Sunflower 5

1186 คำ
Sunflower 5 ทันทีที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อลอยคลุ้งอยู่รอบตัว เพดานสีขาวคือสิ่งแรกที่ฉันรับรู้ได้เมื่อลืมตาตื่น และเมื่อได้ลองกวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องถึงได้พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้และมั่นใจว่าที่นี่คือโรงพยาบาลเมื่อเหลือบสายตาไปเห็นป้ายชื่อโรงพยาบาลที่มุมด้านหนึ่งของห้อง “ตื่นแล้วเหรอครับ” ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของคุณหมอในเสื้อกาวน์โดยที่ด้านหลังนั้นมีคุณพยาบาลเดินตามเข้ามาด้วยสองคน “ฉัน...” เสียงที่แหบแห้งของตัวเองหยุดชะงักไปก่อนจะไอออกมาโขลกใหญ่ คุณหมอที่ยืนอยู่ข้างเตียงรีบเทน้ำใส่แก้วและส่งมาให้ฉันอย่างใจดี “ขอบคุณค่ะ” แม้จะจิบน้ำไปแล้วแต่เสียงก็ยังแห้งทั้งยังไอออกมาไม่หยุดอีกด้วย คุณพยาบาลขยับเข้าใกล้ส่งหน้ากากอนามัยมาส่งให้ฉัน ฉันรีบรับมาแล้วสวมไว้ทันที ท่ามกลางดวงตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูของคุณพยาบาล ตอนนี้ทั้งสามคนสวมหน้ากากอนามัยอยู่ฉันเลยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่กันแน่ “คุณเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอนะครับ” “แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” “ผมพามาเองครับ” “คะ?” ถึงกับต้องทวนถามคุณหมออย่างไม่เข้าใจ กระทั่งอีกฝ่ายดึงหน้ากากอนามัยที่สวมอยู่ลงให้ฉันได้เห็นใบหน้าถึงได้รู้ว่าเขาเป็นใคร “เมื่อเช้าผมจะออกมาทำงานแล้วเห็นคุณล้มลงไปที่หน้าลิฟต์เลยพามาโรงพยาบาลครับ” “ไม่ใช่หมดสติในลิฟต์เหรอคะ?” ก่อนที่สติจะดับไปฉันจำได้ว่าตัวเองเดินเข้าไปยืนในลิฟต์แล้วนะ “หน้าลิฟต์ครับ กดลิฟต์แล้วยืนรอก็ล้มลงเลยดีที่ผมช่วยรับทันไม่อย่างนั้นศีรษะคงกระแทกพื้น” คุณหมอรีบอธิบายให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น “ขอบคุณนะคะ” “ยินดีครับ ระหว่างนี้ก็นอนพักก่อนนะ สักเที่ยงเดี๋ยวพยาบาลจะเข้ามาตรวจดูอีกครั้ง แล้วคงจะต้องนอนพักที่นี่อาจจะสองถึงสามวันนะครับ” คุณหมอรีบแจ้งทันที “ได้ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณหมอ” “ยินดีครับ” เอ่ยจบคุณหมอก็เดินออกจากห้องพักฟื้นไปพร้อมกับคุณพยาบาล กระทั่งได้อยู่คนเดียวฉันรีบหยิบโทรศัพท์ตัวเองส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มบ้านทันทีว่าตัวเองนั้นไม่สบายและตอนนี้อยู่โรงพยาบาล และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายภายในห้องพักฟื้นในโรงพยาบาล เพราะครอบครัวฉันที่รีบเดินทางมาหาด้วยความร้อนใจในช่วงเวลาสิบเอ็ดโมงเช้าหลังจากรู้ข่าว “พี่ลีเป็นยังไงบ้างลูก” พ่อรีบเอ่ยถามทันทีเมื่อเปิดประตูห้องพักเข้ามาได้ตามด้วยแม่ที่รีบถามอย่างร้อนใจไม่ต่างกัน “ไหวไหม ทำไมไม่โทรบอกแม่ให้เร็วกว่านี้คนดี” ทั้งพ่อและแม่ที่เดินเข้ามาภายในห้องพักฟื้นก็รีบเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงร้อนรนไม่น้อยยามเห็นว่าฉันนั้นอยู่บนเตียงคนไข้มีสายน้ำเกลือและสวมหน้ากากอนามัยไว้อยู่แบบนี้ “เมื่อคืนกินยาแล้วหลับไปเลยค่ะแม่ แต่พอตื่นมันก็วูบไปเลย” กอดแขนอ้อนแม่เหมือนเด็กน้อย แต่สักพักก็ขยับออกห่างเพราะกลัวแม่จะติดไข้หวัดจากตัวเอง ตอนนี้นอกจากฉันที่สวมหน้ากากอนามัยแล้วยังมีครอบครัวที่สวมหน้ากากอนามัยกันทุกคน “แล้วนี่กินข้าวหรือยังลูก” พ่อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แม่ยกมือขึ้นลูบผมฉันด้วยความอ่อนโยนทั้งยังคงใช้สายตาอบอุ่นนั้นจ้องมองฉัน แววตาที่เต็มไปด้วยความเห็นห่วง “ยังเลยค่ะพ่อ” “เดี๋ยวให้พี่เขาไปหาอะไรมาให้กิน เมษไปซื้อข้าวมาให้น้องหน่อย” “ครับพ่อ อยากกินเค้กด้วยไหม?” เมษาลุกขึ้นยืนหลังจากที่นั่งอยู่บนโซฟามุมห้องและไม่ลืมที่จะหันกลับมาถามฉันด้วยความใส่ใจ “ไม่เอา” “อื้อ รอแป๊บ” “ไปด้วยครับ” กุมภาบอกกับพี่ชาย “ผมไปด้วย ๆ” มีนาเองก็ด้วย “มาเร็ว ลีจะได้กินข้าว” เมษาและน้อง ๆ เดินออกจากห้องไปแล้ว และพ่อก็ยกเก้าอี้ออกมาวางข้าง ๆ เตียงที่ฉันนอนอยู่ให้แม่ได้นั่ง “สองแฝดจะอยู่เฝ้านะลูก” “คะ? น้องไม่มีเรียนเหรอคะ?” ถามแม่กลับไปด้วยความสงสัยแทบจะทันที “ปิดเทอมแล้วไง นี่เมษก็กำลังหาห้องให้อยู่รอทำสัญญาซื้อ หนูไม่มีคนเข้ามาจีบแน่สองแฝดหวงขนาดนั้น” แม่เล่าให้ฟังทั้งยังไม่ลืมที่จะเอ่ยแซวฉัน เราต่างรู้ดีว่าสองแฝดนั้นหวงฉันมากแค่ไหน ไม่รู้ว่าจะมีใครที่ผ่านด่านสองแฝดมาได้ไหม “ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ” “เอาไว้ก่อนก็ได้ รอตอนที่หนูพร้อมก็ได้ลูก พ่อกับแม่ไม่บังคับอยู่แล้ว” “ขอบคุณนะคะ แคก!” อ่า แสบคอไปหมดแล้วน้ำมูกก็ไหลไม่หยุดเลย น่าหงุดหงิดจริง ๆ นะแบบนี้น่ะ “เอา ๆ ดื่มน้ำก่อนนะ ไม่ต้องพูดแล้วนอนพักก่อนลูก” พ่อรีบส่งแก้วน้ำดื่มมาให้ฉันทันทีเมื่อเห็นว่าฉันไอออกมากโขลกใหญ่ ฉันไม่ค่อยป่วยแต่ไม่คิดว่าพอป่วยทีไรก็จะเป็นหนักตลอดเลย นี่ก็ยังไม่ได้ลางานด้วย เดี๋ยวรอช่วงเย็นฉันค่อยโทรบอกพี่พิมพ์ก็แล้วกัน ตอนนี้หูอื้อตาลายอีกแล้วล่ะ “แม่คะ หนูขอนอนได้ไหมคะ” “ได้ลูก งั้นหนูนอนพักนะ” ฝ่ามืออุ่นยกขึ้นลูบที่กลุ่มผมไปมาอย่างอ่อนโยน นั่นจึงทำให้ฉันหลับตาลงเบา ๆ พักผ่อนอีกครั้ง ร่างกายตอนป่วยนั้นอ่อนแอมากจนฉันเองก็ไม่ชอบตัวเองตอนที่ป่วยเลยเหมือนกัน ดูงอแงไม่เหมือนฉันในวันปกติเลย หลับไปสักพักก็รู้สึกตัวตื่นเพราะแม่กำลังช่วยเช็ดตัวให้ ถัดไปเป็นพ่อที่นั่งอยู่บนโซฟาข้าง ๆ เมษา ส่วนสองแฝดนั่งอยู่ที่เก้าอี้มุมห้อง “อ้าว ขอโทษนะ หนูตัวร้อนแม่เลยเช็ดตัวให้” “ขอบคุณค่ะแม่” “กินข้าวเลยไหม?” “ค่ะ” แม่ประคองให้ฉันนั่งบนเตียงก่อนที่สองแฝดจะเตรียมอาหารมาวางใส่ถาดเลื่อนให้ฉัน “เอาละ แม่กับพ่อต้องกลับไปดูร้านนะลูก” พ่อเดินเข้ามาบอกกับฉันที่กำลังนั่งรอช้อนจากสองแฝด “ค่ะพ่อ” “รีบหายนะลูก” แม่ขยับเข้ามาลูบผมฉันเบา ๆ อีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องพักฟื้นนี้ไปพร้อมกับพ่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม