บทที่ 14
เป็นที่สนใจ
เช้าวันต่อมาในห้องนอน..
เมื่อกินอาหารเช้าแล้ว อ้ายเหรินก็พาเหม่ยเหมยไปแต่งตัวด้วยชุดที่เธอออกแบบ..
“พี่รอง นี่ฉันใส่พอดีตัวเลยค่ะ” เหม่ยเหมยทำเพียงแค่เหลือบตามองตัวเองในกระจก เธอเชื่อฟังเมื่อพี่สาวบอกให้ยืนนิ่งๆ
“ทุกชุดเหมาะกับเธอมากเหม่ยเหมย” อ้ายเหรินยืนอยู่ข้างหลัง เธอมองน้องสาวผ่านกระจก
“ลงไปข้างล่างกันเถอะพี่รอง ฉันอยากให้คุณพ่อคุณแม่และพี่ใหญ่เห็นชุดที่ฉันใส่ค่ะ” เหม่ยเหมยก็มองพี่สาวผ่านกระจก
เธอยังยืนให้พี่สาวถักผมเปียสองข้างทรงใหม่แบบเกลียว ซึ่งผมทรงแบบนี้ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แม้แต่ในโทรทัศน์ เธอก็ไม่คุ้นตาเลย
“ไปสิ”
อ้ายเหรินเมื่อถักผมให้น้องเสร็จแล้ว เธอก็พยักหน้าให้น้อง ที่เดินนำหน้า ซึ่งเธอก็เดินตาม โดยที่ไม่ลืมหยิบเอากระเป๋าหูรูดที่เธอเย็บให้เข้ากับชุดที่น้องสาวใส่…
ในห้องนั่งเล่น..
อ้ายเหรินพาน้องสาวลงมาข้างล่าง แล้วเดินเข้าไปในห้องรับแขกซึ่งทุกคนที่นั่งรออยู่ เมื่อเห็นเหม่ยเหมย ก็พากันมองตาไม่กะพริบ
“เหม่ยเหมย แต่งตัวอย่างนี้แล้วดูดีมากลูก” พ่อหลิวเอ่ยชมลูกสาวคนเล็ก และมองลูกสาวคนรองด้วยสายตาภาคภูมิใจ
“สวยมากเลยลูกแม่” แม่หลิวสำรวจความลงตัวของชุดที่อยู่บนตัวของลูกสาวคนเล็กอย่างไม่เชื่อสายตา ซึ่งนางก็ดึงลูกสาวคนเล็กเข้ามากอด
แม่หลิวพยักหน้ายอมรับแล้ว ว่าลูกสาวคนรองออกแบบชุดกี่เพ้าแขนยาวลายดอกโบตั๋นให้เหม่ยเหมยได้พอดี และสีชมพูของผ้าก็เหมาะกับเหม่ยเหมยเป็นอย่างมาก
“พี่รองเลยค่ะ” เหม่ยเหมยบอกพ่อแม่ แล้วหันไปมองพี่สาว
“เก่งมากอ้ายเหริน” และทุกคนก็พร้อมใจกันหันไปมองและเอ่ย ชื่นชมอ้ายเหริน
“แม่ภูมิใจในตัวลูกมากเลยนะอ้ายเหริน” แม่หลิวอ้าแขนให้ลูกสาวคนรองเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้หนูค่ะ”
อ้ายเหรินบอกแม่เมื่อได้เข้าไปยืนอยู่ในอ้อมกอดของแม่ ซึ่งเธอเองก็ดีใจที่จะใช้วิชาติดตัวมาช่วยครอบครัว
“เอาละๆ พ่อว่าจี้หยวนรีบพาน้องไปเรียนได้แล้ว” พ่อหลิวที่ยืนยิ้มอยู่ก็พูดขึ้น
“จริงด้วยค่ะ พี่ใหญ่รีบพาเหม่ยเหมยไปเรียนเถอะ นี่ก็สายมากแล้วด้วย” อ้ายเหรินเห็นด้วยกับพ่อหลิว
“ถ้าอย่างนั้นผมกับน้องเล็กไปก่อนนะครับ”
จี้หยวนยิ้มให้น้องรองเมื่อเอ่ยบอกพ่อกับแม่ แล้วเดินถือกระเป๋าทำงานไปใส่รองเท้าตรงประตู
“ไปเถอะ” พ่อหลิวจึงพยักหน้าให้ลูกชาย แล้วจูงมือภรรยาเดินตามลูกๆ ไปที่ประตู..
จี้หยวนและเหม่ยเหมยกำลังจะเดินออกจากบ้าน ก็ต้องหยุด เมื่อ..
“เหม่ยเหมย เดี๋ยว” อ้ายเหรินเรียกน้องเล็ก เมื่อนึกได้ว่าลืมให้อะไรสักอย่าง
“พี่รองมีอะไรคะ” เหม่ยเหมยถาม
“นี่เป็นกระเป๋าใส่ของ” อ้ายเหรินยื่นกระเป๋าที่เธอออกแบบเองให้น้องสาว
“พี่รอง ทำไมสวยจังค่ะ เข้ากับชุดที่ฉันใส่มากเลย” เหม่ยเหมยเอากระเป๋ามาทาบกับชุดที่ตัดเย็บอย่างทันสมัย
“ทำไมลูกแม่เก่งอย่างนี้นะ เย็บกระเป๋า ออกแบบเสื้อผ้า และยังทำอาหารเป็นอีก” แม่หลิวชื่นชมโดยการลูบหลังปอยๆ ของลูกสาวคนรอง
“หนูก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอกค่ะ แค่ศึกษาอ่านในหนังสือเอาค่ะ”
อ้ายเหรินยิ้มให้ทุกคน เมื่อเธอต้องโกหกทุกคนอีกครั้ง
“อ้ายเหริน ถ้าอยากให้พี่เป็นนายแบบก็บอกพี่นะ”
ด้านจี้หยวนก้มมองดูหุ่นบึกบึนของตัวเอง แล้วบอกน้องรองให้มองเขาบ้าง
“ค่ะ ฉันต้องพึ่งพี่ใหญ่แน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ”
อ้ายเหรินบอกพี่ใหญ่ แล้วเดินตามทุกคนออกจากบ้าน เพื่อไปส่ง จี้หยวนและเหม่ยเหมยที่รถ
“รีบไปเถอะจี้หยวน เดี๋ยวก็เข้างานสาย นี่ต้องแวะส่งเหม่ยเหม่ยที่มหาวิทยาลัยอีก” พ่อหลิวบอกลูกชายให้รีบไปทำงาน
“ครับพ่อ แม่ผมไปนะครับ” จี้หยวนก็ขานรับ แล้วก่อนที่จะขึ้นไปนั่งบนรถเขาก็ก้มหัวให้แม่
“ขับรถดีๆ นะจี้หยวน” แม่หลิวที่ยืนเกาะแขนของอ้ายเหรินก็ โบกมือให้ลูกชายและลูกสาวคนเล็ก
“ครับ” จี้หยวนพยักหน้าให้แม่ แล้วขับรถออกไปยังถนนใหญ่ พาน้องเล็กไปมหาวิทยาลัยก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ไปค่ายทหาร…
เมื่อลูกชายคนโตและคนเล็กไปแล้ว พ่อหลิว แม่หลิวก็หันมามองหน้ากัน ซึ่งเป็นแม่หลิวเองที่พูดกับลูกสาวคนรองว่า
“วันนี้พ่อกับแม่จะไปโรงงานนะอ้ายเหริน”
“ค่ะ เดี๋ยวหนูจะอยู่บ้านเอง” อ้ายเหรินยิ้มให้พ่อและแม่
“ลูกอยากได้อะไรหรือเปล่า” แม่หลิวถามเผื่อว่าลูกสาวอยากได้อะไรเป็นพิเศษ นางจะได้หามาให้
“ไม่ค่ะ” อ้ายเหรินส่ายหน้าและมีท่าทีอึกอัก อยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูด
“มีอะไรหรือเปล่าอ้ายเหริน” เมื่อเห็นลูกสาวมีท่าทางอยากจะพูดอะไร พ่อหลิวจึงเปิดโอกาสให้ลูกได้พูด
