สมหวังทำหน้าที่เฝ้าหน้าห้องได้ดีมากจนไม่รู้ว่าตอนนี้นายหัวของตนนั้นมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องแล้ว ก็คนที่เฝ้าหน้าห้องนั้นพิงประตูห้องหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่าตอนนี้เขากลับมาแล้ว แถมตอนนี้ก็หกโมงเช้าแล้วด้วย
พลั่ก!....
เท้าใหญ่ยกขึ้นถีบร่างลูกน้องคนสนิทให้ล้มลงกับพื้นทันทีด้วยความหงุดหงิด สั่งให้มานั่งเฝ้าไม่ใช่ให้มาหลับเฝ้าแบบนี้
“โอ้ย! ใครวะ!” พอตื่นก็รีบลุกขึ้นแล้วร้องหาคนทำกับตน
“กูเองมึงจะเอาอีกตีนไหมไอ้หวัง”
“ใครจะกล้าครับนายหัว ว่าแต่เพิ่งกลับเหรอครับ”
“มึงเห็นไหมล่ะ ถ้าเห็นก็นั่นแหละ ไสหัวไปรำคาญ ทีหน้าทีหลังก็เฝ้าดีๆ อย่านอนเฝ้า กูไม่ชอบคนอู้งาน” พูดจบก็ล้วงเอากุญแจห้องในกระเป๋ากางเกงมาเปิดเข้าไปในห้อง อย่างไม่สนใจสมหวัง
ฝ่ายสมหวังได้แต่ยกมือเกาหัวตัวเองมองแผ่นหลังนายด้วยความมึนงง และก็เพิ่งสังเกตว่านายไม่มีหนวดเคราตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็ไม่กล้าถามจึงเดินจากไปจากตรงนี้ ก่อนที่จะโดนเท้าอีกข้างประเคนให้
“นายไปไหนมา”
บานประตูห้องเปิดออกเธอก็ถามคนที่โผล่หน้าเข้ามาทันที ทั้งหงุดหงิด ทั้งโกรธที่เขาขังตนไว้ในห้อง แถมที่แย่ไปกว่านั้นประจำเดือนของหล่อนมามากจนเปื้อนกางเกงแถมที่นอนของเขาอีก
“โธ่! เมียจ๋า...อย่าขึ้นเสียงสิจ๊ะ มันไม่น่ารักเลยนะ” เดินเข้ามาหาคนตัวเล็กพร้อมกับอ้าแขนจะกอดคนที่นั่งอยู่บนเตียง
“มันเรื่องของฉัน ตอนนี้ฉันต้องการชุดเปลี่ยนและผ้าอนามัยด้วย ขอแบบกลางคืนขนาด 29 ซม. ยี่ห้อ....” เบี่ยงตัวหลบอ้อมแขนของคนตัวโต พร้อมบอกความต้องการของตัวเอง
“ฮืม! ชุดเข้าใจ แต่ผ้าอนามัยมันคืออะไร พี่คมไม่เข้าใจ แล้วนั้นเลือด ดุ๊กดิ๊กเป็นอะไรทำไมเลือดเต็มผ้าปูที่นอนไปหมด” ยังไม่ทันได้คลายความสงสัย ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคราบเลือดแห้งกรังที่เปรอะเปื้อนผ้าปูเตียงของตน
“ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงยังคิดจะมีเมีย นายมันแก่แต่อายุจริงๆ ” อดว่าให้คนแก่กว่าไม่ได้ ตอนนี้เลือดลมของเธอมาแรง ไหลแรงมากด้วย ถ้าลุกตอนนี้รู้เลยว่าตรงที่นั่งต้องเปื้อนเลือดอีกเป็นแน่
“เฮ้! ดุ๊กดิ๊กด่าว่าอะไรได้หมด ยกเว้นเรื่องแก่ แก่แล้วมันผิดตรงไหน ไม่เคยได้ยินรึไงยิ่งแก่ยิ่งมีประสบการณ์ อยากลองสักบทเรียนไหมหนู” รวบร่างเล็กเข้าไปกอดแนบแน่นอย่างสั่งสอน แล้วก็ต้องตกใจเมื่อยกร่างเล็กขึ้นจะให้มานั่งบนตักตน เห็นกางเกงยีนขาสั้นของหล่อนสีแดงแสนน่ากลัว
“เป็นอะไรดุ๊กดิ๊ก ทำไม....”
