“ถามจริง จะไปชุดนี้?” เสียงขวัญข้าวมองหน้าเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กของตัวเองขึ้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อพร้อมกับจ้องมองไปยังชุดที่ใบบัวสวมใส่อยู่ที่มันดูปกปิดมิดชิดราวกับอยู่ในฤดูหนาวยังไงยังงั้น
“อืม” เจ้าของใบหน้าเรียวใสก็พยักหน้าตอบคนเป็นเพื่อนกลับด้วยแววตาไม่เข้าใจกับท่าทีของขวัญข้าวที่ดูไม่โอเคกับชุดที่เธอกำลังใส่อยู่
“ไปเปลี่ยนเหอะบัว มันดูเหมือนสมุนโจรเลยอะ”
“จริงเหรอ...มันก็ปกติดีนะ”
“คือมันก็ปกติ แต่เขาไม่ใส่อะไรแบบนี้ไปร้านเหล้ากันไง เธอบ้าไปแล้วเหรอ แล้วในนั้นก็ไม่ได้เย็นเลย อยากเป็นลมในร้านเหล้าหรือไง” ขวัญข้าวบอกพร้อมกับจับมือเล็กของเพื่อนเดินตรงเข้าไปยังห้องของร่างบางอีกครั้งเพื่อให้ใบบัวได้เปลี่ยนชุดที่ดูน่ามองมากขึ้นกว่าเดิม
“ให้ตายเถอะ ชุดแต่ละชุดของเธอนี่นะ” ร่างบางหุ่นดีในชุดเสื้อครอปเห็นหน้าท้องกางเกงยีนเอวต่ำเอ่ยพร้อมกับนั่งหาชุดในห้องของเพื่อนตัวเองไปพร้อมกับบ่นออกมาไม่หยุดกับความใบบัวที่เป็นสาวหวานที่มีแต่ชุดสีหวานปกปิดมิดชิด
“หาชุดแซ่บๆ ยากกว่าหาทองอีก” ขวัญข้าวยังคงบ่นไม่หยุดปากก่อนที่จะหยิบชุดๆ หนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้าของใบบัว ซึ่งก็คือชุดเดรสแขนกุดที่ดูเหมาะกับที่จะไปร้านเหล้าที่สุด
“ใส่ตัวนี้ดีกว่า อย่างน้อย...ก็ดีกว่าชุดจำศีลนั่น” ขวัญข้าวบอก
“อืม” ใบบัวเองก็พยักหน้ารับรู้ทำตามที่คนเป็นเพื่อนบอกอย่างง่ายดาย โดยชุดที่ขวัญข้าวเลือกมานั้นก็เป็นหนึ่งในชุดโปรดของเธอเช่นกัน
แอ๊ดดด ~
ไม่นานร่างบางในชุดเดรสน่ารักก็เดินออกมา ความยาวของกระโปรงอยู่ที่ประมาณเหนือเข่าขึ้นมาหน่อยทำให้ชุดเดรสนี้ดูน่ารักสมวัยเหมาะกับการไปเที่ยวได้ทุกสถานที่
“เฮ้อ ค่อยดีขึ้นมาหน่อย” ขวัญข้าวเอ่ยพร้อมกับเดินตรงไปยังเพื่อนตัวเล็กที่ยืนอยู่
“เติมหน้าอีกหน่อยดีไหม เดี๋ยวฉัน...”
