ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น

1453 คำ
เสียงคอนเสิร์ตดังอื้ออึงไปหมด ทั้งนักดนตรีและนักร้องชายที่อยู่บนเวทีแผดเสียงร้องฟังไม่ได้ศัพท์   ภูผาส่ายหน้าเซ็งๆ ทำไมต้องเป็นตนเองด้วย ที่ต้องมาในสถานที่แบบนี้...                      ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว เสื้อนอกแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงสแล็คสีดำสนิท พยายามทำตัวให้ลีบเข้าไว้ เดินไปตามช่องวางเล็กๆ ที่พอจะแทรกเข้าไปได้  ให้ตายสิ ไม่ชอบสถานที่แบบนี้เลย...ชายหนุ่มถึงกับเกาศีรษะตัวเองแรงๆ            เด็กหนุ่มสาวหลายคนที่เขาเดินแทรกผ่านเข้ามามองเขาเหมือนของแปลก จะไม่ให้แปลกได้ไง ตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามาในงาน ไม่เห็นใครที่พอจะมีอายุใกล้เคียงกับเขาเลยกระทั่งการแต่งตัว ที่ดูผิดรุ่นผิดงาน                       “คนที่เด่นที่สุด”                      ปากบ่นพึมพำแล้วหยิบรูปขึ้นมาดู เปรียบเทียบเด็กผู้หญิงทุกคนที่คิดว่าเด่นที่สุดในงานตามที่ผู้บังคับบัญชาบอก              “ก็เห็นเด่นกันทุกคน...แล้วจะไปหาที่ไหนเรา”            พึมพำพลางปาดเหงื่อบนใบหน้า ที่เริ่มไหลเยิ้มของตัวเอง ในหัวคิดรู้สึกเวทนาตัวเอง และคนรอบข้าง ที่ยอมทรมานตัวเอง ทนยืนในที่ร้อนอบอ้าว ที่พ้นเพลิงหลังคาออกไปด้านหลัง และรอบบริเวณลานกว้าง เพื่อจะมาดูสิ่งที่ตัวเองชอบ และคลั่งไคล้           ใบหน้าคมเข้ม สอดส่ายสายตามองหาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกอึดอัดกับภาพชวนให้วิงเวียนจะอาเจียนเสียให้ได้พ่นลมหายใจที่กำลังพาขึ้นพาลง เพื่อผ่อนคลายความร้อนในตัวของตัวเองได้บ้าง           สายตายังคงทำหน้าที่กวาดหาคนที่ต้องการอยู่ มองไปรอบๆ แล้วสะดุดสายตากับสาวสวยลูกครึ่ง รูปร่างบอบบางสมส่วน ในชุดรวบรัดชัดแน่นสัดส่วน สะโพกผายที่โยกย้ายส่ายไปมา น่าหวาดเสียว           ภาพที่เห็นมันทำให้คนใจแข็งอย่างเขาถึงกับออกอาการหัวใจเต้นรัว ท่าทางการเต้นเย้ายวน ชวนสายตาให้จดจ้องเรือนร่างนั้น ไม่ใช่แต่สายตาของเขาที่มองหล่อน สายตาหลายสิบคู่ที่มองหล่อนและทำสีหน้ากระหายมองตาเป็นมันอย่างหมั่นเขี้ยว ที่ชายหนุ่มเผลอเห็นเข้าโดยบังเอิญ มันทำให้ชายหนุ่มอย่างเขาใจคอไม่ดี           “เด่นจริง ๆ ด้วย อยู่ติดขอบเวทีเลยนะ”                       ภูผาพูดกับตัวเอง มองดูหญิงสาวหน้าตาลูกครึ่งจะว่าเด็กก็ไม่เด็กแล้วนะ...เพราะดูจากรูปร่างที่     สมส่วนแล้ว...เขาต้องเรียกว่าเป็นหญิงสาวเต็มตัว และ ‘ไม่รู้จักโตมากกว่า’ ชายหนุ่มยืนมองหล่อนแล้วส่ายหน้าไม่รู้สึกชอบเอาเสียเลย...