“ก็เป็นเลือดไง วันนั้นของผู้หญิง ที่มันเป็นแบบนี้เพราะมันเป็นวันที่สองเลยมาเยอะ และไม่มีผ้าอนามัยมาเปลี่ยนมันเลยล้นแผ่นที่ใส่แล้วเปื้อนเต็มเตียงอย่างที่เห็น” ตอบอย่างไม่สนใจ แล้วผละออกจากอกแน่น แล้วลุกขึ้นยืนข้างเตียง
“ไปหาหมอไหม พี่กลัวดุ๊กดิ๊กเป็นอะไรไป ออกเยอะขนาดนี้พี่เป็นห่วง ยิ่งตัวเล็กตัวน้อยอยู่ด้วย” ถามน้ำเสียงห่วงใย
“แค่นี้สบายมากมันเรื่องปกติ อีกอย่างฉันชินแล้ว ตอนนี้ต้องการชุดเปลี่ยนและผ้าอนามัยแบบกลางคืนขนาด 29 ซม.ยี่ห้อ...เท่านั้นนายพอจะหาให้ได้ไหม”
“เรียกพี่คมเหมือนตอนอยู่ในห้องน้ำไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเรียกนงเรียกนายด้วย เราคนกันเองนะเมียจ๋า...” ดึงมือเล็กมากุมไว้ แล้วบีบนวดเบาๆ แม้ว่าเจ้าของมือจะขืนมือไว้ก็ตามเถอะ
“ก็ได้ จ่ายมาก่อนหนึ่งแสนแล้วจะเรียกพี่คมคะพี่คมขา...อยากได้น้ำเสียงระดับไหนก็จ่ายเงินมา ฉันจะทำตาม” ชอบใช้เงินดีนักจะเรียกให้หมดตัวเลย
“ได้สิ กี่บาทก็ยอม งั้นรอแป๊บนะ” ปล่อยมือเล็กทิ้งแล้วเดินไปโต๊ะทำงานแล้วเดินกลับมาพร้อมเช็คหนึ่งแสนบาทยื่นให้เธอ
“เรียกพี่คมได้รึยังครับ”
เมยานีดึงเช็คมาดูแล้วก็คลี่ยิ้มกว้าง
“พอใจแล้วค่ะพี่คม ตอนนี้พี่คมไปจัดการเรื่องชุดกับผ้าอนามัยให้มีนก่อนนะคะ ตอนนี้เหม็นคาวเลือดตัวเองจะแย่แล้ว” ได้ตามนั้น ก็ในเมื่อเขาจ่ายให้หล่อนก็ต้องทำเมื่อรับเช็คมาแล้ว
“ได้สิครับทูนหัวของพี่ เดี๋ยวพี่มานะ” เมื่อมั่นใจแล้วว่ายังไงคนตัวเล็กไม่เป็นอะไรแน่แล้ว จึงรับคำแล้วเดินออกไปจากห้องนอน
เมยานีได้แต่ยิ้มแล้วเอาเช็คเงินสดขึ้นมาดู ก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเอง เมื่อเห็นค่าความรักเป็นเงินตรา ได้หล่อนก็พร้อมจะตักตวงผลประโยชน์จากเขา ในเมื่อเขาชี้ทางมาแต่แรกเอง แต่อย่าหวังจะได้ครอบครอง
ตอนนี้เมยานีจำเป็นต้องออกมาข้างนอกกับบุรุษหนุ่มรูปงามไม่ใช่โจรป่าคนเดิม เมื่อเขาอยากได้ไอโฟนเหมือนตน จึงต้องพามาซื้อ ที่สำคัญอยากกลับไปเก็บเสื้อผ้าที่รีสอร์ทด้วย ส่วนเรื่องงานนั้นหล่อนได้โทรไปขอลางานเพิ่มกับเจ้านายแล้วก่อนจะออกมา โดยขอโทรศัพท์กับอติคมและเปิดลำโพงให้เขาได้ฟังด้วย แต่ทางเจ้านายไม่ยอมให้ลา หล่อนจึงตัดสินใจลาออกจากงาน เพราะรู้ว่ายังไงเสียอติคมก็ไม่ปล่อยตนกลับกรุงเทพฯ เป็นแน่แท้แล้ว
รถมีตั้งมากมายแต่เขากลับพาเธอขับมอเตอร์ไซค์วิบากคันเก่าสภาพดูไม่ได้คันเมื่อวานมา แต่ต่างกันตรงที่วันนี้หล่อนนั่งซ้อนท้ายเกาะไหล่เขามา อยากจะกอดเอวแต่ก็กระดากอาย จึงได้แต่เกาะไหล่กว้างไว้ ยิ่งใบหน้าอติคมไร้หนวดเครายิ่งทำให้หัวใจของเธอขยันเต้นผิดจังหวะ
