Episode 15
วันต่อมา
Talk ตาหวาน
“อื้อ~” เราลุกขึ้นบิดขี้เกียจพร้อมเดินไปเปิดม่าน แสงแดดยามเช้าสอดส่องเข้ามายังภายในห้อง มันสวยมากเลยล่ะค่ะ นอกจากห้องนี้จะสวยและแพงแล้ว บรรยากาศวิวด้านนอกก็สวยมากด้วย
เป็นคนรวยนี่...เสกได้ทุกอย่างจริงๆ
“หิวจัง”
“หิวก็รีบไปอาบน้ำสิ”
“ว๊ายแม่มึง!” ร่างบางสบถหยาบออกมาเป็นภาษาไทยเมื่อได้ยินเสียงของร่างสูงดังขึ้นภายในห้อง เขานั่งเท่คูลๆ อยู่ตรงเก้าอี้ในห้องนอนแต่เรากลับมองไม่เห็นเลย
ไอ้บ้าเอ๊ย!
โก๊ะจริงๆ เลยเรา
“พูดบ้าอะไรของเธอ?” เขาเลิกคิ้วถามพร้อมส่ายหัวเบาๆ “ยัยบ๊องเอ๊ย!”
“คุณเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย! ปัดโธ่...ตกใจหมดเลย”
“ที่นี่เป็นบ้านของฉัน ทำไมฉันจะเข้ามาไม่ได้”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่หนูตกใจหมด ไอ้บ้าเอ๊ย! คุณช่วยทำตัวปกติกับหนูสักวันจะได้ไหมคะเนี่ย!” มือบางยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมเบะปากใส่ร่างสูง “ตกใจหมด!”
“ขวัญอ่อนเสียจริงนะแม่คุณ”
“ก็คนมันตกใจนี่คะ!”
“เอาเถอะ...ฉันให้คนเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว รีบไปอาบน้ำไป”
“หนูหวังว่า...คุณจะไม่เตรียมชุดแปลกๆ ให้หนูอีกนะคะ” เขาไหวไหล่ก่อนที่จะหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน
อย่างผัวเลยล่ะค่ะ
เราเหลือบสายตาไปมองเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายต่างๆ เข้าห้องน้ำไปด้วย ขืนออกมาเพียงแค่ผ้าขนหนูไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเราหรือเปล่า
แม้ว่าร่างกายเรามันจะไม่ได้น่ามองจนอยากจะทำน่ะนะ ก็...แม่ให้พี่ตะวันเป็นหมดแล้วนี่นา!
ปัดโธ่เอ๊ย!
ซ่า...
เสียงน้ำจากฝักบัวไหลผ่านร่างกายของร่างบางไป พอคิดถึงเหตุการณ์ในชีวิตที่ผ่านมา ชีวิตของเราก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่คิดเลยว่าการช่วยชีวิตคนคนนึงจะทำให้ชีวิตของเราพลิกผันได้ขนาดนี้ แต่ถ้าหากถามว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะยังช่วยเขาอยู่ไหม
ก็ยังยืนยันว่าจะช่วยเขาอยู่เหมือนเดิมค่ะ
เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเราก็เดินหน้าบึ้งออกจากห้องน้ำไปหาเขา ร่างสูงที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์เงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่จะหลุดหัวเราะออกมา
“หึหึ” เขาหัวเราะในลำคอก่อนที่จะเก็บหนังสือพิมพ์วางกลับที่เดิม “เธอนี่มัน...หาเรื่องให้ฉันหัวเราะได้ตลอดเลยจริงๆ นะ หึหึ”
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย! ก็คุณนั่นแหละ...ใครใช้ให้ซื้อชุดแบบนี้มากันเล่าคะ! โป๊มากที่สุดเลยอะ แถวยังโชว์หลังอีก โอ๊ย~ หนูไม่ได้มีดีที่จะกล้าโชว์ขนาดนั้นนะคะ!”
