ตอนที่ 14
นี่เองที่อนุราชช่างทำให้เธอรู้สึกขัดใจอย่างที่สุดเลย ฮึ
“นี่ อีตานุ ถ้าหากเธอ ไม่มีเรื่องอะไรที่จะคุย กันอีกละก้อ ป่านก็ ต้องขอตัวก่อนนะ”
แต่ในเวลานี้ อนุราชที่ยังนิ่งเงียบอีกครั้ง เขายอมไม่ได้ เลยกล่าวเรียบๆ
“งั้นก็ได้ เพราะนุคิดว่าป่านคง เหนื่อยอยากให้พักผ่อนมากๆ”
แต่นี่ ปาฎลิณ ก็ไม่รู้หรอกว่า แบบนี้นั้น เขาแกล้งประชด ใส่หล่อนหรือเปล่าละ เอ หรือกลั้นใจพูดไป จากนั้น อนุราช ก็ตัดสินใจลุกขึ้น หันมาทางหล่อน แล้ว เขาเอ่ยลาหล่อนในทันทีเช่นกัน
“เอาล่ะ นุจะได้กลับบ้าน ขอให้ป่านนอนหลับฝันดี แล้วกันนะ และเราค่อยเจอกัน พรุ่งนี้นะป่าน”
พร้อมด้วยสายตาของหล่อน ที่ปาฏลิณ นั้นมอง แอบสังเกต ดูร่างสูงที่ก้าวจากไปอย่างเงียบๆ
ด้วยความรู้สึกที่หล่อนก็บอกไม่ถูกเช่นกันต้องแยกแยะตัวเองให้ได้ ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มกว่าจริงๆ หล่อนถึงข่มตาให้หลับลงได้
*******************
หากเมื่อฬวิก นั้นได้กลับมาถึงบ้านอีกครั้งก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มกว่าๆและทำให้คุณคณากานต์นั้นต้องเป็นฝ่ายเลิกคิ้วถามบุตรชายคนโตอีกด้วยซ้ำอีกทั้งเพราะวันนี้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแม่ลูก ส่วนคุณดามฬ์ นั้นสนใจอ่านแต่หนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับธุรกิจ
ส่วนไรเมศอีกคนเขาหันเหตัวไปสนใจให้กับ เทคโนโลยีทันสมัยตามยุคเครื่องจิ๋วอย่างไอพอดฟังเพลง ตามสมัยนิยมของเขา จนดูไม่มีท่าทีว่าไรเมศจะสนใจสิ่งอื่นอย่างใด หรือแม้แต่เรื่อง ของมารดาและพี่ชาย เหมือนเขาอยู่ในโลกส่วนตัวมากเกินไปจนดูเป็นไร้สาระไปหมด
คุณคณากานต์ เอ่ยถา เรียบๆก่อนด้วย น้ำเสียงเย็น
“เอาล่ะ นี่บอกแม่หน่อยเถอะวิกว่าลูกไปรู้จักผู้หญิง คนนั้นเป็นการส่วนตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ก็แม่เห็นทำตัวสนิทสนมกับแม่ดาราคนนั้นมากมายเลยในงานโรมแรมของเรา ”
นั่นเป็นน้ำเสียงตำหนิของท่าน และไม่บ่อยครั้งนัก ที่เขาจะทำให้มารดานั้นไม่พอใจจนสีหน้าบึ้งตึงและมึนตึงใส่ฬวิกอย่างที่เห็นเช่นนี้และชายหนุ่มใบหน้าคมคาย เกลี้ยงเกลาก็ยกมือลูบคางเล่นยังไม่ตอบคำถามของมารดา เขานิ่งคิดด้วยใจแน่วแน่ที่จะตอบ
แต่สีหน้าของฝ่ายผู้เป็นมารดานั้นดูจริงจังจนว่า มันทำให้เขานั้นรู้สึก อึดอัด ไม่สบายใจขึ้นมาได้
และในเวลานี้แล้วฝ่ายฬวิก เขาก็ไม่รู้จะทำฉันท์ใด ดี นอกจาก แค่ปั้นใบหน้านิ่งๆและพยายามทำให้เนียนๆเข้าไว้ พร้อมทำท่าเสดวงตาหันไปหาเจ้าน้องชายตัวดี อย่างไรเมศ เพื่อหาทางออก
หากแต่ว่าเขาก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากไรเมศ เลยเพราะน้องชายนั่นทำท่าสั่นศีรษะปฏิเสธและทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ด้วย
ก็นี่ด้วยเรื่องสาเหตุที่เกิดจากนางเอกสาวสวย และนางแบบชื่อดังที่ พี่ชายของเขา นั้นไปติดพัน และทำการไปว่าจ้างมาด้วย ตัวเลขแสนแพง ชื่อ ปาฏลิณ
ซึ่งไรเมศนั้นพอจะเดาออก เพราะว่านางเอกชื่อดังคนนี้จัดว่าเป็นสาวสวยและพราวเสน่ห์อย่างมาก
เผอิญ วันนี้ ไรเมศขอเก็บปากเงียบ เลยต้องนิ่ง ก่อนที่จะเอ่ย