หล่อนที่ยืนเต้นไปตามจังหวะเพลงอย่างเมามัน                       ภูผายืนสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ ไม่ให้หล่อนรู้ตัว แต่เพราะคนมันเยอะหรือยังไง ทำให้ชายหนุ่มถูกเบียดทีละนิดเหมือนเหตุการณ์มันบังคับให้ขยับเดินทีละนิด จนตัวชายหนุ่มเองรู้สึกได้ว่าคนที่ตนเองกำลังจับตามอง กำลังจับตาดูเขาอยู่เช่นกัน                      ‘คนบ้า แก่แล้วไม่เจียม ยืนมองอยู่ได้...’ ก่นด่าในใจ             เหลือบมองผู้ชายร่างใหญ่โต ที่ยืนรวมกับกลุ่มวัยรุ่น และเริ่มรู้ตัวว่ามีชายผู้นั้นแอบมองมาทางหล่อนถี่ๆรู้สึกไม่น่าไว้ใจ แถมหน้าตาดุอีกด้วย ความดื้อของหล่อนตอนนี้กลายเป็นความกลัวขึ้นมา ส่อลาง เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี แอบถอยออกมาตั้งหลักจากบริเวณงานช้าๆ เมื่อคิดว่าพ้นสายตาของชายหน้าเหี้ยมแล้ว ร่างบางสะบัดตัว วิ่งหนีแบบไม่คิดว่ามีอะไรมาขวาง           วิ่งออกไปไม่เท่าไหร่ “โอ๊ย…!”            ร่างบางสมส่วนล้มลงกระแทกอย่างจัง รับรู้ความเสียวแปลบบริเวณหัวเข่า และฝ่ามือ แววตาเอ่อคลอด้วยน้ำตา พยายามกลั้นความรู้สึกเจ็บแปลบ ก้มมองดูเห็นเลือดซิบๆ บริเวณหัวเข่า โดนเข้าไปอย่างจัง เพราะหล่อนนุ่งกางเกงเสียสั้นอย่างนั้นก็เลยโดนถนนครูดเข้าไปเต็มๆ!                       ซอนด้ามองชายหนุ่มอายุคงไม่มากไม่น้อยไปกว่าหล่อนมากนัก ยืนขวางทางจนหล่อนชนล้มไม่เป็นท่าอยู่ตรงนั้นด้วยสายตาเอาเรื่อง           “ไอ้บ้า...! มายืนขวางทางทำไม”           “อ้าวน้อง... พูดอย่างนี้ก็สวยดิ... ทางเขามีไว้ให้ยืนก็ยืนสิ น้องวิ่งไม่ดูทางเอง” สายตาและคำพูดกวนๆ ทำให้คนกล้าดีรีบถอยห่าง เก่งยังไงก็เงียบไว้ดีที่สุด...            “แล้วน้องจะวิ่งไปไหน ให้พี่ไปส่งมั้ย...”            ชายหนุ่มที่ดูจะหน้าตาดีและแต่งตัวดีเดินแทรกคนอื่นๆ เข้ามาถามและมองสำรวจหล่อนจากหัวจรดเท้าแล้วทำสีหน้าพอใจ และสายตาหลายคู่ที่มองหล่อนเหมือนของแปลกที่น่าสนใจ             “ไม่ต้องมายุ่ง” พูดพลางจะวิ่ง แต่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ เพราะชายหนุ่มกลุ่มนั้นเข้ามาขวาง ไม่ยอมปล่อยหล่อนไปง่ายๆ                      ภูผาเห็นเหตุการณ์จึงแอบมองดูอยู่ห่างๆ มองดูท่าทีของชายหนุ่มกลุ่มนั้น และที่สำคัญ อยากดัดนิสัยของยัยคุณหนูที่เอาแต่ใจ...            “จะรีบไปไหน คุยกันก่อน...” ยิ้มเย็นส่งผ่านนัยน์ตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจ “มาคนเดียวหรือ?” ถามใหม่อีกครั้ง เมื่อเห็นสาวสวยยังไม่คิดตอบคำถาม พร้อมมองไปรอบ ๆ ไม่เห็นมีใคร จึงคว้าหมับจับข้อมือหล่อนไว้แน่น ร่างบางเบิกตาโตด้วยความตกใจ            “ปล่อยมือฉันนะไอ้พวกบ้า” เท้าบางลอยกลางอากาศด้วยสัญชาตญาณการป้องกันตัว เตะมั่วไปยัง    ชายหนุ่มคนหนึ่ง ลงไปนอนกองบนพื้น ใบหน้าขาวเกือบซีดเปลี่ยนสีทันที           “ยัยบ้าเห้ย! ซี้ดด...” ร้องคราง