ตอนที่ 1
1
ไม่! ข้าไม่ยอม
ข้ายังตายไม่ได้ ข้ายังไม่ได้ล้างมลทินให้กับตัวเองเลยนะ ข้าจะตายแบบนี้ไม่ได้!
สี่หนิงเหอพยายามรวบรวมพละกำลังอันน้อยนิดที่มีเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวดที่ตีขึ้นเป็นระลอกจากการได้รับพิษที่ไร้สีไร้กลิ่นและไร้รส ทว่าความเจ็บปวดช่างมีมากเหลือเกิน...มากเสียจนแม้กระทั่งจะหายใจ ก็ยังไร้เรี่ยวแรง
ชีวิตเขา มันช่างเป็นอะไรที่...แย่ยิ่งนัก เป็นอะไรที่บัดซบที่สุด!
เกิดมาบิดาไม่รัก เขาพอเข้าใจและยอมรับได้ เพราะมารดาเขาเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้ในบ้านที่ท่านเผลอไปมีสัมพันธ์ด้วยหลังจากดื่มน้ำจัณฑ์จนเมามายเท่านั้น
นอกจากมารดาแล้ว ในบ้านไม่มีผู้ใดชอบเขาสักคน ในกลุ่มพี่น้องล้วนแล้วแต่หาเรื่องกลั่นแกล้งเขาไม่เว้นแต่ละวัน ในหมู่บ่าวรับใช้ก็เป็นพวกคอยตามหลังนาย ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายก็จะมองเมิน ทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตน แต่เขาก็รับได้ เพราะเขามีมารดาที่รักเขาอย่างสุดหัวใจ แต่มารดาก็ด่วนจากเขาไปเร็วนัก ปล่อยให้เขาถูกคนในบ้านรังแกจนเกือบจะไม่รอดชีวิต
หากแค่นี้ชีวิตเขาก็ยังบัดซบไม่พอ ถูกบิดาบังคับให้ต้องแต่งงานมาเป็นอนุของผู้ชายที่ได้ชื่อโหดเหี้ยมและเย็นชายิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็งที่ไม่เคยรับรู้การมีตัวตนของอนุคนนี้แล้ว นี่ยังต้องมาตายอย่างอเนจอนาถอนาถา โดดเดี่ยวเดียวดาย เพราะแม้กระทั่งข้ารับใช้ข้างกายก็หามีไม่ ที่สำคัญเขายังไม่ได้ลบล้างข้อกล่าวหาเรื่องที่ไปทำร้ายท่านชายน้อยเลย มันเป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้!
ถึงจะไม่ยอมรับ แต่เขาจะทำอะไรได้ล่ะ...? ในเมื่อตอนนี้แม้แต่แรงที่จะหายใจก็ยังไม่เหลือ พิษที่เขาได้รับมันเหมือนกับมีหนอนอยู่ในร่างกาย คอยกัดแทะชอนไชไปทั่วทุกหนแห่ง
ขา...เริ่มจะเจ็บจนชา ไร้ความรู้สึก
มือ...ไร้เรี่ยวแรง
เสียงเหมือนเลือดเนื้อในร่างกายมันหลุดออกไปทีละชิ้นดังก้องอยู่ในหู
ความเจ็บปวดกัดกินจนลมหายใจเริ่มขาดเป็นห้วง ๆ
“ท่านแม่...ข้ากำลังจะไปหาท่านแล้วนะ” สี่หนิงเหอพยายามที่จะยิ้มและคิดในเรื่องที่มีความสุข...ความสุขสิ่งเดียวที่เขาได้รับ นั่นคือการได้อยู่กับท่านแม่ผู้ใจดี
ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มกับน้ำเสียงอันอ่อนโยนและอ่อนหวานที่มันทำให้ความเจ็บปวดในกายเขาลดลง
ข้าเสียดายเป็นยิ่งนัก...ถ้ามีโอกาสสักครั้ง แม้เพียงแค่น้อยนิดก็ตาม ข้าอยากทำทุกอย่างที่ผ่านมาให้ดีกว่านี้ อยากจะใช้ชีวิตอย่างมีอิสรเสรี ท่องไปในโลกกว้างเพื่อจะลิ้มลองอาหารรสเลิศ
ขอโอกาสให้ข้าได้ไหม...แม้หลับฝันก่อนจะจากไปก็ได้
“แล้วเจ้ามีสิ่งใดมาแลกเปลี่ยนล่ะ”
“นั่นใคร...ใครพูดกับข้า”
“เจ้าขอโอกาส ข้ามีให้ แต่เจ้ามีสิ่งใดมาแลกเปลี่ยน ของที่เจ้าคิดว่าสำคัญและรักมาก”
ฮึ! สี่หนิงเหอถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมา...อย่างเขาเนี่ยนะ จะมีของมีค่าเช่นที่ถูกกล่าวถึง
“ท่านคิดว่าคนที่มีชีวิตบัดซบเช่นข้า จะมีของมีค่ามีสิ่งสำคัญ ที่รักมากมายไปแลกเปลี่ยนได้เหรอ ถ้าท่านจะมีหูรับฟัง มีตาเห็นได้ ท่านก็คงรู้และคงเห็น...ข้าเป็นลูกชังของบิดา เป็นที่น่ารังเกียจของเหล่าพี่น้อง ความสามารถก็มิปรากฏให้เห็น รูปร่างข้าก็ผอมแห้งเหมือนกับคนอมโรค แม้กระทั่งใบหน้า บ่าวรับใช้ก็ยังดีกว่า ความรัก...ข้าก็มิเคยพบพาน”
ถูกส่งให้มาเป็นอนุภรรยาก็มิได้เข้าพิธี มาถึงจวนก็ถูกส่งให้มาอยู่ยังบ้านทรุดโทรมท้ายจวน ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีไม่เคยมาพบหน้า ข้าวปลาอาหารที่ได้รับก็เย็นชืด รสชาติ...อาหารสำหรับบ่าวไพร่คงจะดีกว่ามาก
เสียงในหัวของสี่หนิงเหอดังขึ้นอีกครั้ง
“นั่นสินะ เจ้าช่างเป็นคนที่...น่าสงสารยิ่งนัก”
“ถ้ามันจะเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิตคนบัดซบเช่นข้า...ก็คงจะมีเพียงแค่ความรักของมารดาเท่านั้น และข้ามิอาจจะแลกเปลี่ยนกับท่านได้”
“เจ้าแน่ใจแล้วเหรอ ถ้าแลกเปลี่ยน เจ้าจะได้ย้อนเวลากลับไปทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการนะ”
“ไม่ล่ะ แม้ปรารถนากลับไปแก้ไขสักเพียงใด ข้าก็ไม่อาจนำเอาความรักของมารดาที่มีให้ไปทำการแลกเปลี่ยนกับท่านได้หรอก ดูท่า...ท่านคงเลือกทำการค้าขายผิดคนแล้วล่ะ”
“แต่ข้าว่าไม่! สิ่งที่เจ้ามี ก็เหมาะสมสำหรับการทำการค้ากับข้ายิ่งนัก ข้าจะถือเอาความรักของมารดาเจ้าเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน”
“ไม่!”
“ไม่!”
เฮือก!
สี่หนิงเหอหายใจอย่างแรงและผวาลุกขึ้นจากเตียงนอนที่เก่าจนถ้าเผลอขยับแรงไปสักนิดไม้ที่ใช้ทำก็จะหักและทำให้คนที่นอนอยู่พลัดตกลงไปได้ การเคลื่อนไหวของเขาทำให้ใครอีกคนที่อยู่ร่วมห้องด้วยตื่นขึ้นมา
“คุณชาย!”