“ค่อยๆ แก้ปัญหาไปนะคะ หนูจะช่วยคุณพ่อคุณแม่อีกแรงค่ะ”
อ้ายเหรินให้กำลังใจพ่อและแม่ เพราะเธอรู้ว่าพ่อแม่ต้องไปโรงงานทุกวัน ก็คงจะไปแก้ปัญหาเรื่องหนี้สินนั่นแน่
“มีลูกให้กำลังใจแบบนี้ รับรองพ่อกับแม่ต้องแก้ปัญหาได้แน่นอน อ้ายเหรินไม่ต้องห่วงนะ”
พ่อหลิวกับแม่หลิวพร้อมใจพูดพร้อมกัน แล้วหันไปยิ้มให้ลูกสาว
“สู้ๆ นะคะ” อ้ายเหรินบอกพ่อและแม่ แล้วเป็นคนถือกระเป๋าให้ แม่และพ่อเดินไปส่งพ่อแม่ที่รถ
“อื้อ อยู่บ้านดีๆ นะลูก” แม่หลิวบอกลูกสาวก่อนที่จะขึ้นรถตาม พ่อหลิว
“ค่ะ” อ้ายเหรินช่วยปิดประตูรถให้แม่ แล้วขยับมายืนข้างทาง
ซึ่งเธอโบกมือให้พ่อแม่ที่นั่งอยู่เบาะรถด้านหลัง และเป็นลุงจือ นั่นแหละที่ขับรถให้พ่อและแม่…
*****
ที่มหาวิทยาลัย..หลิวเหม่ยเหมยเดินเข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัยก็ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน เนื่องจากชุดที่เธอใส่มา ทำให้เธอเหมือนเจ้าหญิงของ เทพเจ้าเดินบนดินมาก ผู้หญิงหลายคนก็มองชุดที่เธอใส่ด้วยสายตาอิจฉาและอยากรู้ ซึ่งหลิวเหม่ยเหมยก็แอบยิ้มในใจ
เธอเดินเข้ามานั่งรอเพื่อนๆ ด้านในของคณะเหมือนทุกวัน และไม่ถึงสิบนาที เหม่ยเหมยก็หันหลังไปมอง เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกเธอ
“เหม่ยเหมย” อิงอิงเข้ามาพร้อมกับมองสำรวจเพื่อนด้วยสายตาแปลกใจ
“อิงอิง” หลิวเหม่ยเหมยโบกมือและยิ้มให้กับเพื่อนสนิท
“ฉันก็ว่าทำไมผู้หญิงพวกนั้นถึงฮือฮาอะไรกัน”
อิงอิงพูดแล้วมานั่งข้างๆ เหม่ยเหมย พร้อมทั้งชายตามองไปทางหนึ่ง ที่มีสายตาหลายคู่มองเหม่ยเหมยอย่างชื่นชม
“ทำไมเหรอ” เหม่ยเหมยทำหน้าใส่ซื่อเมื่อถามเพื่อน
“ก็ชุดที่เธอใส่มาวันนี้นี่ไง ว่าแต่เธอซื้อมาจากที่ไหนเหรอ” อิงอิง จีบปากจีบคอถามเพื่อน
“เอ่อ” เหม่ยเหมยรู้สึกหัวใจฟูฟองขึ้นมา แต่ก็แสร้งทำเป็นลำบากใจตามที่พี่สาวบอกมา เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้พี่สาว
“ว่ายังไง ชุดนี้เธอไปซื้อมาจากไหน เธอรู้ไหม ตอนที่ฉันเดินมาหาเธอ ยัยเจียลี่อะไรนั่นก็เรียกฉันไปถาม”