ส่วนคนอื่นๆ ที่ช่วยรุมดึงรั้งหล่อน กลับยืนหัวเราะเป็นเรื่องขบขัน เมื่อเห็นเพื่อนที่โดนหล่อนกระแทกเท้าใส่ไปนอนหน้าเขียวบอกบุญไม่รับ           แรงที่เหลือถูกปล่อยออกมาทั้งถีบทั้งต่อย แต่ชายหนุ่มพวกนั้นกลับหัวเราะเห็นเป็นเรื่องขำ ไม่รู้สึกกลัวและไม่ฟังเสียงของหล่อนเลย  สุดท้ายแรงก็หมดลง เมื่อพวกนั้นลากหล่อนมายังรถคันหรู ที่มีชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคน ยืนกอดอกอย่างใจเย็น  อายุและราศีแก่ว่าใครๆ ในกลุ่ม สะโพกหนาพิงบนขอบประตู สายตาเยือกเย็น มองหล่อนเหมือนกำลัง    รอคอยอยู่แล้ว มือแกร่งทยอยกันพร้อมใจปล่อยเธอให้เป็นอิสระและเดินห่างออกไป สุดท้ายแรงก็หมดลง เมื่อพวกนั้นลากหล่อนมายังรถคันหรู ที่มีชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคน ยืนกอดอกอย่างใจเย็น  อายุและราศีแก่ว่าใครๆ ในกลุ่ม สะโพกหนาพิงบนขอบประตู สายตาเยือกเย็น มองหล่อนเหมือนกำลัง    รอคอยอยู่แล้ว มือแกร่งทยอยกันพร้อมใจปล่อยเธอให้เป็นอิสระและเดินห่างออกไป           ซอนด้าถึงกับอ้าปากเหวอ เมื่อถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังกับอีกคนที่ไม่น่าไว้ใจพอกัน สายตาหวาดกลัว กวาดตามองไปรอบๆ แม้จะเป็นช่วงกลางวัน แต่ใครๆหลายคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ไม่ได้สนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนรอบข้าง            ร่างบางกลืนน้ำลายลงคอ จะร้องขอให้ใครช่วยก็ไม่มีใครหันมาสนใจ ต่างคนต่างแต่ยุ่งกับการเดินอยู่กับกลุ่มของตัวเอง พูดคุยโต้ตอบกันเสียงดัง หากหล่อนตะโกนออกไป มีหวังกลบเสียงหล่อนหมด ยังไม่ทันได้ถึงหู            “ว่าไงสาวสวย พูดไทยได้หรือเปล่า?” ดึงร่างบางที่กำลังอ้ำอึ้งเข้าหาตัว แล้วผลักร่างบางเข้าไปในรถที่ประตูเปิดอ้ารออยู่อย่างไม่ปรานีปราศรัย           “ว้าย!” เสียงแหลมเล็กหวีดร้องด้วยความตกใจ “ฉันจะบอกพ่อให้มาจัดการกับพวกแก ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้...” เสียงแหลมตะคอกสำเนียงไทยชัดเจน จนอีกคนยิ้มพอใจ           “ไม่เสียแรงที่พวกนั้นลากตัวมาให้ฉัน พูดไทยได้ชัดเจนดีนี่” เอ่ยชมอีกฝ่าย ที่ทำหน้าเหยเกเพราะการกระทำของเขา           แม้จะเจ็บจุกอยู่บ้าง แต่ยังทนกัดฟันข่มขู่ มองใบหน้าหล่อเหลาสะอาดตามองหล่อนเหมือนเหยื่อ ที่กำลังรอเข้าปากเสือ ตอนนี้หล่อนรู้สึกว่าเหตุการณ์เริ่มไม่ดีแล้ว นึกถึงคำพูดพ่อขึ้นมาทันที               “พ่อจ๋า แม่จ๋าช่วยหนูด้วย”            ร่างบางหลับตาปี๋ เมื่อเห็นชายหนุ่มคนเริ่มขยับก้มเข้ามาใกล้ แรงที่มีอยู่น้อยนิดก็ถูกใช้ไปหมดแล้ว เหลือแค่ยกขาขึ้นเพื่อดันร่างที่ก้มมาหาเพียงอย่างเดียว 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม