Sunflower 4

1641 คำ
Sunflower 4 ส่งน้องขวัญไปส่งดอกไม้เสร็จเราก็กลับเข้ามาในร้านเพื่อจัดดอกไม้สำหรับออเดอร์ที่ลูกค้าจะเข้ามารับพรุ่งนี้ตอนเช้า จวบจนถึงเวลาเลิกงานเราก็ช่วยกันปิดร้านทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ช่วยกันไป ส่วนวันนี้พี่มายด์จะไปส่งฉันที่คอนโดเพราะกลัวว่ากลับเองจะลำบากในช่วงเวลาที่เหมือนฝนจะตกแบบนี้ “ช่วงนี้โอเคดีใช่ไหม?” นั่งรถออกมาได้สักพักพี่มายด์ก็เอ่ยถามฉันเสียงนุ่มมือละจากพวงมาลัยรถในจังหวัดที่รถติดไฟแดง แบ่งขนมมาให้ฉันได้กินรองท้อง “โอเคดีค่ะ” “เออนี่ พี่จะสั่งพวงกต้นไม้มาปลูกอยากได้อะไรไหม?” พี่มายด์ถามอย่างใจดี “หนูอยากปลูกต้นทานตะวันค่ะที่มันต้นเตี้ย ๆ” “ต้นทานตะวันแคระเหรอ?” พี่มาหันมามองทั้งยังแบ่งขนมมาให้ฉันกินด้วยเรื่อย ๆ และฉันก็กินด้วยจนกลัวว่าตัวเองจะอิ่มก่อนที่จะได้กินข้าวเย็นแล้วนะเนี่ย “ใช่ค่ะ อยากปลูกที่ระเบียง” ตอนนี้ที่ระเบียงมีต้นกุหลาบหนึ่งต้นเหงา ๆ เลยอยากให้ต้นดอกไม้เล็ก ๆ มาปลูกไว้เป็นเพื่อนกันหน่อยค่ะ “ได้ เดี๋ยวพี่สั่งมาให้ด้วย แต่เดี๋ยวนะ ทำไมไม่เอาจากที่ร้านของพ่อเราล่ะ” จู่ ๆ พี่มายด์ก็หันมามองหน้าฉันด้วยความสงสัยทันที “โหพี่มายด์ สมมุตินะหนูอยากได้สองต้นพ่อจะให้คนเอามาส่งสิบต้น มันไม่มีที่ปลูกไงคะพ่อหนูชอบเล่นใหญ่ค่ะเลยไม่อยากซื้อที่ร้าน” ที่ขายอยู่ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีกำไรบ้างหรือเปล่า แจกแถมลูกค้ากันจ้าละหวั่น สองแฝดเองก็แซวพ่อว่าขายเอาสังคม “ฮ่า ๆ ๆ จริงสิพี่เคยเอฟต้นกุหลาบจากเพจของพ่อมาลีด้วยนะ พี่เอฟไปสองต้นแต่เปิดกล้องมามีหกต้น” “นั่นไงล่ะ แจกแถมสุด ๆ” ได้ยินแบบนั้นฉันถึงกับส่ายหน้าให้คนเป็นพ่อ ก็บอกแล้วว่าชอบเล่นใหญ่ อย่างที่เคยบอกว่าขี้เกียจทำงานก็ออกมาเปิดร้านขายต้นไม้แล้วให้เมษาเข้าไปทำงานแทนแบบนั้นไงล่ะ รายนั้นถึงกับงงจบมาพ่อก็สอนงานให้เลย พอครบหกเดือนก็ทิ้งงานให้ลูกแล้วตัวเองออกมาขายต้นไม้ “ฮ่า ๆ ๆ ว่าง ๆ พาไปหาท่านด้วยสิอยากไปเลือกที่ร้านอะ” “ได้สิคะ หนูพาไปได้นะ แต่พี่จะมีที่ปลูกไหมล่ะ ซื้อหนึ่งแถมสิบ” “ฮ่า ๆ ๆ โอ๊ย ไม่ไหว พี่ขำจนจะสำลักทำไมท่านน่ารักแบบนั้นกันนะ” “ชอบเล่นใหญ่ค่ะ แต่ถ้าพี่จะไปพี่บอกหนูนะคะ” “ได้เลย วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ” “ยินดีมากค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะพี่มายด์ สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่มายด์ที่ใจดีมาส่งจนถึงหน้าคอนโด คุยกันเพลินรู้ตัวอีกทีก็กลับมาถึงที่พักเสียแล้วพร้อมสายฝนที่เริ่มตกโปรยปรายลงมา ฉันเดินเข้าลิฟต์อย่างไม่เร่งรีบ และเมื่อเห็นคนคนหนึ่งเดินตามหลังเข้ามาถึงได้กดเปิดลิฟต์รอ ภายในลิฟต์มีเพียงฉันและคุณหมอที่สวมชุดกาวน์หนึ่งคนเท่านั้น วันนี้เขายังคงใส่แว่นและสะพายกระเป๋าบนไหล่ดังเดิม ดูง่วงมากเลยนะ เราทั้งสองคนเงียบมากกระทั่งลิฟต์เปิดออกฉันถึงได้เดินออกจากลิฟต์และนี่เป็นครั้งแรกที่สังเกตว่าคุณหมอคนนั้นก็เดินตามออกมาด้วย และกำลังเดินอยู่ทางด้านหลังของฉันด้วยใบหน้าอิดโรย “...” จังหวะที่หยุดที่หน้าห้องแล้วจะเปิดประตู ก็พบว่าคนคนที่เดินอยู่ทางด้านหลังเดินไปหยุดที่ประตูห้องข้าง ๆ ห้องพักของฉัน จังหวะที่เราหันมาสบตากันยังคงมีเพียงแค่ความเงียบ และเป็นคุณหมอที่พยักหน้าให้เล็กน้อยคล้ายกับทักทาย เห็นแบบนั้นฉันจึงพยักหน้าส่งกลับไป กระทั่งกลับเข้ามาในห้องนอนก็เปิดผ้าม่านต่าง ๆ ไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปล้างมือเพื่อออกมาทำมื้อเย็นกิน เมื่อวานเมษาซื้อของมาให้เยอะมาก ดังนั้นวันนี้จึงตั้งใจจะทำเมนูยำวุ้นเส้นกิน เพราะอยู่คนเดียวเลยไม่ต้องคิดมากเรื่องอาหารที่จะทำและเวลาที่ทำอาหารก็จะทำไม่เยอะแค่พอให้ตัวเองกินอิ่มไม่เหลือทิ้งแค่นั้น ยำวุ้นเส้นหนึ่งจานถูกยกไปวางรอบนโต๊ะกินข้าว ฉันกลับมาล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ จากนั้นก็นำผักสลัดออกมาล้างนิดหน่อย เมื่ออาหารเย็นเสร็จพร้อมก็ยกกลับไปวางไว้ที่โต๊ะกระจกหน้าทีวี เปิดทีวีเป็นเพื่อนระหว่างที่กินมื้อเย็น นั่งกินไปสักพักกริ่งหน้าห้องก็ส่งเสียงดังขึ้นมาเบา ๆ ทำให้ฉันต้องหยุดมือที่กินยำอยู่ทันที “...” เดินเข้าไปเปิดกล้องที่หน้าประตูดูว่าใครที่มากดกริ่งในตอนนี้ แต่บุคคลที่ยืนอยู่หน้าห้องนั้นทำให้แปลกใจเล็กน้อย ฉันยังไม่กล้าเปิดประตูออกไปแต่เลือกที่จะส่งเสียงถามอีกฝ่ายแทน “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องพักของตัวเอง “ที่ห้องมีน้ำมันพืชไหมครับ จะทอดไข่แต่น้ำมันหมด ผมไม่มีแรงลงไปซื้อแล้วครับ” คนที่ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องตอบกลับมาคล้ายกับจะเขินอยู่ไม่น้อย แต่ใบหน้าอ่อนแรงของเขาทำให้ฉันนึกเห็นใจอยู่เช่นเดียวกัน จากสภาพที่ยืนอยู่ในลิฟต์เมื่อช่วงเย็นก็ว่าเพลียมากแล้วนะ แต่ตอนนี้เหมือนอีกฝ่ายจะหลับกลางอากาศเลยล่ะ “มีค่ะ รอสักครู่นะคะ” ฉันบอกคุณหมอที่อยู่ในเสื้อยืดตัวย้วยพร้อมกับใบหน้ามึนงงคล้ายกับจะหลับอยู่ตลอดเวลา เดินกลับเข้าห้องก็หยิบขวดน้ำมันพืชที่ยังไม่ได้ใช้มา แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันเปิดตู้เย็นแล้วหยิบกล่องถนอมอาหารที่แม่ทำกับข้าวแล้วฝากมากับสองแฝดเมื่อวานติดมือมาด้วย “น้ำมันพืชค่ะ” “ขอบคุณครับ ขอโทษด้วยครับที่รบกวน” ฉันเปิดประตูและส่งขวดน้ำมันพืชให้คุณหมอไป รวมถึงส่งกล่องถนอมอาหารแบบแก้วให้คุณหมอไปด้วย “ครับ?” “ต้มข่าไก่ค่ะ เมื่อวานที่บ้านทำมาให้เยอะเลยกินไม่ทันหากเหนื่อยก็อุ่นกินกับข้าวสวยได้นะคะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำกับข้าว” “ขอบคุณครับ” คุณหมอยื่นมือมารับและเอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “ยินดีค่ะ กินให้อร่อยนะคะ” บอกกับคนตัวสูงตรงหน้าอีกครั้ง เมื่อได้ยืนประจันหน้าแบบนี้ถึงได้รู้ว่าฉันสูงถึงแค่ปลายคางของเขาเท่านั้นเอง “ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ” ฉันส่งยิ้มให้คุณหมอบาง ๆ เท่านั้นก่อนจะปิดประตูแล้วเดินไปล้างมือเพื่อกลับมานั่งกินยำที่ทำเพิ่งเสร็จ กับข้าวที่แม่ทำมาให้เหลืออีกตั้งสามสี่กล่อง รออุ่นกินตอนเช้าก็แล้วกันเพราะมื้อเย็นฉันไม่อยากกินข้าวน่ะ อยากกินอะไรแซ่บ ๆ อย่างยำรวมมิตรนี่แหละ นี่แหละชีวิตในหนึ่งวันของฉัน เรียบง่ายแต่มีความสุข ในทุก ๆ วันฉันยังใช้ชีวิตตื่นเช้าไปทำงานเลิกงานกลับมาที่ห้องอยู่แบบนี้จวบจนจะครอบสัปดาห์ เมื่อวานฉันได้เมล็ดต้นทานตะวันมาด้วยนะแต่ยังเพาะปลูกตอนนี้ไม่ได้ เพราะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน เดี๋ยวน้องจะไม่รอด แค่นี้ก็ห่วงต้นกุหลาบหนึ่งต้นถ้วนที่อยู่ระเบียงอยู่เหมือนกัน กลัวน้องจะตายเพราะเชื้อรา แต่ยังดีที่บางวันน้องโดนแดดอยู่บ้างถึงแม้จะมีแดดส่องแสงเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม วันนี้ฝนก็ตกหนัก ฉันที่โดนฝนมาก็มีอาการคัดจมูกแล้วก็จามถี่ ๆ ขนาดอาบน้ำสระผมเป่าผมก็ยังจามจนน้ำมูกไหล ทั้งยังรู้สึกคลั่นเนื้อคลั่นตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะแบบนี้จึงรีบกินยาดักไว้ “ข้างในยังดีอยู่ไหมเนี่ย” บ่นกับตัวเองเสียงเบา หลังจากที่จามถี่จนเจ็บหน้าอกไปหมด ทิชชูถูกดึงออกจากกล่องมาสั่งน้ำมูกครั้งแล้วครั้งเล่า ศีรษะก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ตาปรือมองรอบข้างได้อย่างยากลำบาก เอาเถอะหากไม่ไหวก็นอนพักก่อนแล้วกัน ร่างกายในตอนนี้รู้สึกปวดเมื่อยมากจนไร้เรี่ยวแรงที่จะทำอะไรต่อไป จากที่คิดเอาไว้ว่าหากถึงตอนเช้าฉันคงจะรู้สึกดีขึ้นมากกว่านี้ แต่ไม่ใช่เลยเมื่อรู้สึกตัวตื่นฉันกลับรู้สึกร้อนไปตั้งตัว ทั้งไอและมีน้ำมูก เมื่อคิดว่าตัวเองยังไม่ดีขึ้นถึงได้ฝืนร่างกายเข้าห้องน้ำเช็ดตัวให้ตัวเองจากนั้นถึงได้รีบแต่งตัว และสวมหน้ากากอนามัยไว้ มือที่หยิบของมาได้มีเพียงกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์เท่านั้น ตอนนี้ฉันเพียงแค่ต้องการที่จะไปโรงพยาบาล เพราะรู้ว่าร่างกายตัวเองไม่ไหว แต่จังหวะที่ฉันก้าวเข้ามายืนในลิฟต์ทุกอย่างก็คล้ายกับจะมืดดับไปรวมถึงสติของฉันที่ค่อย ๆ เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว ไร้ความเจ็บปวด ไร้ความรู้สึก...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม