วนี่จะทำยังไงดีนะ”
หล่อนรีบก้าวเดินเร็วๆ เข้าไปในโรงแรมหรูหรา มุ่งหน้าขึ้นไปยังห้องพักที่หล่อนเป็นคนจองให้กับอองเดรด้วยตัวเองอย่างรีบร้อน
ตลอดทางก็พยายามคิดหาทางออกที่จะทำให้ค่ำคืนนี้ของอองเดรผ่านไปได้ด้วยดี แต่จนแล้วจนรอดก็มองไม่เห็นทางเลย
ติ้งงงง
ประตูลิฟต์เปิดกว้างออก หล่อนรีบก้าวออกไปจากตัวลิฟต์ด้วยแข้งขาที่สั่นเทา มือเล็กยกขึ้นขยับแว่วหนาคล้ายกับทำอะไรไม่ถูก
หล่อนเดินมาหยุดที่หน้าห้องหมายเลขที่ตัวเองจดจำได้ขึ้นใจ
นิ้วเรียวชะงักค้างอยู่ตรงกริ่งข้างประตู
หล่อนกลัว...
ใช่...
หล่อนหวาดกลัวแววตาผิดหวังของอองเดรที่จะทอดมองมายังตัวเอง
เพราะหน้าตาของหล่อนไม่ได้น่ามอง ไม่ได้สวย ไม่ได้เซ็กซี่พอที่จะอยู่ในสายตาของเขา ดังนั้นการทำงานให้ดี ทำงานให้ยอดเยี่ยมจึงเป็นทางเดียวที่จะทำให้อองเดรปรายตามามองหล่อนบ้าง แม้จะเพียงแค่นาทีเดียวก็ตาม
แต่นี่หล่อนกำลังทำงานพลาด ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากหายนะในชีวิตของหล่อนเลย
หล่อนจะทำยังไงดี...?
ชมพูแพรถามตัวเองนับร้อยครั้ง พยายามคิดหาทางออก พยายามหาทางแก้ปัญหา แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สมองจะตีบตันไปเสียแล้ว
มือเล็กยกขึ้นลูบหน้าแดงซ่านซึ่งเกิดจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปหลายครั้ง และก็ตัดสินใจจะกดกริ่งเรียกคนในห้อง แต่แล้วประตูห้องก็เปิดกว้างออกมาเสียก่อน
หล่อนช็อก ตกใจ เมื่อเห็นอองเดรในชุดเสื้อคลุมผ้าขนหนูสีขาวยืนอยู่หลังบานประตู
“ท่าน... ประธาน...”
“เข้ามา”
น้ำเสียงของอองเดรไม่มีร่องรอยใจดีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
เขาคงกำลังโกรธหล่อนมาก ที่หล่อนไม่อาจจะนำพาผู้หญิงที่เขาเลือกมาทำหน้าที่อุ้มบุญให้กับเขาได้อย่างที่ต้องการ
หล่อนตัวสั่นเทา ก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปข้างในห้องกว้าง ประตูห้องปิดเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องล็อกด้วยตัวของมันเองด้วย
มือของหล่อนจิกขอบกระโปรงทรงเอที่สวมใส่อยู่ด้วยความหวาดวิตก
“ท่าน... ประธาน... คือว่า...”
หล่อนยังพูดไม่ทันจบ อองเดรที่ตอนนี้เดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนขอบเตียง และมองจ้องมาที่ร่างสั่นเทาของหล่อนเอ่ยแทรกขึ้นเสียก่อน
“ไม่น่าเชื่อว่าผมจะต้องมาเสียเวลาเพราะเรื่องนี้เกือบชั่วโมง”
“แพร... ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไมคุณแววดาวถึงได้ไม่มาตามนัด”
“นั่นสิ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเลขาฯ ฝีมือยอดเยี่ยมอย่างคุณทำไมมาตกม้าตายเอากับไอ้แค่เรื่องแบบนี้?”
คำพูดของอองเดรราบเรียบ แต่หล่อนรู้ดีว่าเขากำลังหงุดหงิดมาก
“แพร... นัดหมายกับคุณแววดาวอย่างดีแล้วนะคะ คุณแววดาวก็รับปากว่าจะมาถึงที่นี่ก่อนครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่แพรก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณแววดาวถึงเบี้ยวนัด”
“นี่เป็นครั้งแรกนะที่คุณทำให้ผมผิดหวัง”
“แพร... ขอโทษค่ะแพร... จะหาคนใหม่ แพรจะลองโทรหาคนอื่น...”
“ไม่มีใครมารับสายคุณตอนสามทุ่มสี่ทุ่มแบบนี้หรอก”
“...”
หล่อนพูดไม่ออก น้ำตาเกือบร่วง เพราะไม่เคยถูกอองเดรใช้วาจาดุดันแบบนี้ด้วยมาก่อน
“แต่ผม... ก็ไม่อยากเสียเวลาแบบนี้ในคืนต่อไปอีก”
“แพร... จะลองโทรหาคุณแววดาวอีกครั้งนะคะ”
“คุณโทรไปกี่สายแล้วชมพูแพร” เขาเค้นเสียงถามไม่พอใจ
“เอ่อ... น่าจะเกือบห้าสิบครั้งแล้วค่ะ”
“นั่นไง ถ้าเขาอยากรับสายคุณ เขาก็รับไปแล้ว แต่นี่เขาไม่รับสาย ต่อให้คุณโทรแทบตาย โทรจนนิ้วล็อคเขาก็ไม่รับสายหรอก”
“งั้นแพร...”
