ตอนที่ 15
แต่แล้วฬวิกก็กลับหัวเราะกลั้วในลำคอ แก้อาการมึนเขิน ไรเมศมีสีหน้า ที่ฉงนฉงาย
เหมือนฬวิก พี่ชายของเขาเหมือนคนที่ดำดิ่งอยู่กับอารมณ์เหงาและ เศร้าผิดหวัง จากนั้นฬวิก ใช้มือขาวแข็งแรงตบเบาที่บ่าของน้องชายก่อนเขาจะเดิน ออกไปจากห้อง
*************************
ในวันนี้นั้นคุณศิรมาดาได้มาถึงบริษัทเมื่อเวลาเก้าโมงเช้า และสาวใหญ่นั้นก็ส่งสายตาไปทักทายให้ กับปาฏลิณที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาดังนั้นหล่อนก็เพียง แค่ยิ้มรับเท่านั้นกับศิรมาดาเพราะว่าวันนี้อนุราชเขานั้นไม่ว่างพอที่จะมาส่งหล่อนถึงที่นี่เนื่องจากเขาติดธุระสำคัญด้วยเหตุผลที่จะต้องรีบออกไปเลือกซื้ออะไหล่รถยนต์แถววรจักร
“ป่านจ๋ารู้ไหมเมื่อคืนนี้ไงที่เจ้าของงานที่ว่าจ้างเรา อย่างคุณวิก เขานะเอ่ยชมถึงฝีมือของป่านแทบไม่หยุดเลยนะแล้วพร้อมด้วยนักข่าวสื่อมวลชนก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก แหม.. พี่ละ ปลื้มแทนป่านจริง”
และสาวสวยหน้าหวานอย่างปาฏลิณยิ้มตอบ จากนั้นไม่สนใจอย่างอื่น นอกจากหยิบหนังสือพิมพ์ ฉบับใหม่ในวันนี้ หน้าข่าวบันเทิงที่มีภาพสีชัดเจน
แล้วปรากฏด้วยภาพร่างระหงของที่หล่อนได้ยืนโชว์หราในท่วงท่าอิริยาบถต่างๆบนเวที เมื่อมือเรียวนั้นเปิดคลี่เพื่ออ่านแต่หล่อนก็มองผ่านไปคร่าวๆเท่านั้น ที่เห็นภาพของตัวเอง จากนั้นก็ยื่นส่งไปให้ผู้จัดการส่วนตัวตามเดิม
“อ้าวป่านแล้วนี่ไม่พลิกอ่านไปดูให้หมดหน้าล่ะจ้ะ พี่เองเห็นด้วยนะว่ารูปของป่านทุกรูปนะเด่นที่สุดเลยเวลานี้คนอื่นหรือใครก็ไม่มีใครสามารถเทียบป่านของพี่ได้” แต่ปาฎลิณก็เพียงแค่ยิ้มแห้งๆส่งไปให้ผู้จัดการสาวที่เหมือนเอ่ยปากคะยั้นคะยอแถมป้อยอและเอ่ยชื่นชมเธอมาก มาย เกินควรอย่างนี้ เรียกว่า จนดูเว่อ ไปเลย แต่ปาฎลิณ ก็ไม่ได้ทะนงในเรื่องนี้เลย อีกอย่างความชินชาและ เบื่อหน่ายมากกว่า กับคำ ชื่นชม ซึ่งไม่รู้ว่า แบบนั้นจริงใจหรือ ว่า เสแสร้ง มันช่างเดาออกยากนัก ในจิตใจของคน
เพราะแม้ว่าจะใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่ ในวงการบันเทิง มาร่วมจะสิบปีแล้วนั้น หล่อนก็ สามารถสัมผัสและรับรู้ ได้ พร้อมในสิ่งต่างๆ ทั้งอุปนิสัยใจคอ และหลายคนก็สวมใส่หน้ากากหัวโขนอำพรางเข้าหากัน แบบตลบตะแลงและหักเหลี่ยม ซึ่งจะว่าไปนั่นเป็นเพราะผลประโยชน์ และไม่เว้นแม้แต่ตัวศิรมาดา
“เอวันนี้ พี่ก็ไม่เห็นอนุขับรถมาส่ง เหมือนเคย ”
ผู้จัดการสาวใหญ่เห็นว่าภาพปกติที่เคยเห็นนั้นคือ คนรักหนุ่มของปาฏลิณจะมาส่งถึงออฟฟิศแห่งนี้ สาวร่างระหงคลี่ใบหน้าหวานหันมาตอบเบาๆ
“เขาไม่ว่างหรอกค่ะ เพราะมีธุระแต่เช้า คงเร่งด่วน แต่โทร.มาบอกป่านแล้วป่านเลยมาด้วยตัวเอง”
และปาฎลินก็ขยับปากตอบแล้วเงียบตามเดิม
เหมือนคล้าย หล่อนประหยัดน้ำเสียงดีที่สุด
