บทที่4 แผนการ

1015 คำ
เกือบสามสัปดาห์ที่ต้องอยู่ห้องด้วยความเบื่อหน่ายร่วมกับเพื่อนร่วมห้องไม่ได้รับเชิญ ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดภาคเรียนที่สองของปีสุดท้าย อย่างน้อยตอนกลางวันก็ไม่ต้องวิ่งหาที่สิงสถิตเหมือนที่ผ่านมาอีก “สีหน้ามึงเหมือนพึ่งหลุดออกจากปีชง” น้ำเสียงเยาะเย้ยขบขันของอินทัชดังขึ้นทันที่เห็นหน้าเพื่อนเดินผิวปากเดินล้วงกระเป๋าเข้ามา “โชคดีแค่ไหนที่ไม่ได้เรียนมอเดียวกัน” พรูฟทิ้งตัวลงนั่งม้านั่งตัวที่ว่างแล้วพูดด้วยความอารมณ์ดีเหมือนได้ชีวิตใหม่เพียงแค่ออกจากห้อง ห้องที่เป็นของกู! “น่าเสียดาย” นักรบพูดอย่างไม่จริงจัง “เอาไปดูแลแทนกูไหมล่ะ” ถ้าเสียดายนักเอาไปเลี้ยงดูเองเลย ส่วนค่าใช้จ่ายเดี๋ยวออกให้ทุกบาท “กูเกรงใจ” “มึงก็ลองควงสาวไปคั่วกลางห้องดูสิ บางทีเธออาจจะตกใจวิ่งหนีไปก็ได้” เพราะดูไปแล้วเหมือนจะไร้เดียงสาและไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามา หากได้เห็นตำตาซึ่งหน้า คงช็อกแน่ “ก็น่าสน” ปกติเขาไม่เคยพาใครไปคั่วที่ห้องเลยนอกจากผู้หญิงที่เขาเคยคบเป็นแฟนแค่คนเดียว แต่ถ้ามันทำให้เมษาตกใจกลัวได้ก็น่าสน “คืนนี้เลยดีกว่า” แค่คิดว่าเธอจะวิ่งหางจุกตูดเขาก็ไม่รอช้าที่จะเล่นสนุกกับเธอ “กูอยากเห็นหน้าเธอว่ะ” แม้แต่อินทัชที่แค่คิดก็ยังสนุกด้วยอีกคน “ไว้กูเล่าให้ฟังนะ” ตบไหล่เพื่อนอย่างไม่เชิญให้ไปร่วมสนุกด้วยก่อนจะลุกนำมันเข้าห้องเรียนไปอย่างอารมณ์ดี เฝ้ารอถึงค่ำคืนนี้จนแทบทนไม่ไหว คลาสเรียนของวันสิ้นสุดลง พรูฟเดินล้วงกระเป๋าออกมาด้วยท่าทางสดใสอย่างเห็นได้ชัด เล่นเอาเพื่อนนึกหมั่นไส้ไม่น้อย “ถ้าทำไม่สำเร็จกูจะสมน้ำหน้าคนแรก” อินทัชว่าให้เพื่อนที่หวังล่วงหน้าจนน่าหมั่นไส้ “ถ้าเธอยังกล้าทนก็ต้องยอมรับเธอแล้วแหละ” เพราะเขาไม่เคยพูดดีกับเธอก็ยังทนได้ ไม่เคยทำดีกับเธอก็ยังมองข้ามได้ แล้วนี่ถ้าเอาผู้หญิงต่อหน้าเธอแล้วยังทนได้อีก คนที่ต้องยอมแพ้ต้องเป็นเขาแล้วแหละ ดีไม่ดีต้องเป็นฝ่ายย้ายออกจากห้องตัวเอง แล้วมาหาที่เช่าอยู่เองชั่วคราวแล้ว “มาพนันกันไหมล่ะ” นักรบเสนอขึ้น “กูว่าเธอทนได้” “กูว่าไม่” อินทัชเลือก “กูก็ว่าไม่” พรูฟมั่นใจว่าครั้งนี้เขาจะทำให้เธอออกจากห้องเขาได้ ยังไงก็ต้องได้ “ห้าหมื่น” เงินเดิมพันที่วาง ซึ่งถ้านักรบแพ้ก็จะเสียให้มากกว่า “ตามนั้น” ถือเป็นอันรับรู้กัน เมื่อออกจากลิฟท์เขากับเพื่อนก็ยังไม่ได้แยกย้ายกันกลับ พากันตรงไปยังโรงอาหารรวมเพื่อนั่งเล่นส่องสาวแก้เบื่อ ยังไงก็ดีกว่าต้องกลับห้องไปโดยไม่รู้ว่าจะเจอกับเพื่อนร่วมห้องน่าหดหู่ตอนไหน “เชี้ย! นางฟ้าชัดๆ” หลังก้าวเข้ามาในโรงอาหารเสียงของอินทัชก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของเพื่อนได้อย่างดี “ไหน” พรูฟหันมองตามสายตาของเพื่อน “เชี้ย! แม่ของลูกเลย” ไม่พูดเปล่า ขายาวของคนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดก้าวตรงไปยังเป้าหมายโดยไม่ปรึกษาเพื่อนแม้แต่คำเดียว “ไอ้เหี้ยพรูฟกูเห็นก่อน!” เสียงอินทัชดังไล่หลังก่อนจะรีบตามมา แต่ใครสน ใครเร็วใครได้ ใครดีใครได้เว้ย! ปึ่ก! เดินไปหยุดด้านหลังสาวสวยก่อนจะทำอกแกร่งชนไหล่บางอย่างไม่ตั้งใจ “อ๊ะ!” แค่เสียงร้องก็เล่นเอาเสียวไปที่ท้องน้อยจนขนลุกแล้ว “เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ” ถามขึ้นทันทีก่อนคนถูกชนจะหันกลับมามอง แม่งเอ้ย! ยิ่งเห็นชัดๆ ใกล้ๆ ยิ่งสวยสะกดจนแทบลืมหายใจ ดวงตากลมแต่หางตายกทำให้ดูใสและเฉี่ยวไปในตัว จมูกโด่งเป็นสันปลายรั้นเหมือนคนดื้อดึงจนน่าจับตี ปากอิ่มเป็นทรงจนดูน่าจูบ ใบหน้าเรียวเล็กจนอยากสัมผัส อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจรูปร่างของเธอต่อ ความนูนเนื้อของทรงเต้าที่เด่นชัดภายใต้เสื้อนักศึกษาพอดีตัวชวนให้อยากยกมือขึ้นไปวัดขนาดความนุ่ม เอวบางจากการถูกรัดของขอบกระโปรงชวนให้นึกถึงตอนถูกรวบรั้ง สะโพกที่ผายออกจากเอวจนนึกคันฝ่ามือ แล้วดูขาเรียวขาวเหมือนน้ำนมที่โผล่ออกจากกระโปรงตัวสั้นนั่นดู ถ้าได้จับพาดบ่าจะฟินแค่ไหนวะ “ไม่เจ็บค่ะ” เสียงใสแต่เซ็กซี่ตอบกลับออกมาชวนให้จั๊กจี้รูหู มันฟังดูคุ้นหูแต่เหมือนไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน “ชั่วนะมึง!” อินทัชกระแทกไหล่เขาแล้วว่าออกมา “อยู่ปีไหนครับ” แต่ใครสนเพื่อนน่ารำคาญบ้างล่ะ ในเมื่อมีสาวงามดึงดูสายตาอยู่แค่เอื้อม “ปีสามค่ะ” “ทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลยล่ะ” แม้ว่าปีที่แล้วเขาจะหวงเนื้อหวงตัวเพราะมีแฟน แต่ก็มั่นใจว่าสาวสวยๆ ไม่เคยรอดพ้นสายตา แต่ทำไมคนสวยขนาดนี้กลับไม่เคยเห็น ไม่คุ้นหน้ามาก่อน “พึ่งย้ายมาค่ะ” เธอตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้าวไปแล้วทำการสั่งอาหาร “เอาเหมือนกันสองจานเลยนะครับ” เขาบอกแม่ค้าขึ้นอย่างไม่เสียเวลาคิด อยากเอาเวลามาสนใจสาวสวยมากกว่า “พี่ชื่อพรูฟนะ แล้วน้องล่ะ” ไม่รอช้าจะทำความรู้จักทันที ไม่ยอมเสียเวลาและเสียโอกาสเด็ดขาด ยังไงเขาก็ต้องได้คนนี้เป็นแม่ของลูก “เมค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม