กลับบ้านก็เที่ยงกว่า ก่อนกลับได้พาสาวเจ้าแวะทานข้าวก่อนกลับ แล้วก็มาส่งเธอไว้ที่บ้านโดยสั่งให้ป้าอิ่มกับน้อยดูแลเฝ้าเธอให้ดี ส่วนตัวเองนั้นจะเข้าไปเคลียร์เอกสารที่ออฟฟิศสักหน่อย ป่านนี้คงกองเต็มโต๊ะแล้ว พอเข้ามาในออฟฟิศก็จริงอย่างที่คิด งานการเต็มโต๊ะไปหมด
“นายหัวครับวันนี้เราจะไปส่งปาล์ม นายจะไปตรวจดูก่อนไหมครับ”
สมหวังเดินเข้ามาถามนายหนุ่ม เพราะก่อนปาล์มจะออกจากไร่อติคมต้องตรวจทุกครั้ง
“ไปสิวะ” แล้วก็ทิ้งงานตรงหน้าลุกขึ้นเดินนำสมหวังไปยังรถบรรทุกปาล์มที่จอดเรียงรายอยู่ปากทางออกไล่ เดินจากออฟฟิศมายังปากทางใช้เวลาไม่นานก็มาถึง
“นี่แฟ้มครับนายหัว” ชิดเดินเอาแฟ้มรายงานการส่งที่ตนจะไปส่งในวันนี้มาให้นายหัวดู
“อืม! กูขอเดินตรวจเช็กก่อนนะว่าเรียบร้อยดีไหม แล้วใครขับรถคันไหนบ้าง ขึ้นประจำที่ให้ดูหน่อยสิ”
มาดนิ่งขรึมดุจน้ำแข็งของอติคมเป็นมุมที่คนงานทุกคนเห็นจนชินตา เพียงแค่เสียงทรงอำนาจสั่งคนรถทุกคนรีบวิ่งขึ้นประจำที่นั่งคนขับของรถบรรทุกสิบกว่าคันทันที
“ครั้งนี้มึงก็ไปเหรอไอ้เติม” เมื่อเห็นเต็มนั่งประจำคนขับ
“ครับนายหัว ครั้งนี้ผมจะไปเอง พอดีไอ้ไกรมันป่วยผมเลยไปแทนมัน” เติมตอบอย่างกลัวๆ
“แล้วเอ็งล่ะไอ้ชิด ครั้งนี้ไม่ไปเหรอ หรือมึงจะอยู่ประจำช่วยไอ้หวังคุมงานในสวน” เมื่อเห็นชิดยังคงอยู่ข้างล่างไม่ได้ขึ้นรถคันประจำตนที่เคยขับไปส่ง แต่มีคนอื่นขับแทนในครั้งนี้
“ไม่ครับนายหัว ผมจะช่วยไอ้หวังมันคุมคนงานที่เข้ามาแทงปาล์มชุดใหม่ครับ ผมต้องช่วยสอนงานด้วย”
“ดี งั้นไอ้หวังมึงกับชิดก็ไปสอนงานเด็กใหม่เถอะ ด้านนี้กูจัดการเอง แล้วก็ครั้งนี้หวังว่าจะไม่ตรวจเจอฉี่สีม่วงนะ มึงได้เล่นมารึเปล่าไอ้เติม” เดินไปถามเติมเจ้าเก่าเจ้าประจำ เพราะครั้งก่อนก็ตรวจเจอฉี่สีม่วงจึงถูกจับระหว่างทางจนเขาต้องเดือดร้อน
“ไม่ครับนายหัว ผมเลิกยาแล้ว ผมไม่อยากทำให้นายหัวเดือดร้อน” เติมตอบเสียงหนักแน่น หากไม่ได้นายหัวมันคงไม่ได้ออกมาแบบนี้ นายให้งานให้ที่ซุกหัวนอน มันจึงรู้คุณ
“อืม! งั้นพวกเอ็งไปกันเถอะ ถึงแล้วโทรบอกด้วยละ”
หมดคำเสียงเข้มเสียงรถก็ถูกติดเครื่องพร้อมกัน แล้วก็ค่อยๆ วิ่งเรียงแถวเป็นขบวนออกจากไล่ของอติคม เมื่อรถทุกคันออกไปหมดแล้วจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ขึ้นมาดู อยากจะใช้ก็ยังใช้ไม่เป็น จึงเอาซัมซุงฮีโร่ของตัวเองมาต่อสายหาเขมรัฐบ้าง เขาเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองมีพี่ชายและมีพ่อแม่เหมือนกัน แล้วไม่นานปลายสายก็กดรับ
“ไงสบายดีไหมไอ้พี่ชาย” ทักทายปลายสายอย่างสนิทสนม
“รับสายได้แล้วคิดว่าสบายดีหรือป่วยล่ะ” เขมรัฐตอบกวนกลับมา
“ก็ยังไม่ตายสินะถึงกวนตี_แบบนี้ไอ้เข้ม” เป็นปกติที่เขากับพี่ชายจะพูดคุยกันด้วยคำพูดแบบนี้
“ไม่สบายเท่านายหัวสวนปาล์มหรอก ได้ยินข่าวว่ามีเมียแล้วเหรอ นายคิดยังไงคมถึงอยากมีเมีย”
มีข่าวอะไรที่เกี่ยวกับน้องชายที่เขมรัฐจะพลาดไปได้ แถมเรื่องนี้แม่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ก็ทราบแล้วด้วย เพราะท่านทั้งสองให้ป้าอิ่มกับน้อยเป็นสายสืบ ลุ้นว่าใครกันที่ลูกชาย คนเล็กจะพาเข้ามาอยู่ในบ้าน แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ลูกชายคิดอยากลงจากคานทอง
“ไม่คิดไงหรอก แค่คิดว่าควรมีได้แล้ว อีกอย่างจะ 40 แล้วนะเข้ม นายเองก็ควรจะมีพี่สะใภ้ให้ฉันได้แล้ว อ้อ ที่โทรมาอยากบอกว่าซื้อโทรศัพท์ใหม่แล้วนะ แต่ยังใช้ไม่เป็นเลย...”
“หา! ว่าไงนะ นายยอมทิ้งซัมซุงฮีโร่แล้วเหรอคม” คนเป็นพี่ถามแทรกประโยคกลับมาอย่างไม่อยากเชื่อ มันเกิดอะไรขึ้น น้องชายหัวโบราณยอมเปลี่ยนโทรศัพท์
“ใครจะทิ้งลง มันอยู่กับฉันนานนะเข้ม แถมเครื่องใหม่ยังใช้ไม่เป็น ฉันจะบอกนายว่าฉันกำลังจะมีไลน์ มีเฟซบุ๊คด้วยนะ พอดีน้องสะใภ้นายเล่นฉันอยากเล่นบ้าง ฉันต้องปรับตัวหาเมียเด็กน่ะ” บอกอย่างอายๆ พี่ชาย
“ฮ่าๆ นายไปอยู่ไหนมา เขามีกันตั้งนานแล้วไลน์เฟซบุ๊ค มันเล่นในคอมก็ได้ถ้ามีอินเทอร์เน็ต ฉันเองก็มีแถมโทรศัพท์ฉันก็มี นายมันล้าสมัยเกินไปแล้วคม อย่าทำตัวเป็นคนยุคหินสิน้องชาย” สั่งสอนน้องผ่านปลายสาย
“ไม่สนใจหรอกใครจะว่ายังไง ฉันสนแต่ดุ๊กดิ๊กเท่านั้น”
“เออ! แต่คนเราควรทันโลกทันยุคบ้างนะคม ไม่ใช่อยู่แต่กับไร่กับสวนจนไม่รู้โลกสมัยใหม่ คิดจะมีเมียเด็กต้องรู้ทันนะไอ้น้อง” เขมรัฐเอ่ย
“นายก็รู้นิสัยฉันนะเข้ม ไม่มีอะไรฉลาดเกินฉันหรอก” เมื่อคิดถึงเรื่องที่ตนทำ คนอย่างเมยานีนั้นเหรอจะทันกลลวงของเขากัน คิดแล้วก็ขำ
“ได้เขารึยังถึงพูดแบบนี้” ถามอย่างอยากรู้
“ยังเลยว่ะ เธอเป็นประจำเดือน แล้วลูกหมีเป็นยังไงบ้าง นายดูแลหลานสาวสุดที่รักของฉันดีรึเปล่า” ที่โทรหาเพราะอยากถามความเป็นอยู่ของหลานสาวนอกไส้ด้วย แม้ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันแต่อติคมก็เอ็นดูหญิงสาวเหมือนหลานในไส้
“ก็ดี อย่าถามถึงเลยหลานสาวนายสบายดี มีแต่ฉันที่ไม่สบาย พูดถึงก็เดินมาเลย แค่นี้ก่อนนะไอ้น้อง อ้อ! ลืมบอกคุณแม่กับคุณพ่อจะขึ้นมาเชียงราย นายก็ควรมาด้วยนะคมพาน้องสะใภ้มาด้วยสิ แต่ก่อนมากรุณาปั๊มหลานให้ฉันด้วยนะเว้ย!...”
“เข้ม...ตู๊ด….” แล้วสายก็ตัดไป
“วางไปแล้วไอ้พี่บ้า ยังถามเรื่องลูกหมีไม่รู้ความเลย ไม่รู้จะอยู่ได้ไหมที่เชียงราย” บ่นพึมพำกับจอโทรศัพท์ แล้วเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินกลับออฟฟิศไปเคลียร์งานที่ค้างไว้