“เอ้อ เมศ ขอตัว กลับขึ้นห้องก่อนนะครับ ”
เอ่ยจบแล้ว ไรเมศน้องชายของเขาก็แทบจะลุก พรวดจากโซฟา นั่งเลยทีเดียว มันจ้ำเดินออกไป เพื่อขึ้น ข้างบน
ทำให้ฬวิกก็รู้สึกเคืองน้องชายยิ่งนักที่ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว เพื่อตอบคำถามของมารดา อยากให้ไรเมศ อยู่ เป็นเพื่อนด้วยต่างหาก เพื่อเป็นแนวร่วมกันช่วยเหลือพี่ชายอย่างเขา ในการตอบคำถามของคุณนายคณากานต์
ดังนั้นสีหน้าของฬวิกหนุ่มหล่อเลยดูเจื่อนลงไป อย่างมาก หากยังทำใจดีสู้เสืออยู่นั่นเอง
“เอ้อก็มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรนี่ครับ คุณแม่ เพราะว่า มันสำคัญ และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับโรงแรมเราและสินค้าของเราผมว่าคุณแม่น่า จะชอบ ดีกว่าผมไปหันเหล่เอาผู้ชายด้วยกัน คุณแม่ชอบแบบนี้หรือครับ”
เขากล้าพูดไปขนาดนั้น แต่ลูกชายมีจิตใจเป็นเกย์ คุณคณากานต์ไม่ต้องการ
“แม่ไม่ต้องการหรอกนะ อาการแบบนั้น”
“นั่นสิครับ ผมถึงเลือกชอบผู้หญิง”
เขาเอ่ยเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากการสังเกตของมารดา ไม่มีพิรุธแสดงให้เห็น
“เพราะไม่อย่างนั้นแล้วผมคิดว่าคุณแม่คงจะเครียด มี อาการหนักมากกว่านี้ เสียอีกครับ”
และแววตาที่เปรื่องปราชญ์ฉลาดด้วยความครุ่นคิด ด้วยเล่ห์กระเท่ห์เพื่อเอาตัวเองให้รอดพ้นจากตรงนี้ และก็ทำให้สีหน้าของคุณคณากานต์ นั้นบึ้งทันควัน
“อ๋อนี่แกประชดใส่แม่อย่างนั้นหรือเปล่าตาวิก”
“เปล่านี่ครับไม่ใช่และผมก็ไม่ได้หมายความว่า อย่างนั้นสักหน่อย ”
คุณคณากานต์ยังกรุ่นโกรธต่อบุตรชายและนางเกรี้ยวใส่ด้วยโทสะ
“หรือว่าแกอยากจะให้มัน เป็นตามนั้นหรือไง”
“ไม่หรอกครับ เพราะผมก็ไม่ชอบแบบนั้น ผมชอบผู้หญิงมากกว่าผู้ชายครับแม่ ”
“ก็ดีแล้วละที่ฉันไม่ได้มีลูกเป็นเก้งเป็นเกย์กับเขาให้อายชาวบ้าน”
“ครับแล้วนี่คุณแม่ตั้งใจจะซักฟอกผมไปถึงไหน ครับนี่ผมเหนื่อยมากและอยากขอตัวขึ้นไปอาบน้ำเตรียม ตัวนอนส่วนเรื่องนี้เอาไว้คุยวันหลังเถอะครับ”
จากนั้นฬวิกก็รีบตัดบทเอาดื้อๆกับมารดา
เพื่อที่เขาจะได้ทำอย่างอื่นบ้าง เพราะนี่ เขามานั่งให้ท่านซักนานพอสมควรด้วยการขยับตัวลุกพร้อมกับพาร่างสูงโปร่งก้าวจากไปพริบตาเดียวนั้นเขาก็หายลับสายตาขึ้นไปชั้นบน คุณคณากานต์ก็เลยได้แต่ส่งสายตาค้อนขวับ ไปตามหลัง ลูกชายคนโต
และอีกครั้งที่มาหยุดยืนตรงนี้ หน้าห้องของน้องชาย ประตูห้องของไรเมศจึงถูกเคาะเรียก นึกว่าใคร ไรเมศกำลังผมเผ้ายุ่งเหยิง และจะตัดสินใจนอนแล้ว เขาเห็นร่างสูงตรงที่ก้าวเข้ามาอย่างเนือยๆสีหน้าดูซีดและเจื่อนสนิท ฬวิกพี่ชายผู้ก้าวมานั้นเขากวาดตาขึ้นมองดู นิดหนึ่ง แล้วมาหยุดและทรุดนั่งที่ขอบเตียงในห้องของน้องชายอย่างถือ วิสาสะ
“พี่รู้สึกว่า พวกผู้ใหญ่นี่ ชอบมายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของพวกเราจริงๆนะเมศ ฮึ พี่ อยากจะทำอะไรตามใจของพี่แบบมีอิสระในการคบหาใครแต่แม่ไม่เข้าใจพี่เลยพักหลัง เหมือนตั้งท่าเข้มงวดมากเกินไป หรือ ว่าจะจับผิดพวกเรา ” ฬวิกเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบและริมฝีปากหยักหยันออกมาเล็กน้อยให้น้องชายเห็น