“เอาเครื่องนี้ครับ” ยื่นโทรศัพท์เครื่องที่ตนดูให้เจ้าของร้าน เมื่อมันเป็นรุ่นเดียวกันสีเดียวกันกับของคนตัวเล็กที่ตนยึดเก็บไว้กับตัวเอง
“นายหัวคมตาถึงมากเลยครับ รุ่นนี้....ดีมากเลยนะครับ แล้วคุณ...” เจ้าของร้านเอ่ยพลางเหลือบสายตาไปทางผู้หญิงที่มากับนายหัวหนุ่ม ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าคนอย่างนายหัวอติคมไม่เคยไปไหนมาไหนกับผู้หญิงสองต่อสอง แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นใครทำไมชายหนุ่มถึงกุมมือไม่ยอมปล่อยเลย
“พูดมากน่ารำคาญ เท่าไหร่ว่ามาจะได้จ่ายแล้วไปทำธุระที่อื่นต่อ”
เอ่ยอย่างรำคาญเจ้าของร้าน ฝ่ายเมยานีก็ได้แต่คอยแอบมองใบหน้าหล่อที่ตอนนี้ตีนิ่งขรึม ราวกับคนละคนที่พบเห็น เขาดูสงบนิ่งเยือกเย็นเข้าถึงยากกว่าคนที่อยู่ที่บ้านและชายหาด
“สามหมื่น....ครับนายหัวคม” เจ้าของร้านบอกราคาอย่างรวดเร็ว ถ้าขืนช้ามีหวังได้หลุดลูกค้ากระเป๋าหนักไปแน่
“โห! สามหมื่น....ใช้แล้วมันเหาะได้ไหม มันก็โทรเข้าโทรออกได้ไม่ต่างกับซัมซุงฮีโร่ฉันหรอก ก็แค่มีเพิ่มเฟซบงเฟซบุ๊คกับไลน์เท่านั้นเอง” โวยทันทีเมื่อรู้ราคาของโทรศัพท์เครื่องใหม่
“พี่คมถ้าแพงก็ไม่ต้องซื้อค่ะ ไปกันเถอะ มีนต้องไปเก็บของที่รีสอร์ทค่ะ” กระตุกมือให้ชายหนุ่มก้มลงมองหน้าตน ก็ในเมื่อเขาตัวสูงกว่าเธอตั้งเยอะ
“อะ...เออ...” เจ้าของร้านไปแต่อ้ำอึ้งเมื่อเห็นนายหัวหนุ่มโวย
“ก็ได้จ้ะ เอาเครื่องนี้แหละ พี่จะได้เหมือนดุ๊กดิ๊ก จะได้ส่งหัวใจให้ทุกวันเลยไงจ๊ะ” ก้มลงกระซิบหวานข้างหูคนตัวเล็ก ก่อนจะผละออกมาแล้วตีใบหน้าเคร่งขรึม บอกให้พนักงานรีบจัดการให้เสร็จ พร้อมยื่นบัตรเครดิตของตนให้เจ้าของร้านนำไปรูด
“ขอบคุณครับนายหัวคม” พนักงานยกมือไหว้ขอบคุณด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
“เออ! ถ้าไม่ใช่เพราะเมียฉันใช้โทรศัพท์แพงฉันก็ไม่เปลี่ยนตามหรอกนะ”
เมื่อได้โทรศัพท์เครื่องใหม่แล้ว อติคมก็เอาโทรศัพท์ของเมยานีคืนให้เจ้าของไป ส่วนซัมซุงฮีโร่ก็ยังเก็บไว้ใช้งาน จะทิ้งก็ทิ้งไม่ลง ก็อยู่ด้วยกันติดต่องานก็เครื่องราคาหกเจ็ดร้อย มันยังใช้ได้แถมอยู่ด้วยกันมาหลายปี เสร็จจากร้านโทรศัพท์ก็พาเจ้าหล่อนไปซื้อของใช้ส่วนตัว วันนี้ทั้งวันนายหัวหนุ่มเปย์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า แล้วก็พาคนตัวเล็กไปเอาข้าวของที่รีสอร์ทพร้อมเช็กเอ้าท์จ่ายค่าที่พักให้ แถมที่พักก็เป็นของเชษฐาอีกจึงไม่ยุ่งยากกับการเคลียร์ค่าใช้จ่าย