น้ำตาของหล่อนร่วงอาบแก้ม แต่ก็รีบยกหลังมือขึ้นป้ายทิ้ง
“งั้นเลื่อนออกไปก่อนนะคะ ส่วนคืนนี้แพรจะโทรหาคนอื่นให้มาดูแลท่านประธาน”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่เคยเสียเวลาไปฟรีๆ และผมก็ไม่ต้องการนั่งรอใครอีกแล้ว”
“แพร...”
หล่อนพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ พยายามเข้มแข็ง และก็พยายามที่จะหาทางออกให้ได้โดยเร็วที่สุด
“ผมผิดหวังในตัวคุณมากนะ ชมพูแพร”
หลังจากนิ่งเงียบไปนาน ชมพูแพรก็ป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะตัดสินใจพูดขึ้น
“ท่านประธานบอกว่า... ต้องการผู้หญิงฉลาด การศึกษาอย่างต่ำต้องระดับปริญญาโทใช่ไหมคะ”
หล่อนช้อนตาสบประสานกับดวงตาคมกริบสีสนิมของนายจ้าง
“ใช่ แล้วก็ห้ามซิงด้วย”
หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง พยายามที่จะเข้มแข็ง และพูดมันออกไป
“แพร... ฉลาดไหมคะท่านประธาน”
“คุณฉลาด ทำงานเก่ง เป็นผู้หญิงที่น่ายกย่องคนหนึ่งเลยล่ะ”
“แล้วแพรก็จบปริญญาโทด้วย”
“ใช่”
อองเดรผงกศีรษะตอบรับคำพูดของเลขาเฉิ่มแต่ทำงานเก่งมากอย่างชมพูแพร
“คุณพูดแบบนี้ หมายความว่ายังไงหรือชมพูแพร มีอะไรหรือเปล่า”
ชมพูแพรดึงแว่นหนาออกจากใบหน้าของตัวเอง จากนั้นก็ก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าของคนที่นั่งอยู่บนขอบเตียง ระยะห่างระหว่างกันประมาณหนึ่งเมตรเท่านั้น
คิ้วเข้มหนาดกของอองเดรขมวดพันกัน ดวงตาคมกริบมองหล่อนอย่างเคลือบแคลง
“แล้วแพรก็ไม่ใช่ผู้หญิงพรหมจรรย์”
หล่อนโกหกออกไปได้อย่างแนบเนียนจนตัวเองยังตกใจ
“คุณพูดบ้าอะไรชมพูแพร”
“ท่านประธานคะ... แพรยินดีจะรับหน้าที่อุ้มบุญให้กับท่านประธานค่ะ”
หล่อนคาดเอาไว้ไม่ผิด ใบหน้าของอองเดรมีความตกใจเข้ามาครอบงำมากมาย
“นี่คุณจะบ้าหรือไง”
“แพร... ก็มีคุณสมบัติตรงตามที่ท่านประธานต้องการทุกอย่าง”
“มันก็ใช่...”
“ดังนั้นในเมื่อแพรทำหน้าที่พลาด แพรก็พร้อมที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยตัวของแพรเองค่ะ”
อองเดรส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย และนั่นก็ยิ่งทำให้ชมพูแพรอับอายเหลือเกิน แต่กระนั้นหล่อนก็ยังคงพยายาม
“แพรจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้ค่ะ แพรจะอุ้มท้องลูกของท่านประธานให้ดีที่สุด และเมื่อแพรคลอด แพรก็จะไม่เข้าไปวุ่นวายกับเด็ก... และท่านประธาน”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณจะไม่เข้ามาวุ่นวายกับเด็กหรือว่าผม ในเมื่อเราทำงานด้วยกัน”
หล่อนแทบจะกลั้นเสียงสะอื้นไห้เอาไว้ไม่อยู่ แต่ก็ต้องพยายามสุดความสามารถ
“แพรจะลาออกทันทีค่ะ หลังจากที่แพรคลอดลูกให้กับท่านประธาน”
อองเดรยังคงนั่งนิ่ง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“ผมว่าคุณเมานะ ชมพูแพร”
“แพรไม่ได้เมาค่ะ”
“แต่คุณดื่มเหล้ามา ผมได้กลิ่นเหล้าจากตัวของคุณ”
ชมพูแพรฝืนยิ้มออกมา ทั้งๆ ที่หัวใจเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
“แพรรู้ค่ะว่าแพร... ไม่ใช่สเป็คของท่านประธาน แพรไม่สวย แพรไม่เซ็กซี่ และแพรก็เฉิ่มจนไม่มีผู้ชายคนไหนต้องการ...” หล่อนร้องไห้ออกมาจนได้ และก็พล่ามต่อไปทั้งน้ำตา
“แต่แพร... แพรสามารถทำหน้าที่ผู้หญิงอุ้มบุญให้กับท่านประธานได้นะคะ และแพรมั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ดีกว่าผู้หญิงทุกคนด้วย”
หล่อนก้าวเข้ามาหาอองเดรใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
“ได้โปรด... ให้โอกาสแพรนะคะท่านประธาน... แพร... สัญญาว่าจะทำหน้าที่อุ้มบุญให้ดีที่สุด...”
“แต่เราจะมองหน้ากันไม่ติดนะ อย่าลืมสิว่าเราต้องทำงานด้วยกัน ชมพูแพร”