ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก แม้จะรู้สึกหงุดหงิดกับขาเรียวยาวที่ค้ำช่วงหน้าท้องแกร่งของตนเอง จับหมับที่ข้อเท้าทั้งสองข้างแยกออกจากกัน สะบัดไปคนละทาง แทรกตัวเข้าทามทับร่างบางทันทีเมื่อมีจังหวะ
ขาเรียวด้านหนึ่งกระแทกเบาะนั่งด้านข้างจนรู้สึกเจ็บ “ปล่อยนะ” มือเรียวผลักดันไหล่กว้างที่ทาบทับลงมา จิกเล็บลงบนไหล่ชายหนุ่มแปลกหน้าสุดแรง
“ฤทธิ์มากจริง!” เสียงเหี้ยมถูกเปล่งออกมาเบาๆ “อยากเจ็บตัวก่อนขึ้นสวรรค์ใช่ไหม?” กระซิบบอก พร้อมสูดกลิ่นกายของสาวใต้ร่างเข้าเต็มปอด แม้จะมีกลิ่นเหงื่อปะปนมา แต่ชายหนุ่มอย่างเขาไม่นึกรังเกียจ กลับติดใจกลิ่นกายของหล่อนด้วยซ้ำ
“หอมดีนิ...ฉันขอและกัน” เอ่ยขอหน้าตาเฉย ก้มลงซุกจมูกโด่งไปยังซอกคอขาว โดยคนใต้ร่างยังพยายามดิ้นขลุกขลัก แต่ก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดแม้แต่น้อย กับยิ่งได้ใจเมื่อเนื้อในร่มผ้าที่มีอยู่น้อยชิ้นของหล่อนเสียดสีกับร่างแกร่งของเขาโดยเจ้าหล่อนไม่ทันรู้ตัว
“ยี้ ปล่อยนะ!” เสียงแหลมร้องเสียงหลง รู้สึกขนชี้ชัน เมื่อชายแปลกหน้าซุกไซร้หนักขึ้น เข่าที่เริ่มใช้การได้ยกขึ้นกระทุ้งไปตรงระหว่างขาชายหนุ่มเต็มแรง แต่เหมือนคนที่ค่อมร่างระวังตัวดี จึงพลาดถูกแค่หน้าขา แต่กระนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากปากหนา
“อุ๊บ! ยัยบ้า” เขาหนีบขาเข้าหากันผละห่างจากร่างบางเล็กน้อย “ต้องการแบบนี้ใช่มั้ย?” เอ่ยจบ พร้อมหมัดหนักๆ ต่อยลงมาอย่างไม่ออมแรงเข้าที่หน้าท้องแบนราบเต็มความโมโหที่เกือบเสียเชิงชาย
มือเรียวกุมหน้าท้องบิดเกลียวไปมา หายใจติดขัด ร่างบางขุดคู้งอตัวเข้าหากัน ความเจ็บจุกอัดแน่นทำให้ร่างบางจะร้องก็ร้องไม่ออก อัดแน่นความรู้สึกอื้ออึง และสติก็ดับวูบไป
ขนตายาวงอนกะพริบตาปริบๆ สติเริ่มกลับมาเหมือนเดิม รับรู้การสั่นสะเทือนของที่นอน พยายาม ปรือตาเพ่งมอง เพื่อให้รู้แน่ชัดว่าหล่อนนอนอยู่ที่ใด และมันเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนกันแน่ หลังจากที่...
เฮ้ย! เหมือนนึกขึ้นได้ ร่างบางผุดลุกอย่างตกใจนึกลำดับเหตุการณ์ อาการปวดหนึบที่ช่วงท้องบ่งบอกว่าหล่อนได้ผ่านสิ่งเลวร้ายมาแล้วแน่ๆ ใบหน้าซีด คิ้วเรียวโก่งย่นเข้าหากัน ก่อนจะคลายเสียงแหลมเล็กออกมา
“กรี๊ด!”
เสียงกรีดร้องแผดดังออกมา ทำเอาคนที่นั่งขับรถถึงกับเกือบเสียหลัก รีบเอาเท้าแตะเบรกเบนเข้าหา ไหล่ทางทันที
“เป็นอะไร กรี๊ดทำไม?” เสียงทุ้มหันมาเอ่ยถาม สีหน้าตกใจ
ใบหน้างามถลึงตามองคนถาม ตอนนี้ความกลัววิ่งฉิว คำเอ่ยที่น่าจะบอกหรือถามอะไร ถูกกลืนหายลงไปในลำคอ
นี่หล่อนโดนใครข่มเหงกันแน่...สมองมึนงง แสดงสีหน้าวิตกเกือบเป็นวิกลจริตเลยที่เดียว หากแต่อีกคนเอ่ยถามซ้ำ “ไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ยครับ?” เสียงทุ้มนุ่มนวลน่าฟังกว่าครั้งก่อน พยายามลดใบหน้าเหี้ยมเอาไว้
“แกเป็นใคร?” จิกตา แววตาแข็งกร้าวไม่ยอมใครผุดเต็มใบหน้า เพ่งมองใบหน้าอีกคนอย่างไม่กลัวเกรง
แม้จะรู้ว่าคำพูดที่ถามออกไปอาจทำให้อีกคนมีน้ำโห และคำพูดของเขาจะฟังดูน้ำเสียงเหมือนไม่ใช้ผู้หวังร้าย แต่หล่อนก็ไม่อยากไว้ใจใคร ยิ่งหล่อนจำหน้าค่าตาได้ ว่าชายหนุ่มผู้นี้เคยแอบจ้องมองหล่อนมาก่อน มันยิ่งทำให้หล่อนระแวงมากไปอีก และที่สำคัญหล่อนพร้อมสู้ แม้รู้ว่ามันอาจจะไม่ชนะ แต่ก็ขอให้รู้ว่าตัวเองก็พยายามที่สุดแล้ว!
“ทำไม พูดไม่ไพเราะเลยล่ะครับคุณหนู” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยถามใหม่ ไม่คิดใส่ใจคำถามพูดแข็งกร้าว เมื่อกี้นัก และที่สำคัญอยากให้หล่อนพูดจาไพเราะน่าฟังกว่านี้ เผื่อถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นมา คำพูดหวานๆ อาจทำให้ผู้ร้ายบางคนใจอ่อนลงได้ ‘หล่อนควรจะหัดทำเอาไว้’
สาวเสียงแข็งกระตุกยิ้มมุมปาก แววตาไม่ละจากใบหน้าอีกคน “แล้วคนอย่างแกอยากฟังคำพูดไพเราะด้วยหรือ...ยากเสียล่ะ”
คำพูดที่ดูจะไม่ยอมลง ทำเอาคนหน้าเหี้ยมเริ่มเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ คุณหนูที่มีนิสัยไม่ยอมใคร คงเปลี่ยนใจกันยากสักหน่อย...
“ทำไม...คนอย่างผมถึงจะฟังคำพูดไพเราะ จากสาวสวยอย่างคุณหนูไม่ได้ ผมก็คนเหมือนกัน” เสียงห้าวๆ พูดตวาดออกมา มองใบหน้าเนียนที่ฉายให้เห็นถึงอาการหวาดกลัวอยู่บนใบหน้า มองหล่อนอย่างเอาเรื่อง
“คนเลวๆ อย่างพวกนาย มันน่าจะตายๆ ไปจากโลกซะมากกว่าจะมาขอคำพูดไพเราะจากคนที่พวกนายทำร้าย!” แทนที่สาวสวยจะตกใจกลัวกับเสียงนั้น แต่กลับพูดต่อว่าออกไปอย่างเหลืออด
ชายหนุ่มยกยิ้ม นี่หากผู้ชายที่หล่อนหมายถึง คือเขาละก็ เขาคงเจ็บไม่น้อย แต่นี่เขาไม่ได้เป็นคนเลวอย่างที่หล่อนเข้าใจ เขาจึงทำเป็นไม่ใส่ใจ และคงคิดจะแกล้งให้หล่อนโมโหเล่นต่อไป
“บ้านเมืองเราหากเป็นคนดีกันซะหมด แล้วคนร้ายตายไปซะก่อน แล้วจะทำคุกไว้ขังใคร อุตส่าห์ลงทุนสร้างไว้ตั้งหลายที่ อย่าให้มันสูญเปล่าเลยคุณหนู”
“.....” อึ้งกับคำย้อน ได้แต่กัดฟัน โกรธเคืองอีกคน แต่ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่าการส่งสายตาอาฆาตให้
ชายหนุ่มยิ้มเยาะ เมื่อเห็นคุณหนูปากกล้าโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง พูดอะไรไม่ออก ชายหนุ่มจึงแล่นรถออกถนนใหญ่อีกครั้ง
“นี่แกจะพาฉันไปไหน!?” ร้องถามเมื่อรถเริ่มเร่งความเร็วขึ้น ชายหนุ่มเหล่ตามอง ยิ้มบนใบหน้าเล็กน้อย เหมือนต้องการแกล้งให้อีกคนใจเสีย และได้ผลเมื่อหล่อนเริ่มทำหน้าเหยเก และตามด้วยเสียงร้อง “ช่วยด้วย ช่วยด้วยคนบ้าลักพาตัว”
เป็นอันว่าชายหนุ่มที่อยากแกล้งอีกคน ต้องเปลี่ยนใจจอดรถข้างไหล่ทางอีกครั้ง เสียงตะโกนก้องที่ดังอยู่ในรถทำเอาแก้วหูของภูผาเกือบทะลุ และสร้างความหงุดหงิดในความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้ เอาละสิ หาเรื่องแล้วมั้ยล่ะ...
“เฮ้ย!” เบี่ยงหลบ “มาทุบตีผมทำไม ผมเจ็บนะ” ลูบแขนที่โดนหมัดเล็กกระหน่ำป้อยๆ หล่อนไม่ตอบกลับแหกปากร้องดังกว่าเก่า แต่ครั้งนี้หล่อนไม่ได้พากำปั้นมาอย่างเดียว เพราะแถมกรงเล็บที่ยาวกางออกมา กะว่าให้หนังหลุดติดเล็บไปด้วย ผลที่ได้ความรู้สึกแสบตามแขน และคอ ผิวหนังบนใบหน้าหล่อเหลาได้เป็นของแถมติดเล็บไปด้วยเช่นกัน
บ้าจริงหล่อนเอาแรงมาแต่ไหน?...ร้องถามในใจรีบหลบมือเรียวที่ง้างขึ้นมาอีก