อิงอิงบอกเพื่อนว่าเพื่อนกลุ่มนั้นอยากรู้เรื่องชุดของเหม่ยเหมย แต่เธอก็ไม่รู้ จึงอยากมาเห็นกับตา ว่าชุดที่พวกนั้นถามเอาจากเธอ จะสวยจริงไหม และสิ่งที่เธอเห็น คือชุดของเหม่ยเหมยวันนี้สวยหรูและดูแพงทันสมัยมาก
“ชุดนี้เหรอ พี่สาวฉันออกแบบและทำให้น่ะ” เหม่ยเหมยบอกด้วยท่าทางสบายๆ
“พี่สาวเธอเหรอ” อิงอิงขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะไม่เชื่อคำพูดของเหม่ยเหมย
“ใช่ พี่สาวฉันเอง” เหม่ยเหมยพยักหน้าที่ดูจะภูมิใจในตัวพี่สาวเป็นที่สุด
“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าพี่สาวเธอเก่งเรื่องแบบนี้”
อิงอิงทำหน้างงกับคำพูดของเพื่อน เพราะเธอสนิทกับหลิวเหม่ยเหมยมานาน พอจะรู้นิสัยของอ้ายเหรินพอสมควรว่าเป็นอย่างไร
จากที่เจอกันหลายครั้ง นึกไม่ถึงว่าคุณหนูจอมหยิ่งยโสและทำตัวสวยสง่าไปวันๆ อย่างหลิวอ้ายเหริน จะมีความสามารถแบบนี้ซ่อนอยู่
“ใช่ พี่สาวฉันเก่งสุดๆ ไปเลยใช่ไหม แล้วนี่เธอรู้ไหม พี่อ้ายเหรินออกแบบชุดให้ฉันตั้งหลายชุดด้วยนะ รวมถึงกระเป๋าหูรูดนี้ด้วย ไหนจะ ผมถักเปียทรงนี้ด้วย” เหม่ยเหมยยิ้มจนแก้มแตก เมื่อพูดสรรเสริญพี่สาวให้เพื่อนสนิทฟัง
“จริงเหรอเหม่ยเหมย”
อิงอิงมองหน้าเพื่อน และมองกระเป๋าและทรงผมแปลกๆ ทันสมัย ซึ่งเข้ากับหน้ากลมแบ๊วของเหม่ยเหมยมาก
“หลักฐานก็อยู่บนตัวฉันนี่ไง เธอจะถามย้ำทำไม”
เหม่ยเหมยบอกให้เพื่อนดูเสื้อผ้าหน้าผมของเธอ
“แล้วพี่สาวเธอรับออกแบบเสื้อผ้าให้คนอื่นด้วยหรือเปล่า”
อิงอิงถาม เพราะเธอก็อยากได้เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ทันสมัยบ้าง
“เอ่อ คือว่า…” หลิวเหม่ยเหมยแกล้งทำท่าอึกอัก แบ่งรับแบ่งสู้
“เธอถามให้ฉันหน่อยสิ ฉันก็อยากมีชุดแบบนี้ใส่เหมือนกัน” อิงอิงรบเร้าเพื่อน
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ไปที่บ้านฉันไหมล่ะ ถ้าพี่สาวฉันทำให้เธอ ก็ต้องวัดตัวก่อน แต่ไม่รับปากนะ ว่าพี่อ้ายเหรินจะยอมทำให้เธอไหม”
เหม่ยเหมยในเวลานี้หัวใจฟูฟองมาก แต่ก็เก็บอาการไว้เวลาชวนเพื่อนไปบ้าน
“ได้สิ วันนี้ฉันจะไปหาพี่สาวเธอที่บ้านของเธอ”
อิงอิงยิ้มดีใจเมื่อเพื่อนรับปากจะพาเธอไปหาอ้ายเหริน ผู้หญิงที่ดูหยิ่งยโสไม่เคยเห็นหัวใคร…