ตอนที่ 17
ทั้งมีข้อความเย้าแหย่แซวด้วยคำพูดเหมือนเขาจีบเกี้ยวหล่อนจากการแต่งแต้มใส่สีสันของพวกนักข่าว
นั่นถึงแม้ว่ามันจะจบลงด้วยดีก็ตามกับผลตอบแทนค่าตัวและค่าจ้างที่สูงลิ่วในงานอีเว้นต์หากแต่หล่อน ก็ถือว่า เป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาอย่างมาก เพราะเห็นว่แบบนั้น เขาค้าเอากำไรเกินสมควร เนื่องจากตรงนั้น และภาพเหล่านั้น ที่ปรากฏชัดผ่านกล้องของนักข่าว เมื่อเขาทำอาจหาญ เดินไปคว้าเอามือและตัวหล่อน มาควงด้วยและ แกล้งเบียดชิดใกล้ติดกับกายหล่อนอย่างจงใจที่สุดแบบนั้น เหมือนปาฎลิณนั้นแสนจะเปลืองตัวด้วย สำหรับเขา เพราะในชีวิตนี้ที่ผ่านมาก็ไม่เคย มีใครหรือแขกคนไหน ที่กล้าและอาจหาญเท่าเขา แตะต้องตัวหล่อนอย่างนี้ เขาช่างร้ายกาจนักที่กล้าเข้าไปประชิดและชิด
ติดใกล้หล่อนมากเพียงนี้ ปาฏลิณคิดว่าเขากล้าเกินไปแล้ว
หากแต่คราวนี้ฝ่ายศิรมาดานั้นต้องพลอย กระอักกระอ่วนใจไปด้วยก็เธอกลัวแผนการครั้งนี้จะล้มเหลว ล่มไม่เป็นท่า ท่าทีที่ปาฏลิณเดาออกเลยอดเดือดเนื้อร้อนใจไม่ได้ แต่ว่าศิรมาดาก็พยายาม ทำให้แนบเนียนที่สุด แล้วเธอก็หาช่องทางออกได้ พร้อมอมยิ้มออกมา เพราะ เห็นฬวิกชายหนุ่มหล่อเบื้องหน้าที่เขาไม่ทำให้หล่อนผิดหวัง เนื่องจากว่าเขาสามารถที่จะแทรกตัวเองเข้าไปพัวพันใกล้ชิดกับปาฎลิณนางเอกสาวสวยของหล่อนได้
ตอนนี้นั้นศิรมาดาได้รู้สึกว่าสาวใหญ่อย่างหล่อน เหมือนเป็นส่วนเกินของหนุ่มสาว ยิ่ง นั่น คือ ได้เห็นแววตา ที่หวานฉ่ำเยิ้มด้วยประกายคมอ่อนโยนที่ไม่ปิดบังความปรารถนาในดวงตาคู่สีสนิมเหล็กของหนุ่มหล่อใบหน้าคมคายนามว่า ฬวิก
ส่วนทางฝ่ายปาฎลิณนั้นหล่อนกำลังเบือนใบ หน้าเรียวรูปไข่ออกไปทางด้านอื่นที่ไม่ใช่เขาหล่อนกำลังรู้สึกอึดอัดอย่างมากกับสายตาคู่คมที่พุ่งจับจ้องผ่านเรือนร่างของหล่อนแบบนี้
“เอ้องั้น ป่านจ้ะเดี๋ยว พี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน แป้บนึงนะจ้ะป่าน นั่งคุยกันตามสบายเถอะจ้ะ ”
และศิรมาดารีบเอ่ยพร้อมตัดสินใจลุกขึ้นทันทีทำให้ปาฏลิณสะดุ้งเล็กน้อย กับการที่ศิรมาดาตัดสินใจลุกไป
หากเมื่อคราวนี้ ที่หล่อนเผชิญกับความเงียบและเผชิญหน้ากับเขา อยู่ตามลำพัง หลังจากไม่มีร่างของศิรมาดาที่นั่งใกล้ตรงนี้เป็นเพื่อน หากแต่ฬวิกเองก็ยังจ้องสายตาไปที่หล่อนแววตาคู่นั้นมองภาพของปาฏลิณที่หล่อนช่างเหมือนประติมากรรมชิ้นสำคัญ สลักเสลางดงามโดดเด่น จากฝีมือช่างปั้น ปรุงแต่งให้เลอเลิศวิจิตรเช่นนี้
“อ้าว นี่ จะไม่คุยกันบ้าง สักคำเลยหรือ คุณ ปาฏลิณครับ ”
เขาพยายามหวานออดอ้อน และฬวิชายหนุ่มหล่อก็ผ่อนลมหายใจช้าๆ เอ่ยพูดคำนี้ เพื่อแก้อาการเขินประหม่าในตัว คิดว่าตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก เข้าข้างตัวเอง คำนี้มันจึงถูกฉกฉวย นำมาใช้แบบเงียบโดยฝีมือเขา
ซึ่งหากแต่ตอนนี้ ปาฏลิณนั้นยังนิ่งเงียบ หล่อน เหมือนตุ๊กตาไขลานญี่ปุ่นที่ไร้ลมหายใจไปเสียแล้ว ดังนั้นฬวิกจึงฉุนกึกขึ้นมาให้เห็นบ้างเล็กน้อย
“นี่คุณครับ ได้โปรดเถอะนะปาฏลิณ กรุณาพูด ขึ้นบ้างเถอะครับ ” และเขาที่เป็นฝ่ายขอร้องหล่อน
“ตอบมาสักนิดสักคำก็ได้อย่าทำแบบเย็นชาหมางเมินอย่างนี้ เลยนะ ”
ใช่ล่ะ จะว่าไป ในขณะนี้ปาฏลิณก็เหมือนคนที่มีหัวใจนั้นเย็นชาไปแล้ว เพราะการกระทำของใครล่ะฮึ อีกอย่างแล้วใครเล่าจะกล้าปฏิเสธความหล่อเหลาฉกาจตรงหน้าเพราะจะว่าไปฬวิกเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมไปหมดทุกสิ่งอย่าง นอกจากความหล่อเหลาจัดและแม้แต่ปาฏลิณเองก็ยังยอมรับแต่หล่อนก็ไม่รู้ได้ว่าเขาซุกซ่อนด้วยมีจุดประสงค์ใด โดยตรงกับหล่อน
เมื่อหล่อนไม่ยอมเอ่ย เขาก็สรรหาคำพูด
“เอ้อ งั้นขอถามอีกหน่อยครับสำหรับผู้หญิงนี่ แล้วผู้หญิงทุกคนละครับเอ้อเธอชอบดอกกุหลาบเหมือนกัน หรือเปล่า เอ แต่ถ้ามีคนมายื่นให้กับมือเธอพร้อมที่จะยื่นรับดอกไม้ของเขาหรือเปล่าละครับ ”
เมื่อเขาถามคำนี้แก่หล่อน ฝ่ายปาฏลิณหล่อนก็แย้มริมฝีปากบางดุจกลีบกุหลาบไปทางเขาก่อนเอ่ย
“อ๋อฮึแบบนี้มันก็ไม่ทุกคนหรอกค่ะมันอยู่ที่การเลือกและใส่ใจถ้าหากเขาเป็นคนที่พิเศษอยู่ใกล้แล้วอบอุ่น ค่ะคุณฬวิก” หล่อนกำลังหมายความถึงความรักของหล่อนกับอนุราชให้เขารับฟัง
“อ้าวถ้างั้นขอเหตุผลด้วยครับ”
และชายหนุ่มหล่อใบหน้ากระจ่างใสของเขายังแต้มด้วยรอยยิ้มพราวที่ริมฝีปากพวงแก้มรู้สึกกระเตื้องขึ้นมาบ้างจากหล่อน
เมื่อคำถามของเขานั้นได้รับการแยแสสนใจจากหล่อนบ้าง และถือว่าหล่อนก็ตั้งใจฟังด้วย
“ไม่หรอกค่ะ ไม่มีเหตุผล นอกจากความพึงพอใจอย่างเดียว คือผู้หญิงบางประเภท เธอ อาจจะอยากรับไว้ก็ได้ แต่มีบางคนก็ไม่รับดอกไม้จากใคร หรือคนแปลกหน้า”
ดูเหมือนหล่อนจะตอบให้เขากระจ่างเพราะปาฏลิณ กำลัง แสดงให้รู้ว่า หล่อน นั้นมีเจ้าของที่ปรารถนาแล้ว
“อ้องั้นเรียกว่าภักดีต่อแฟนคนเดียวเท่านั้นใช่ไหมครับ”พร้อมด้วยฬวิกลากเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยออกมาแบบ แค่นยิ้มใส่หล่อน แล้วก็กลั้วหัวเราะลงไปในลำคอจนที่สุด เหมือนเห็นเรื่องนี้ไม่มีความหมาย
เพราะว่าคำถาของเขานั้นไม่มีคำตอบที่แน่ชัดจากหล่อน
หากแต่ในเวลานี้อาการสงสัยเกิดตงิดเพราะปาฏลิณก็แปลกใจไม่น้อยกับการที่มาปรากฏตัวของฬวิกชายหนุ่มหล่อเหลาหน้าตาสะอ้านบางครั้งเกินความรู้สึกเกินห้ามใจและอารมณ์รุนแรงเกินเลยไปจากการควบคุม ของจิตใจ นี่ปาฏลิณ หล่อนได้แอบ ชื่นชมเขาด้วยหรือก็ในบางครั้งไง เหตุเนื่อง เพราะช่วงจังหวะที่สัมพันธ์เกิดขึ้น จากการได้สัมผัสพูดคุย
และไม่ปฏิเสธหรอกว่าเขามีเสน่ห์ หาทางหาเรื่อง ที่จะสร้างความสนใจได้ไม่ยาก อีกทั้งยังโดดเด่นสง่างาม บุคลิกที่ดูดี ชวนมีเสน่ห์ อยู่ตลอดเวลา
หากแต่ว่าศิรมาดาล่ะหายไปนานแล้วนี่ปาฏลิณเกิดนึกปริวิตกไปตั้งนานยังไม่กลับมาเสียทีกลายเป็นว่า ปล่อยให้หล่อนและฬวิกพูดคุยกันจนเพลินเลย แต่ก็มีท่วงท่าที่บึ้งตึง เมื่อกาลเวลาผ่านไปยาวนาน จากห้านาทีผ่านเป็นสิบนาที ยี่สิบนาที ซึ่งครั้งนี้ กลับทำให้ ฬวิก นั้นพึงพอใจอย่างมากที่สุดที่นอกจากได้ใกล้ชิดยังจะได้นั่งจ้อง ใบหน้าหวานๆสวยๆของหล่อน อย่างเพลินใจเงียบๆ