สี่หนิงเหอที่ยังคงมีอาการมึนงงเหลียวมองไปตามเสียงเรียก เขาเห็นชายร่างเล็กบางที่น่าจะเพิ่งพ้นวัยเด็กมาไม่นาน บนใบหน้าเรียวขะมุกขะมอม เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาแต่ก็ยังมองออกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ามีความห่วงใยในตัวเขามาเพียงใดพุ่งตรงมาหาอย่างเร็วไว
“คุณชาย ท่านเป็นอย่างไรบ้างขอรับ เจ็บตรงไหนบ้างขอรับ”
สี่หนิงเหอมองคนถามก่อนจะมองไปยังมือเล็กที่พยายามจะยื่นมาจับเขา หากก็มีอาการกึ่งกล้ากึ่งกลัว เขาขมวดคิ้วเข้าหากันขณะมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความงุนงง ในหัวเขาว่างเปล่า...ขาวโพลนไปหมด ก่อนความทรงจำภาพสุดท้ายจะย้อนกลับคืนมาพร้อมกับอาการปวดที่ใจอย่างรุนแรงจนน้ำตาหยดไหลออกมาอย่างที่มิอาจหักห้ามได้
“คะ...คุณชาย”
“ข้าไม่เป็นไร แค่...เจ็บ” เขาเอ่ยบอกกับบ่าวรับใช้หนุ่มน้อยที่น่าจะเป็นคนดูแลตอนที่เจ็บและไม่สบาย
ท่าน...ท่านฟื้นแล้ว บ่าว...บ่าวดีใจที่สุดเลยขอรับ” มือที่ไม่ใช่แค่เล็กหากมันเป็นเหมือนหนังหุ้มกระดูกยกขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า
“ข้าหลับไปกี่วัน...เจ้าไปเจอข้าหรืออย่างไร” เขาเอ่ยถามเสียงเบา
“คุณชายดื่มน้ำก่อนนะขอรับ”
เด็กหนุ่มตรงหน้าหลบหลีกสายตา แต่มันก็ทำให้เขาเข้าใจ เพราะที่เขาเจ็บกายหาใช่เพราะป่วยไข้ไม่ หากเป็นเพราะถูกใครบางคน...ในเรือนหลังนี้ทำร้ายเอา สี่หนิงเหอค่อย ๆ ยกมือที่ไร้เรี่ยวแรงจับศีรษะตัวเองที่ตอนนี้มีผ้าพันอยู่
“ข้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ก็แค่รู้ว่าถูกทำร้าย แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร “เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก เพียงแค่อยากรู้ว่า ข้าหลับใหลไปกี่วัน ระหว่างนี้เกิดเรื่องใดขึ้นบ้าง”
“คุณชาย!”
ในดวงตากลมใสแวววาวมองมาที่เขาด้วยความเสียใจอย่างที่สุดที่ไม่อาจช่วยเหลืออันใดเขาได้
สี่หนิงเหอได้แต่เหยียดยิ้ม ถึงเป็นบุตรของนายท่านเหวินหม่า หากก็เป็นเพียงแค่ลูกเมียบ่าวที่ถูกทุกคนในบ้านรังเกียจจนถูกขับไล่ให้มาอยู่ยังเรือนหลังเล็กที่ทรุดโทรม หากเจอลมฝนฟ้าแรงสักหน่อยก็คงจะพังทลายลง
“บอกข้ามาเถิดเสี่ยวฝานข้าไม่เป็นอันใดหรอก” เพราะความรู้สึกที่มีต่อคนที่อยู่ในเรือนหลังนี้...มันมีแต่ความเจ็บปวดจนชินชาไปหมดแล้ว
“โธ่! คุณชายของบ่าว” เสี่ยวฝานหลั่งน้ำตากับความอาภัพของผู้เป็นนาย มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า ขณะเอ่ยเล่าให้ผู้เป็นนายฟังน้ำเสียงแผ่วเบาและตะกุกตะกัก
“บ่าวไปพบคุณชายนอนสลบอยู่ที่สวนใต้ต้นกุ้ยฮวา[1] จึงพากลับมาที่ห้องแล้วไปตามท่านหมอมารักษา แต่...” ไม่มีใครสนใจเลยว่าคุณชายของเสี่ยวฝานจะอยู่หรือจากไป พวกเขาช่างใจดำเหลือเกิน
สี่หนิงเหอพยักหน้ารับ ขณะดวงตาก็เหม่อมองออกไปนอกเรือนที่อาศัยหลับนอน บาดเจ็บครานี้เขาลืมเลือนไปหลายเรื่อง หากเสียงหนึ่งที่คอยตอกย้ำอยู่ในศีรษะ
เขาจะเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองให้ดีขึ้น...
โชคชะตาอยู่ที่ตัวเรากำหนด หาใช่คนอื่นไม่ หากยอมแพ้ก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ชีวิตจะอยู่ยืนยาวนานแค่ไหน สู้และเปลี่ยนแปลง ก็จะรู้ด้วยตัวเอง!
“คุณชายนอนหลับไปสามวันเต็ม ๆ บ่าว...บ่าว...” เสี่ยวฝานพูดไม่ออก เขาไปตามท่านหมอให้มาดูคุณชาย แต่กลับถูกบ่าวรับใช้ของฮูหยินและคุณหนูขัดขวาง เขาทำได้เพียงแค่เช็ดเลือด หาผ้ามาพันไว้และคอยเช็ดตัวให้คุณชายที่นอนไม่ไหวติง มีเพียงแค่ลมหายใจแผ่วเบาเท่านั้นที่บอกว่ายังคงมีชีวิตอยู่
“เสี่ยวฝาน”
“ขอรับคุณชาย”
“ข้ายังต้องออกจากที่นี่ไปที่นั่นอยู่หรือไม่”
“ไป...ไปขอรับ”
[1] ต้นหอมหมื่นลี้