“มะ...ไม่ดีกว่า” ริมฝีปากบางอมชมพูรีบตอบกลับคนตรงหน้าออกไปทันควัน ทำเอาขวัญข้าวชะงักไปด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย ต่างจากใบบัวที่นึกถึงคำพูดของใครบางคนที่ฉายเข้ามาในหัวของเธอ
‘แล้วก็อย่าแต่งหน้าเหมือนตูดลิงด้วย มันตลก’
“เราไม่อยากเหมือนตูดลิง” ปากเล็กเผลอพึมพำออกมาด้วยสีหน้าหงอยลงไปเล็กน้อย
“ฮะ” ขวัญข้าวที่ได้ยินไม่ถนัดก็มองหน้าเอ่ยถามเพื่อนขึ้น
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก” ใบบัวจึงได้สติตอบปัดๆ กลับไป
“แล้วจะไม่แต่งหน้าเพิ่มจริงดิ เดี๋ยวเธอก็โดนตรวจบัตรอีก หาว่าแอบทำบัตรประชาชนปลอม” ขวัญข้าวเอ่ยด้วยความรู้สึกปลงชินไปกับการพาใบบัวไปเที่ยวสถานที่บันเทิงตอนกลางคืนเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความที่ใบบัวตัวเล็กและหน้าค่อนข้างใสราวกับเด็กอายุไม่ถึงทำให้มักจะโดนหาว่าทำบัตรปลอมอยู่เป็นประจำ
“ช่างเถอะ ก็เราบริสุทธิ์ใจนี่นา ไม่ได้ปลอมซะหน่อย” เจ้าของใบหน้าเรียวใสตอบกลับ
“อ่าๆ งั้นไปกันเถอะ พวกนั้นส่งข้อความตามไม่หยุดแล้ว”
“อืม” รอยยิ้มหวานสดใสก็ยิ้มพยักหน้าตอบคนเป็นเพื่อนไปก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินออกจากห้องหอพักขนาดเล็กเพื่อลงไปเรียกรถแท็กซี่ตรงไปยังร้านเหล้าชื่อดังที่ขึ้นชื่อที่สุดในระแวกมหาวิทยาลัยที่พวกเขาเรียนอยู่
“เออบัว ถามอะไรหน่อยสิ” เสียงขวัญข้าวเอ่ยถามขึ้นขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งอยู่บนรถแท็กซี่
“ฮะ” ใบบัวก็ขานรับมองหน้าเพื่อนสีหน้าสงสัย
“ทำไมวันนี้อยู่ๆ แทนไทไม่ไปกินข้าวกับพวกฉันอะ”
“อะ เอ่อ...ไม่รู้เหมือนกันอะ แทนไทไม่ได้บอกอะไรเลย”
“มันเป็นบ้าอะไรของมัน แล้วนัดไว้ไปซะดิบดี...”
“...อยู่กันแค่ฝั่งตรงข้ามเอง”
“ฮะ...แค่ฝั่งตรงข้ามเหรอ?” ดวงตากลมโตหันไปมองหน้าถามคนด้านข้าง
“ก็ใช่น่ะสิ! บ้าบอมาก โคตรเอาแต่ใจ” ขวัญข้าวก็บ่นออกมาอย่างไม่จริงจังตามประสาของเธอ ผิดกับคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งเผลอคิดอะไรไปในหัวของตัวเอง
“เฮ้! ทำไมเงียบไปล่ะ” เสียงแหลมดังขึ้นทำให้ใบบัวที่กำลังเผลอคิดอะไรอยู่ได้สติ
“อะ อ่อ ก็แค่...คิดอะไรเล่นไปเรื่อยน่ะ” เจ้าของใบหน้าเรียวใสตอบกลับคนเป็นเพื่อนไปด้วยรอยยิ้มจางๆ โดยใช้เวลาไม่นานรถแท็กซี่ก็ถูกขับเข้ามาจอดยังบริเวณหน้าร้านเหล้าชื่อดัง แล้วสองสาวก็พากันจ่ายเงินเดินลงจากรถด้วยท่าทีปกติ
“คนเยอะนะเนี่ยวันนี้...” ขวัญข้าวเอ่ยก่อนที่สายตาของร่างบางหุ่นดีจะเหลือบสายตาไปเห็นร่างสูงคุ้นเคยที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่บริเวณข้างด้าน
“เอ๊ะ นั่นมัน...แทนไทนี่” ทันทีที่ริมฝีปากบางสีแดงอ่อนพูดจบ คนตัวเล็กที่ได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองตามเพื่อนก่อนที่จะเห็นว่าคนที่ขวัญข้าวบอกคือเพื่อนตัวสูงจริงๆ
“ดีเลย ไปหาหมอนั่นกัน” พูดจบ ขวัญข้าวก็คว้าแขนเล็กของใบบัวเดินตรงไปยังแทนไทที่ยืนสูบบุหรี่อยู่
“แทนไท” เสียงแหลมเอ่ยเรียกร่างสูงขึ้นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อนิ่งหันมองตามเสียง แล้วก็ต้องนิ่งไปกว่าเดิม
“นั่งโต๊ะไหนกันอะ” ขวัญข้าวถามขึ้นอย่างไม่สนใจอะไร ต่างจากใบบัวที่เผลอก้มหน้าลงไปกับสายตาคมที่จ้องมองมายังเธอจนเธอรู้สึกได้
“โซนB โต๊ะหก” ริมฝีปากหนาตอบกลับโดยที่สายตายังคงมองไปที่เพื่อนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้าอยู่ไม่หยุด
“วันนี้อยู่โซนธรรมดากันเหรอ” ขวัญข้าวถาม
“อือ” เจ้าของใบหน้าหล่อนิ่งก็พยักหน้าขานตอบเสียงเรียบ ทำให้ขวัญข้าวรับรู้ก่อนจะหันไปเอ่ยบอกใบบัวที่ยืนอยู่
“ไปกันเถอะบัว” ขณะที่หญิงสาวหุ่นดีกำลังจะคว้ามือเล็กพาเพื่อนสนิทตัวเองเดินออกไป
“เดี๋ยว” เสียงทุ้มต่ำของร่างสูงที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ก็เอ่ยเรียกทั้งสองไว้ขึ้น
“...” ขวัญข้าวจึงหันไปมองหน้าเพื่อนตัวสูงตรงหน้าสีหน้างุนงง
“ไปด้วยกัน” พูดจบ มือหนาก็จัดการโยนก้นบุหรี่ทิ้งมองหน้าร่างบางสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านิ่ง
“อ่อ อืม” ขวัญข้าวก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินนำพาใบบัวเดินตรงเข้าไปยังตรงโต๊ะโซนที่แทนไทบอกไปด้วยท่าทีปกติอย่างเคยชิน เพราะตัวเธอเองก็มาดื่มที่นี่อยู่บ่อยครั้งกับพวกเซอร์เวย์ กิต แล้วก็แทนไท ส่วนใบบัวจะมาแค่นานๆ ครั้งวันที่มีวันพิเศษๆ เท่านั้น
ตึก
ตึก
เสียงทั้งสามเดินตรงเข้าไปยังด้านในที่ค่อนข้างเบียดกันอยู่ไม่น้อยโดยที่ด้านหลังของใบบัวก็เป็นร่างสูงของแทนไทที่คอยกันมือเล็กมือน้อยออกจากเพื่อนตัวเล็กตรงหน้าอยู่เงียบๆ ด้วยสีหน้าเริ่มแสดงออกมาถึงความรู้สึกไม่สบอารมณ์
“โอ๊ย! คนเยอะมาก เบียดโคตร” ทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะที่มีกิตกับเซอร์เวย์นั่งอยู่ ขวัญข้าวก็บ่นหน้าหงิกออกมาด้วยความรู้สึกรำคาญใจกับความวุ่นวายที่กว่าจะฝ่าฝูงคนเข้ามาได้
“กูบอกมึงแล้วไอ้เหี้ยกิตว่าอย่าห้าวเลือกโซนธรรมดาวันนี้ เพราะเดี๋ยวยัยนี่ก็บ่นไม่หยุด ไม่เชื่อกู” เซอร์เวย์พูดขึ้น
“เงียบไปเลย นายอะ!” ขวัญข้าวหันไปพูดใส่เซอร์เวย์เสียงดังก่อนที่ทั้งสองจะยืนทำหน้าทำตาใส่กันอย่างที่มักจะถกเถียงกันทุกเรื่องเป็นประจำ ซึ่งใบบัวก็ลอบหัวเราะยิ้มออกมากับความน่ารักของเพื่อนทั้งสองของตัวเอง แต่ทว่า...
“บอกแล้วไม่ใช่เหรอให้แต่งตัวดีๆ มา” เสียงทุ้มของชายร่างสูงเจ้าของความสูงร้อยแปดสิบแปดที่ยืนอยู่ด้านข้างคนตัวเล็กก้มลงเอ่ยพูดกับร่างบางน้ำเสียงเข้มนิ่ง
“นะ...นี่ก็ดีสุดแล้วนะ ขวัญข้าว...”
“โชว์แขนขนาดนี้น่ะเหรอดี?”
“...” ใบบัวก็นิ่งไม่กล้าตอบกลับอะไรเพื่อนตัวสูง
“เมื่อกี้เธอโดนผู้ชายพยายามแตะแขนกี่คน รู้ตัวบ้างไหม”
“มะ...มีด้วยเหรอ” ใบหน้าเรียวเล็กถามพร้อมกับเผลอเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองยังคนตัวสูงที่ยืนอยู่
“...” แทนไทก็เงียบไม่ตอบเอาแต่ใช้สายตาคมจ้องมองหน้าเพื่อนตัวเล็กนิ่ง ดวงตากลมโตที่เห็นแบบนั้นก็ชะงักก้มหน้าลงมองพื้น
“เราจะระวังตัวกว่านี้แล้วกันนะ”
“อย่า”
“หื้อ?” ใบบัวก็เงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้าแววตางุนงงไม่เข้าใจ
“อย่าอยู่ห่างฉันที่นี่...มันไม่ปลอดภัยสำหรับคนอย่างเธอ” ทันทีที่ริมฝีปากหนาพูดจบ ร่างบางในชุดเดรสน่ารักที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักนิ่งไป
“เข้าใจไหม”
“อะ...อืม เข้าใจ” คนตัวเล็กก็พยักหน้ารับรู้โดยที่หัวใจของหญิงสาวนั้นเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งไปกับคำพูดของอีกคนที่ดูเหมือนห่วงใยเธอ...
“...” รอยยิ้มหวานสดใสค่อยๆ เผยออกมาบนใบหน้าเรียวใส จนทำให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ชะงักนิ่งไปกับรอยยิ้มตาหยีนั้น
“จะยิ้มทำไม” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับเบือนสายตาหนีไปทางอื่นด้วยสีหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร ใบบัวที่โดนอีกคนทักก็ได้แต่ยืนทำหน้างงค่อยๆ หุบยิ้มลงแต่ก็ยังคงมีสีหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมากอยู่ดี
“บัว ของเธอ” เสียงขวัญข้าวเอ่ยเรียกเพื่อนสนิทก่อนจะหยิบแก้วค็อกเทลมาวางลงตรงหน้าคนตัวเล็กเพราะรู้ดีว่าบัวกินแอลกอฮอล์แบบหนักๆ อย่างพวกเธอไม่ได้
“อืม ขอบคุณนะ” ใบบัวก็ส่งยิ้มตาหยีตอบเพื่อนตัวเองไปพร้อมกับหยิบแก้วค็อกเทลขึ้นมาหมายจะจิบชิม แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกใจกับมือหนาของใครอีกคนที่เลื่อนเข้ามาจับมือเล็กของเธอไว้ซะก่อน
“...” ดวงตากลมโตก็ชะงักมองหน้าเจ้าของมือหนาสีหน้างุนงง
“อย่ากินเยอะ”
“ฮะ”
“ขี้เกียจแบก”
“อะ อ่อ...เราไม่ได้จะกินจนเมาขนาดนั้นหรอก แทนไทอย่าห่วงเลย” รอยยิ้มหวานบอกเพื่อนตัวสูงออกไปน้ำเสียงสดใส
“อืม ก็ดีแล้ว” ริมฝีปากหนาก็ตอบกลับเสียงนิ่งก่อนจะยอมปล่อยให้อีกคนได้จิบชิมค็อกเทลในมือราวกับเด็กกำลังตื่นเต้นกับขนมที่นานๆ ได้กินที
“อร่อยนะเนี่ย~” เสียงหวานยิ้มเอ่ยออกมาด้วยความน่าเอ็นดูทำเอาร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้นชะงักไปเล็กน้อยกับท่าทีพวกนั้นแต่ก็ยังคงทำเป็นนิ่งเหมือนคนที่ไม่ได้สนใจอะไร...โดยที่ก็ไม่ปล่อยให้ใครอีกคนคลาดสายตาเลยแม้แต่น้อย