“ฉันลืมคิดไปน่ะ...นี่ขนาดกระเอาจากสายตา เลือกไซส์ที่น่าจะเข้ากับเธอได้มากที่สุดแล้วนะ ยังหลวมเลย โดยเฉพาะหน้าอกน่ะ...หลวมมากๆ ด้วย”
“โอ๊ย! ไซส์สาวอิตาลีกับสาวไทยมันก็ต้องแตกต่่งกันอยู่แล้วแหละค่ะ! คราวหลังไม่ต้องตัดสินใจเองจะได้ไหมคะ ทำแบบนี้หนูก็อายเป็นเหมือนกันนะ” ร่่างบางทำแก้มป่องด้วยความไม่พอใจ
ก็ดูชุดสิ! กรี๊ด...ทำไมชีวิตเราต้องมาเจอแบบนี้ด้วย ถ้าเป็นเวกัสก็คงจะหาชุดที่ดีกว่านี้ให้เราแน่ๆ
ไม่ยอมอ่า! แง่ง~
“โห...คือมัน มันเยอะมากเลยนะคะ!” ร่างบางเบิกตากว้างทันทีที่เห็นอาหารบนโต๊ะ
“อืม...มันยังเยอะไม่พองั้นเหรอ?” เขากล่่าว
“เปล่าค่ะแต่...แค่กกะเพราหมูสับอย่างเดียวหนูก็อิ่มแล้ว แถมยังเป็นอาหารไทยทั้งหมดเลย ราคามัน...น่าจะแรงอยู่นะคะ สำหรับอาหารไทยในอิตาลีน่ะ”
“มันก็ไม่แพงขนาดนั้นหรอก เทียบกับสิ่งที่ฉันมีมันก็แค่เศษเสี้ยวของเศษเสี้ยวอีกทีน่ะ ไม่คณามือฉันหรอก เชิญตามสบาย ถ้าไม่อิ่มฉันจะให้คนทำให้เพิ่ม”
“แต่มันเยอะมากจริงๆ นะคะ...หนูเกรงใจจัง พอเทียบกับอาหารที่หนูให้คุณทานแล้ว ห่าเอ๊ย...มาม่าสำเร็จรูป 555” มือบางปาดเหงื่อเบาๆ ด้วยความขายขี้หน้า เป็นใคร ใครก็ต้องอายแหละเจอแบบนี้
“หุบปากแล้วก็ทานข้าวไปเถอะน่ะยัยบ๊อง! ถ้าเธอลีลาฉันจะไปซื้อเสื้อผ้าให้เธอด้วยตัวเองนะ แล้วถ้ามันไม่ถูกใจก็อย่ามาโวยวายทีหลังล่ะ”
“ค่ะๆ หนู...หนูจะรีบทานเดี๋ยวนี้แหละค่ะ!” เมื่อได้ยินคำขู่ของเขา เราก็รีบซัดอาหารเข้าปากทันที อย่างน้อยก็ยอมยัดเยียดอาหารพวกนี้เข้าท้อง
ดีกว่าต้องไปใส่ชุดบ้าๆ พวกนั้น แค่คิดภาพก็รับไม่ได้แล้ว กรี๊ด!
มันแย่มากจริงๆ ค่ะ!
“ฮึก...แค่กๆ”
“เอ้านี่น้ำ คอยๆ กินสิ!” ร่างสูงเอ็ดเราเล็กน้อยก่อนที่จะยื่นแก้วน้ำมาให้ ร่างบางยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกระดกน้ำเข้าปากรวดเดียวหมด
“อึก...อ อร่อยมากเลยล่ะค่ะ”
“เธอนี่แม่ง...บ๊องฉิบหายเลย!” เขาส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่จะเบี่ยงเบนสายตาไปทางอื่น
เมื่อเทียบกันแล้ว อาหารไทยทำยากและขั้นตอนก็อาจจะเยอะกว่าอาหารฝรั่งอีกนะคะ สเต๊กหรืออะไรพวกนี้อาจจะทำง่ายกว่ากะเพรา แกงจืด ส้มตำเสียอีก
ขนาดอยู่ที่ไทยยังจานละสี่สิบห้าสิบเลยแล้วนี่...เป็นอาหารไทยในแดนอิตาลี ราคามันจะขนาดไหนกันนะ!
ไม่อยากจะคิดเลย! มื้อเดียวคงจะหลายพันแน่ๆ
กรี๊ด...มาเป็นภาระเขาชัดๆ!
“นั่งคิดอะไรอยู่? หน้าซีดเชียว” ร่างสูงที่นั่งข้างๆ เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเราเงียบไป พอหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จเขาก็พาเราออกมาซื้อเสื้อผ้าทันที “มีอะไรหรือเปล่า?”
“ป...เปล่าค่ะ” ร่างบางหลบตาเขาพร้อมมองออกไปนอกรถ “ไม่มีอะไรค่ะ”
“เธอคิดว่าฉันดูไม่ออกหรือยังไง? เป็นอะไร...กังวลเรื่องวาเรนติโนั้นเหรอ?”
“เอ่อ...คือว่า” หนูกังวัลว่าคุณจะสรรหาอะไรแปลกๆ มาให้หนูอีกต่างหากเรา ไอ้บ้าเอ๊ย! แค่ชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้มันก็มากเกินพอที่สาวยี่สิบอย่างหนูจะรับไหวแล้ว แง่ง “ก็...ประมาณนั้นน่ะค่ะ”
ไม่เลย....วาเราติโน่ไม่ได้อยู่ในหัวของกูเลย! มึงนั่นแหละคนเดียวเลยอีคุณซานติโน่ เลโก้แล้วก็อะไรต่อก็ไม่รู้!!!
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่ะ อยู่กับฉัน...มันไม่มีทางทำร้ายเธอได้อย่างแน่นอน ทำใจให้สบาย แล้วมีความสุขไปกับการช็อปปิ้งเถอะ” เขาตอบพร้อมยื่นบัตรเครดิตสิบใบมาให้เรา “นี่สำหรับเธอ”
“โห...สายเปย์ฉิบหาย เกิดมาไม่เคยใช้ตังหรือยังไงเนี่ย!” มือบางยกขึ้นนาบอกด้วยความตะลึง มันจะมีผู้ชายสักกี่คนที่ยื่นบัตรเครดิตให้เราเยอะขนาดนี้ แถมในทุกๆ ใบ ก็ยังไม่จำกัดวงเงินอีกด้วย
“พล่ามอะไรของเธอ?” เขาเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัยเพราะว่าประโยคเมื่อกี้เราพูดออกมาเป็นภาษาไทย ซึ่งเขาก็คงจะฟังไม่รู้เรื่องอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ “พูดอังกฤษสิฉันจะได้รู้ด้วย”
“เอ่อ...หนูบอกว่าคุณเก็บไว้เถอะค่ะ ถ้าให้หนูเก็บไว้เองมีหวังหายหมดแน่นอนค่ะ” เงินอะค่ะหายหมดแน่นอนค่ะ ฉิบหายหมดแน่ๆ
“งั้นเหรอ? แต่มันก็จริง...ยัยบ๊องแบบเธอยิ่งไม่มีสติอยู่ด้วย เอาเป็นว่าฉันจะเก็บเอาไว้ให้ก็แล้วกัน และถ้าเธออยากจะได้อะไรก็ค่อยมาเอาไป” เขาตอบพร้อมเก็บบัตรเครดิตพวกนั้นเข้าไว้ในสูทของเขา
“แหมะ...รู้สึกว่าตัวเองต้อยต่ำจัง 555” ร่างบางปาดเหงื่อเล็กน้อยก่อนที่จะเหลือบสายตามองไปทางอื่นเพื่อหนีหน้าเขาแทน
เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ดูเป็นการเหยียบให้กูต้อยต่ำมาก ห่าแม่ง...!
“มันต้อยต่ำตรงไหน ขนาดนั่งเรายังนั่งข้างกันเลย ไอ้คำว่าต้อยต่ำที่ว่านั่นค่อยเอาไว้ใช้เวลาที่ฉันอยู่บนตัวเธอก็แล้วกันนะ”
แปร๊ดดดด~ (หน้าแดง)
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” ร่างบางเขยิบตัวหนีพร้อมมองออกไปนอกตัวรถตลอดทาง ไม่หันไปมองร่างสูงอีกเลย ห่าเอ๊ย! กลับบ้านตัวเองแล้วห้าวขึ้นจริงๆ
“หึหึหึ”