ตอนที่ 5

1522 คำ
ตอนที่ 5 “เฮ้ย!” บุษกรอุทานเสียงดังลั่น พลางกระโดดหนีพร้อมกับพุ่งตัวไปที่ประตูซึ่งยังเปิดอ้าอยู่ หากเส้นทางเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง เธอเหยียบลงไปบนขวดแก้วเต็ม ๆ หญิงสาวถึงกับผงะไปทางด้านหลัง “ว้าย!” ปึก! สองร่างล้มกองบนพื้น โดยมีร่างเล็กอยู่เบื้องล่าง แต่บุษกรก็ไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิดว่าจะเป็น เพราะมีแขนใหญ่สอดรัดไว้ระหว่างเอวและอีกมือก็รองรับศีรษะทุยเอาไว้ แต่มีปัญหาว่าหมวกแก๊ปที่สวมใส่ปิดศีรษะอยู่ได้หลุดลอยไป ปล่อยให้ผมสลวยที่ขมวดไว้เป็นมวยหลุดออกกระจายอย่างน่ามอง แม้กระทั่งคนเมาก็ยังต้องอึ้งตาค้างกับใบหน้าเปื้อนคราบดำ ๆ “เธอ...” พีรายุยกมือขึ้นปัดปอยผมที่ปกปิดวงหน้ารูปไข่ออกอย่างแผ่วเบา เขาสะดุดกับดวงตาแวววาวประกายที่ฉายแววหวาดหวั่นและหวาดกลัว แต่ขณะเดียวกันก็แฝงความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวไม่ยอมแพ้สิ่งใดเอาไว้อย่างเหลือล้น ปลายนิ้วยาวลากไล้บนใบหน้าสกปรกอย่างแผ่วเบา บุษกรอ้าปากกว้าง กระไอร้อนจากร่างหนาโอบล้อมกายอย่างรวดเร็ว ไหนจะสองกายที่แนบชิด ทำให้ปั่นป่วน...รู้สึกแปลก ๆ ร้อนวูบวาบไปตามผิวเนื้อ ขณะที่หัวใจก็เต้นรัวเร็วราวกับจะทะลุออกมาจากอก “ถอยไปนะไอ้บ้า” บุษกรรีบดันร่างหนาออกห่าง หากของเสียที่ชายหนุ่มกินไปสะสมไว้ส่งกลิ่นเหม็นจนเธอถึงกับเวียนศีรษะ “ปล่อยฉันนะไอ้ขี้เมา อื้อ...” ยิ่งผลักยิ่งดันแต่ดูเหมือนเธอจะถูกอีตาขี้เมากอดแนบชิดมากกว่าเดิม แม้จะบอกกับใจว่าอย่าไปนึกถึงยายผู้หญิงใจร้ายจอมหลอกลวงคนนั้น แต่มีหรือที่คนเราจะตัดใจจากคนที่เคยรักได้ง่าย ๆ ภาพดวงตากลมโต ปากนิดจมูกหน่อยซ้อนซับบนใบหน้ารูปไข่ เขาจับรั้งแก้มนุ่มให้อยู่ตรง ๆ และจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตด้วยรอยยิ้ม “เธอกลับมาหาฉันแล้วใช่ไหมสุดา กลับมาเพื่อบอกกับฉัน...ที่พูดเมื่อเที่ยงเป็นแค่เรื่องลองใจฉันใช่ไหม” ปลายนิ้วยาวลูบไล้ผิวเนื้อนวลเนียน ก่อนใบหน้าคมโน้มลงไปอย่างช้า ๆ บุษกรได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ เกิดมาเธอเพิ่งจะใกล้ชิดกับผู้ชายอย่างใกล้ชิดก็คราวนี้ ทำให้ประหม่าตั้งตัวรับไม่ทัน กายอ่อนระทวยโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจร้อนปนเหม็นไม่เพียงแค่ทำให้วิงเวียนศีรษะเพียงอย่างเดียว หากทำให้เธอมีอารมณ์แปลกประหลาดอย่างที่บอกไม่ถูก ไม่! ปล่อยให้อารมณ์แปลก ๆ ชวนให้ใจวาบหวิวนี่เข้ามาขัดขวางการทำงานไม่ได้ “เฮ้ย! ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ปล่อยสิโว้ย” หญิงสาวยกมือผลักดันกายแกร่งให้ถอยห่าง ขาเรียวค่อย ๆ งอเข่าขึ้นเล็กน้อยและกระแทกไปที่ขาแข็งแกร่งเต็มแรงที่มี ถึงแม้จะไม่ถูกเป้าหมายสำคัญที่จะทำให้ชายหนุ่มเจ็บตัวและถอยห่างไปได้ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้อีตาขี้เมาเป๋ไปได้เหมือนกัน “ทำไมวันนี้เธอพูดไม่เพราะเลยละสุดา” พีรายุถามเสียงนุ่ม เขาโน้มใบหน้าแย้มยิ้มไปหาริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูที่หมายตาเอาไว้ ด้วยอยากบอกความรู้สึกของตัวเองให้กับรวิสุดาได้รู้...เธอสำคัญกับเขาเพียงใด ถึงได้ให้เกียรติให้เธอรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุดไว้ในวันสำคัญของชีวิต “เฮ้ย! ฉันไม่ใช่สุดาของนายนะไอ้ขี้เมาบ้า ปล่อยฉันนะไอ้ตัวเหม็น” แต่เรี่ยวแรงของเธอน้อยนิดเกินจะต่อกรกับชายขี้เมาได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ผลักกายใหญ่ให้ถอยห่างไปไม่ได้ “ไม่นะสุดา ผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น คุณต้องอยู่กับผม...ผมรักคุณนะสุดา” ชายหนุ่มขี้เมาพยายามกอดร่างนุ่มนิ่มแนบชิด “ฟังกันบ้างสิโว้ย ฉันไม่ใช่สุดาบ้าบอของนายนะไอ้ขี้เมา!” บุษกรแผดเสียงดังลั่นที่ยังไงก็ไม่เข้าหูชายขี้เมา “โว้ย! ไอ้บ้า บอกดี ๆ แล้วไม่ฟังใช่ไหม อย่างนี้มันต้องเจอนี่หน่อย” บุษกรปล่อยหมัดออกไปถูกเบ้าตาชายหนุ่มที่ก้มลงมาพอดี หญิงสาวไม่ยอมปล่อยโอกาสที่มี เธอผลักร่างที่ซวนเซออกไปอย่างสุดความสามารถ กว่าที่จะดันร่างหนาออกจากตัวได้ บุษกรถึงกับเหงื่อตก เธอรีบลุกขึ้นไปยืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง หายใจหอบเร็วขณะมองหาถุงใส่ของ “บ้าจริง!” หญิงสาวสบถเมื่อถุงใส่สัมภาระส่วนหนึ่งอยู่ใต้ร่างหนา ซึ่งตอนนี้นอนหงายแผ่หลาไม่ไหวติง ‘ทำไงดีละทีนี้ ตาบ้าขี้เมานี่ก็ตัวหนักด้วยซิ’ บุษกรงัดแงะและดึงเอากระเป๋าสัมภาระส่วนที่ติดอยู่ใต้ร่างหนา แต่พยายามสักเท่าไหร่ ถุงใส่ของก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกมาเลย “โว้ย! ไอ้ขี้เมาบ้า แกนี่มันตัวมารของฉันจริง ๆ ” หญิงสาวพยายามคิดว่าจะทำยังไงถึงจะได้ถุงสัมภาระโดยชายขี้เมาไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจับเธอส่งตำรวจ ‘เอาวะ ลองดูละกัน ถ้าเกิดพลาดยังไงก็รีบโกยหนีอ้าว น่าจะทัน’ เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำใช้วิธีการใด บุษกรก็ไม่รอช้า สองเท้าแนบกับกายใหญ่ โดยให้ถุงใส่ของอยู่ตรงกลางที่สองมือจับเอาไว้แน่น แล้วใช้แรงจากขาดันร่างใหญ่ให้เคลื่อนไป พลางดึงกระเป๋าสัมภาระออกมาช้า ๆ เพื่อไม่ให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมา เพราะถ้าถูกจับได้...เธอต้องเข้าไปกินข้าวแดงในคุกแน่นอน ‘อย่าตื่นมาก่อนนะไอ้ขี้เมา...