ตอนที่ 16
และท่านพักอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัดเริ่มจะรับรู้ความจริงที่จมปลักอยู่ฬวิกต้องยอมรับความจริง แต่ว่าถ้าตราบใดที่ ทั้งสองยังไม่ประกาศหมั้นหมาย ถือว่าเขายังมีสิทธิ์อยู่ แม้อนุราชจะถือว่า เป็นเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งทำให้เขานั้นก็รู้สึกแปลบใจ ไม่น้อย กับเรื่องแบบนี้ เพราะมันหมายความว่าหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน
ฬวิกนั้นหยันริมฝีปากหยักขึ้นเล็กน้อยกับท่าทีครุ่นคิดที่คิดไม่ตกของเขา
**********************
ยิ่งเป็นคราวที่ปาฏลิณรู้สึกแปลกใจนักหนากับการจ้องมองสีหน้าของศิรมาดาผู้จัดการสาวที่เหมือนไม่สบอารมณ์หล่อนอย่างมาก เหมือนจะตั้งคำถามกับ หล่อน แต่ก็กลับเปลี่ยนเป็นอมยิ้มเหมือนเยาะ อยู่ที่มุมปาก
นั่นไงในช่วงพักหลังๆก็เห็นท่าทีแบบนี้ท่าทีที่ดู แปลกๆ ไปของผู้จัดการสาว ที่หล่อนรู้ว่า มันไม่เหมือนเดิมเลย ปาฏลิณจึงขมวดคิ้วแล้วก็จ้องดวงตาดุ ใส่ข่มกลับไปเช่นกันเพราะถึงแม้ว่าหล่อนนั้นจะเป็นลูกน้องของศิรมาดาก็ตามแต่ปาฏลิณนั้นไม่ได้เป็นทาสที่ต้องมาอาสา รับใช้ไป เสียทุกอย่าง ซึ่งเนื่องจากปฏิกิริยาแบบนั้นเองของปาฏลิณ ทำให้ศิรมาดาต้องลดกิริยาเขม็งตึงลงไปทันที แต่ตามด้วยน้ำเสียงหวานๆที่ฟังแล้วไม่ระรื่นหูสักนิด สำหรับปาฏลิณ เหมือนคนเจ้าเล่ห์ คิดคด ตีสองหน้า เพราะว่าหญิงสาวไม่ชอบคนที่ประเภทคนหน้าไหว้หลังหลอกกับคนอื่น นั่นเพราะสายตาที่คมกริบของนางแบบดาวโรจน์บอกว่าเธออ่านนั้นอ่านสีหน้าได้ออกและเต็มชัด
“เอ้อมีอะไรกับป่านนั้นก็รีบพูดออกมาตรงๆกันเลยค่ะ พี่แอ๊ว ป่านจะรับฟัง”
แต่ในยามนี้ การครุ่นคิดสำหรับศิรมาดาแม้คิดในใจก็พยายามจะเริ่มต้นยังไงดี ลองตะล่อมใส่ปาฏลิณหวังหาแผนการก็หล่อนแน่ใจว่าครั้งนี้จะทำเพื่อชายหนุ่มหล่อทายาทมหาเศรษฐีคนนี้ให้ได้เพราะหล่อนได้รับเป็นเช็คเงินสด นั่นคือ ของขวัญจากเขา
“เอ้อ ป่านจ้ะ ในช่วงเย็นๆนี้ป่านพอจะว่างมั๊ยล่ะ”
ปาฎลิณขมวดคิ้วเรียว พร้อมฉงนและแปลกใจเล็กน้อยก่อนตอบ
“ว่างค่ะพี่แอ๊วมีธุระอะไรจะไหว้วานให้ป่านช่วย หรือ คะ”
แล้วฝ่ายศิรมาดาก็เงียบไปครู่หนึ่งตามที่ปาฏลิณคาดเดาอย่างชาญฉลาด ก่อนเอ่ยเสียงใสตอบออกมา
“เอ้อนี่ คืออย่างนี้นะจ้ะ เพราะวันนี้พี่ อยากจะชวนป่าน ให้ไปทานข้าวเย็นด้วยกันกับพี่ ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิจ้ะแหม..พี่รู้สึกว่าทานคนเดียวมันเหงาไม่อร่อยเลยนะจ้ะ ป่าน” เป็นคำขอร้องและคือเหตุผลของศิรมาดาที่พอรับฟังได้
แต่ก็มีท่าทีเหมือนซ่อนพิรุธทำให้ปาฎลิณนางแบบดาวโรจน์ นั้นกำลังใช้สายตาและการพิจารณาดูเลยคิดว่า มันคง ไม่มีอะไรมากจึงพยักหน้า
“ค่ะงั้นก็ได้ ป่านตกลง”
และเมื่อศิรมาดาแอบอมยิ้ม เมื่อสาวใหญ่ผู้ทำตามแผนการคิดว่าสำเร็จ พร้อมเอ่ยเบาๆด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะระงับความปรีดาเอาไว้แทบไม่อยู่
“ขอบใจมากจ้ะ น้องป่าน แหม..ขอบใจมากจริงๆ ”
มันก็แค่เรื่องเท่านี้ไม่ใช่หรือเอปาฏลิณได้ฉุกคิดขึ้นมาเอหรือว่าศิรมาดานั้นกำลังจะมีบางสิ่งบางอย่าง แอบแฝงซุกซ่อนเอาไว้
นั่นเป็นแบบนั้นจริงเมื่อมาถึงสถานที่นัดพบ กลับพบเขาด้วยที่ยืนอยู่ตรงนั้นมันเป็นความบังเอิญหรือว่า จงใจกันแน่ล่ะเพราะปาฏลิณต้องเผชิญหน้ากับ เขา ผู้ชาย ที่เธอก็ไม่คาดคิดมาก่อนเพราะว่าฬวิกนั้นได้มาปรากฏกายที่นี่เช่นกัน เขามาก่อนหล่อนหรือหลัง
ปาฏลิณไม่ทราบหรอกแต่ก็ต้องยิ้มต้อนรับเขาในฐานะที่รู้จักกันมาแล้ว ในน้ำเสียงของเขานั้นดูสุภาพ และผายมือเชื้อเชิญให้เมื่อเขานั้นหันมาชำเลืองทางหล่อนแล้วยิ้มน้อยระบายผ่านริมฝีปาก
หากแต่ฬวิกที่ยังจับจ้องสายตาอย่างไม่วาง เป็นความรู้สึกที่มีต่อหล่อนและปาฎลิณก็ ไม่อาจทราบถึงความคิดที่ซุกซ่อนลึกอยู่ในใจของเขาได้ เช่นกัน อีกภาพหนึ่งคือแอบกระหยิ่มยิ้ม คิดว่าหล่อนเดินมาถูกทางแล้วประกายตาของศิรมาดาหญิงสาวใหญ่นั้นยังยิ้มด้วยแววมาดหมายจะทำได้สำเร็จ พร้อมแอบขยิบตาให้กับฬวิกหนุ่มหล่อเหลาโดยเป็นอันรู้กัน
“โอมันก็ไม่น่าจะเชื่อเลยนะครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงแค่ไม่กี่วัน ผ่านไปเท่านั้นเอง แต่ว่าผมกลับรู้สึก คิดถึงคุณปาฏลิณอย่างมากเหลือเกิน ซึ่งผมไม่รู้เป็น เพราะอะไร ได้แต่นึกภาวนาขอให้ได้เจอคุณอีกครั้งไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าผมจะโชคดีอย่างที่คิดมันช่างแสนบังเอิญจริงๆครับ” เขาเอ่ยกล่าวเหมือนทักหล่อน ซ่อนอารมณ์ต่างๆไว้เพราะเตรียมพร้อมมาแล้ว หากแต่ปาฎลิณนั้นยังกังขาและเคลือบแคลงในการกระทำขอองเขา มันเป็นไปได้หรือแต่เวลานี้หล่อนไม่ปฏิเสธหรอก ดังนั้นหล่อนจึงตอบเขากลับไป พร้อมด้วยแววตานั้นประชดใส่มันเหมือนกรีดคำพูดใส่เขา
“อ้อ แหม คุณรู้สึกอย่างนั้นหรือคะ คุณฬวิก เพราะฉันก็มีความรู้สึก เหมือนกัน ว่ามันช่างเป็นการบังเอิญที่ ดูเหมือนออกจะบังเอิญมากเกินไปหน่อยล่ะคะคุณฬวิก”
“ใช่ครับบังเอิญ” เขายืนยันด้วยน้ำเสียงอีกครั้ง แต่ใครจะรู้เล่าว่า มันเกิดจากเจตนาของเขา
ซึ่งหากแต่ฬวิกยังควบคุมอารมณ์ของเขาไว้ได้ พร้อมกันนั้นยังรักษาความเป็นสุภาพบุรุษที่ยังพูดด้วยวาจาและแววตาอ่อนโยน และเขานั้นยังมองจ้อง ไปที่ร่างระหงงามของปาฏลิณเห็นชัดที่ประกายตาดำขลับเจ้าเสน่ห์ของเจ้าหล่อน แต่กระนั้นสิ สิ่งที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของเขา มันไม่วายคิดอีก มันเป็นเพราะ เขานึกอยากจะ ครอบครอง เนื้อตัวร่างกายและหัวใจหล่อนเขาเชื่อมั่นว่าจะทำได้
โดยความเป็นจริงนั้นแล้วปาฏลิณก็ไม่รู้ด้วยว่า สำหรับฬวิกชายหนุ่มหล่อเหลาผู้นี้เขาได้นัดกับใครไว้หรือเปล่าถึงอย่างนั้นก็ตามตัวหล่อนจำเป็นต้องรักษาภาพพจน์ ไว้ให้ดีที่สุดอย่างที่เคยทำและวางตัว
เพราะคิดว่าก็อาจจะมีพวกนักข่าวหลงเหลืออยู่แถวนี้ และคอยจ้องจับเพื่อหาข่าวบันเทิง เป็นปาปารัสซี่ อยู่แถวๆนี้ คราวก่อนนั้นไง ที่หล่อนตกเป็นข่าว ลงในหนังสือพิมพ์ และคอลัมต์ซุบซิบ ที่มีเรื่องกระแนะกระแหนหยอกเย้าแหย่ หล่อนลงในหน้าหนึ่งร่วมกันกับเขา