หากตัวเขานั้น หนุ่มผู้หล่อเหลา กลับครุ่นคิดให้จิตว้าวุ่น เพราะมันกระแทกโถมโหมใส่จิตใจอย่างรุนแรง ถึงฤทธิ์รักที่บังเกิด เกินความห้ามใจ ทำไม เขาจะต้องเป็นแบบนี้ มันเกือบทนไม่ได้เลย เพราะว่า ฬวิกนั้นไปหลงรักผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้วใช่ว่าเขาไม่รู้ แต่มันมีสิ่งหนึ่งบงการ ความต้องการและปรารถนา ในเมื่อความจริงหล่อนยังไม่ถูกใครตีตราเป็นภรรยาเขาย่อมมีสิทธิ์คนหนึ่ง ความคิดสอนให้เขาเป็นแบบนี้ และซีกสมองอีกด้านหนึ่ง ก็คิดเห็นอย่างคนที่เห็นแก่ตัวว่า ถ้าเธอยังไม่แต่งงานเขานั้นยังมีสิทธิ์อยู่แน่นอน
แม้ว่าฬวิกเขานั้นได้เคยเห็นมาแล้ว แต่การที่จะแยกจากพรากคนทั้งคู่นั้นออกจากัน มันเป็นเรื่องที่ยากยิ่งเช่นกัน และเขา นึกด่าตัวเอง คิดแบบนี้ ไปได้อย่างไร
ใจชั่วนัก เฮอะเพ้อเจ้อ ต่างหากนายฬวิกเอ๋ยกลับมาเป็นตัวของตัวเองเดี่ยวนี้ผีบ้าซาตานที่ไหนสิงสู่นาย.. อย่าทำแบบนั้น
หากเมื่อชายหนุ่มร่างสูงเพรียวที่ทอดดวงตามองไป นอกหน้าต่าง บัดนี้เขานั้นรู้สึกเบื่อหน่าย และเกิดอาการเซ็งอย่างที่สุดเพราะการต่อสู้กันของความคิดระหว่าง ฝ่ายดีกับฝ่ายชั่ว มันกำลังโรมรันพันตูต่อสู้กันเอง อยู่ในใจ นี่หรือมนุษย์ แม้แต่เขาเพราะทุกส่วนสัดในผิวเนื้อและ ขุมขนผิวหนังร่างกายของเขาก็ตาม
มันช่างเต็มไปด้วยการพอกพูนหนาเตอะของกิเลส แรงริษยา จากจิตของปุถุชน ที่มี ทั้งรัก โลภโกรธ หลง ฝังอยู่ในตัว เพราะนั่น คือ เขาไม่สามารถหักห้ามใจตนเองได้ ฬวิกจึงได้ระบาย ถอนลมหายใจอีกครั้ง
ภาพของนางแบบสาวสวยนั้นก็ยังติดตรึงตาตรึงใจชองเขาอยู่ ไม่สร่างหายคล้ายกับว่ามีมนต์เสน่หาสะกดไว้ หากทว่าต่อมานั้น เขาสามารถรั้งดึงสติอารมณ์ และ ภาพของเธอไว้ในม่านความคิด เท่านั้น เพราะ ไม่อยากให้มันเตลิดไหลไปกับอารมณ์ฟุ้งซ่าน
เมื่อริมฝีปากสีแดงอมชมพูของเขานั้นยังระบายรอยยิ้มบางๆจางออกมาคือว่าเวลานี้ฬวิกก็ยังอยากจะปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในเมืองไทยไปสักระยะ ส่วนเรื่องทำงานนั้นฬวิกคิดว่า เขาจะทำงานเมื่อตัวเองพร้อมแล้ว นั่นคือหากว่าคุณคณากานต์ ได้เห็นเขาโผล่ตัวเข้าไปนั่งในออฟฟิศเมื่อไหร่ละนั่นคือวันเริ่มต้นที่จะทำงานของเขาวันแรก
หากเขายังนั่งทบทวนกับเรื่องของมารดาที่ซักเขาเมื่อวานนี้แต่วันนี้กลับไม่เห็นท่านเงียบไปหมดหรือว่า คุณคณากานต์ ยังไม่ได้ลงมาที่ข้างล่างเหมือนเช่นเคย ส่วนบิดาของเขา นั้นท่านเป็นคนขยัน และไม่ เคยปล่อยเวลาว่างทิ้งไว้ให้ไร้ประโยชน์ไปเสียเปล่าและเรื่องนี้เกี่ยวกับพฤติกรรมความดี คุณคณากานต์นั้นพึงพอใจอย่างมากที่ พ่อบ้านไม่เคยที่จะออกนอกลู่นอกทาง ไม่เหมือนลูกชาย คนเล็ก ซึ่งไม่รู้ไรเมศนั้น กระทำตัวผ่าเหล่าผ่ากอเหมือน ใคร ฬวิกเคยถามทั้งบิดาและมารดา และได้รับคำตอบ จากท่าน
“อ้าวจะมีใครก็อาของแกไงภูรถที่ไปเป็นนายอำเภออยู่ที่ชัยภูมิ โน่นนะ เขามีเมียสองเมียสามด้วยซ้ำ”
เรื่องนี้ฬวิกหนุ่มหล่อทายาทอัศนะจิโรจน์เพิ่งรับรู้ประวัติเทือกเถาวงศ์ตระกูลว่ามีญาติของเขาเป็นคนเจ้าชู้ คือเป็นอาของเขานี่เอง