อย่าตื่นนะ’ “เยส! ในที่สุดก็สำเร็จ” มือเล็กกำหมัดกระทุ้งศอกเข้าหาตัว เมื่อได้ของที่ต้องการอย่างดีใจเป็นที่สุด หญิงสาวรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่... หมับ!! “เฮ้ย!” บุษกรร้องเสียงหลง เมื่อมือของคนที่เธอเข้าใจว่าหลับไปแล้วคว้าแขนและดึงเข้าหาตัว โดยที่เธอขัดขืนไม่ได้ด้วย “ปล่อยฉันนะไอ้บ้า” หญิงสาวผลักดันกายแกร่งให้ถอยห่าง แต่กลับถูกไอ้ขี้เมากอดรัดเอาไว้ ซ้ำยังส่งมือมากดรั้งท้ายทอยให้ศีรษะทุยโน้มลงไป จนริมฝีปากอวบอิ่มแนบไปกับปากอุ่นระอุ “อื้อ...” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มือกำเสื้อตัวใหญ่ไว้แน่น ริมฝีปากที่เผยอ้าจะร้องห้ามกลับเปิดโอกาสให้เรียวลิ้นสากสอดแทรกเข้าไปกวาดไล้แตะแต้มไปตามกระพุ้งแก้มและซอกหลืบไรฟัน ก่อนจะเกาะเกี่ยวกับปลายลิ้นเล็กที่พยายามจะดันสิ่งแปลกปลอมที่รุกล้ำออกไป แต่กลับกลายเป็นการยั่วยุให้ไอ้ขี้เมากดจุมพิตลงไปอย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น “อื้อ...” บุษกรเบี่ยงส่ายศีรษะหนี มือก็ทุบตีสลับผลักดันกายแกร่งให้ถอยห่างไป แต่เหมือนกับเธอเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง นอกจากจะไม่ขยับเคลื่อนแล้ว มือใหญ่ที่กอดรัดอยู่ยังลูบไล้ไปตามแผ่นหลังบอบบาง เสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้ชายหนุ่มได้สัมผัสกับผิวเนื้อนวลนุ่มเลย “สุดา...สุดาจ๋า...หวานที่สุดเลยที่รัก” แม้จะแปลกใจกับรสจุมพิตของรวิสุดาแตกต่างไปจากเดิม กลีบปากเธอหอมหวานและนุ่มละมุนชวนให้เขาอยากสัมผัสแนบชิดนานๆ และไม่หยุด เหมือนกับตกอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน เพราะความหอมละมุนนุ่มที่ได้รับ ชายหนุ่มพลิกกายให้ร่างบอบบางอยู่เบื้องล่าง พลางจับมือเล็กที่พยายามผลักดันและทำร้ายร่างกายไปตรึงไว้เหนือศีรษะ นิ้วยาวเกี่ยวกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ออกจากรังดุมและเข้าไปครอบครองเนินเนื้ออวบอิ่มและนุ่มหยุ่นขนาดกะทัดรัดที่เหมาะมืออย่างรวดเร็ว “อืม...” ชายหนุ่มครางเสียงแผ่ว ไม่แค่จูบที่มีรสหวานนุ่มราวกับฟองเบียร์ ผิวเนื้อเธอก็เนียนนุ่มน่าสัมผัสไปเสียหมด “สุดาจ๋า” เขาบดคลึงขบเม้มกลีบปากนุ่มสลับเรียวลิ้นซอกซอนเข้าไปควานหาความหวานนุ่ม ขณะมือก็ฟอนเฟ้นทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างหนักหน่วง น้ำเมาที่ดื่มเข้าไปกระตุ้นให้กายร้อนผ่าวราวกับถูกไฟเผา “อื้อ...ไม่นะ!” นอกจากจะกลัวจนตัวสั่น บุษกรยังรู้สึกวาบหวามเพราะจุมพิตที่บดคลึงซอกซอนจนเธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก เป็นเหมือนคนที่ตกลงสู่พื้นน้ำเย็นฉ่ำสลับร้อนผ่าวในคราวเดียวกัน กายเริ่มอ่อนระทวย หายใจหอบแรงเร็วจนสองบัวตูมไหวกระเพื่อมเป็นจังหวะจมหายไปในอุ้งมือร้อนผ่าวที่เฝ้าฟอนเฟ้นอย่างกับเขาเป็นเจ้าของมัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม