บทที่ 15
ลูกค้าชั้นดี
ที่บ้านหลิว..
หลิวเหม่ยเหมยพาเพื่อนที่มหาวิทยาลัยสี่คนมาที่บ้านด้วย มีอิงอิง ซูซาน อันฉี และฮุยอิน ซึ่งเหม่ยเหมยนั่งรถมากับอิงอิงที่มีคนขับรถให้ และเพื่อนคนอื่นๆ ก็ให้คนขับรถขับตามหลังมา..
เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านหลิว อิงอิงก็ลงจากรถเดินไปยืนข้างๆ เหม่ยเหมยเพื่อรอเพื่อนๆ ที่ต่างก็ออกจากรถเดินมาหาพวกเธอ
อิงอิงมองไปรอบบ้านของเพื่อน แล้วถามด้วยความแปลกใจ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่สาวของเพื่อนไม่ค่อยจะอยู่ติดบ้านสักเท่าไหร่นัก
“พี่สาวเธออยู่บ้านเหรอ”
“ใช่แล้วละ ช่วงนี้พี่สาวฉันอยู่ติดบ้าน ไม่ค่อยออกไปไหน”
เหม่ยเหมยตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่ถือสาคำพูดของเพื่อน เพราะปกติแล้วหลิวอ้ายเหรินจะไม่ค่อยอยู่ติดบ้านนัก แต่ทุกวันนี้แทบจะ ไม่ออกไปไหนเลย พ่อหลิว แม่หลิว พี่ชายใหญ่ และเธอจึงไม่ค่อยเป็นห่วง
ความสัมพันธ์เธอกับพี่สาว ‘ไม่สิ ความสัมพันธ์ของพี่สาวและครอบครัวก็ดีขึ้นมาก’ เหม่ยเหมยนึกในใจ เมื่อภาพทุกเช้าปรากฏขึ้น
เธอจะเห็นพี่รองทำนั่นทำนี้อยู่ในบ้าน และยังคอยตื่นแต่เช้าช่วย ป้าเจียงทำอาหารเช้า และบางวันก็ทำอาหารเย็นอร่อยๆ ให้เธอและพ่อแม่พี่ชายกินด้วย แล้วถ้าพี่รองมีเวลา ก็จะห่ออาหารให้เธอและพี่ใหญ่เอาไปกินที่ทำงาน และเธอก็เอาไปกินที่มหาวิทยาลัยด้วย
“อื้ม” อิงอิงเห็นท่าทางดีใจของเพื่อนก็ได้แต่สงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
“เข้าไปในบ้านกันเถอะ” เหม่ยเหมยชวนเพื่อนๆ เข้าบ้าน..
และช่วงเวลาเดินเข้าบ้าน ป้าเจียงแม่บ้านของตระกูลหลิวก็รีบออกมาต้อนรับคุณหนูเล็กทันที
“คุณเหม่ยเหมย” ป้าเจียงเรียกคุณหนูเล็ก
“ป้าเจียง พี่รองอยู่บ้านใช่ไหมคะ” เหม่ยเหมยถามถึงพี่สาว เพื่อความมั่นใจอีกครั้ง ว่าวันนี้หลิวอ้ายเหรินไม่ได้ออกไปไหน
“อยู่บนห้องค่ะ” ป้าเจียงรีบบอกพร้อมช่วยถือของให้คุณหนูน้อย..
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” หลิวเหม่ยเหมยยิ้มให้ป้าเจียง แล้วหันมาชวนเพื่อนๆ เข้าบ้าน..
เมื่อเข้ามาถึงห้องรับแขกของบ้านแล้ว เธอก็พาเพื่อนๆ ไปนั่ง
“พวกเธอนั่งรอก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปตามพี่อ้ายเหรินก่อน”
“อื้อ” เพื่อนทุกคนพยักหน้าให้เหม่ยเหมย
“งั้นป้าจะไปเอาของว่างมาให้เพื่อนๆ คุณเหม่ยเหมยกินนะ” ป้าเจียงที่ยืนคอยรับใช้คุณหนูเล็กก็พูดขึ้น
“ขอบคุณป้าเจียงค่ะ” เหม่ยเหมยยิ้มให้ป้าเจียง
“เดี๋ยวป้ามานะ” ป้าเจียงก็ยิ้มแล้วรีบเดินออกไปเพื่อไปเอาของว่างในครัวมาให้เพื่อนๆ ของคุณหนูเล็ก..
“ฉันไปหาพี่อ้ายเหรินก่อนนะ” เมื่อป้าเจียงไปแล้ว เหม่ยเหมยก็หันมาบอกเพื่อนๆ อีกครั้ง
“อื้ม” เพื่อนก็พยักหน้าให้เหม่ยเหมย แล้วพากันนั่งลุ้นกันว่าจะได้เจออ้ายเหรินไหม เพราะพวกเธอรู้ว่าพี่สาวของเพื่อนหยิ่งและถือตัวมาก…
หน้าห้องนอนของอ้ายเหริน..
หลิวเหม่ยเหมยยืนอยู่หน้าห้องของพี่สาว ครั้งแรกเธอจะไม่เคาะห้อง แต่พอนึกได้ว่าพี่สาวไม่ชอบให้ใครเข้าห้องก่อนได้รับอนุญาต เธอจึงยกมือเคาะประตูห้อง..
ก๊อกกก!!..
“ใครคะ”
เสียงของอ้ายเหรินที่อยู่ในห้อง ทำให้เหม่ยเหมยตื่นเต้นดีใจมาก จึงรีบบอกพี่สาวว่า “พี่รอง ฉันเองค่ะ”
“เดี๋ยวนะ” อ้ายเหรินเมื่อได้ยินเสียงของน้องสาว เธอก็วางดินสอไว้บนแผ่นกระดาษและกำชับน้องเล็กให้รอ เพราะเธอต้องเก็บอุปกรณ์ที่เอาออกมาจากมิติเข้าไปซ่อนไว้ที่เดิม
“ค่ะ” ด้านเหม่ยเหมยก็ขานรับจากข้างนอก
และไม่ถึงสิบนาทีประตูห้องของพี่สาวก็เปิด
แกรกก!!..
“เหม่ยเหมย” อ้ายเหรินทำหน้างุนงงและแปลกใจมาก ที่เห็นน้องสาวที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ที่หน้าห้อง
“พี่รอง” เหม่ยเหมยตื่นเต้นดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ เมื่อเห็นพี่สาว
“มีอะไรเหรอ”
อ้ายเหรินขมวดคิ้วเข้าหากันจนหน้าผากเป็นรอยหยัก ซึ่งเธอสงสัยเมื่อเห็นท่าทีตื่นเต้นของน้องสาว
“ฉันหาลูกค้ามาให้พี่รองได้แล้ว ตอนนี้พวกเธอรอพี่อยู่ที่ห้องรับแขกค่ะ” เหม่ยเหมยชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบชิดข้างหูของพี่สาว
“ลูกค้า” อ้ายเหรินทวนคำพูดของน้องสาวด้วยความแปลกใจ เธอ ไม่คิดเลยว่าเหม่ยเหมยจะหาลูกค้ามาให้เธอได้เร็วขนาดนี้
“อิงอิง และเพื่อนๆ ของฉันอีกสามคนค่ะ”
เหม่ยเหมยพยักหน้า เธอตื่นเต้นมากที่หาลูกค้าให้พี่สาวได้
“อื้ม”
อ้ายเหรินก็พยักหน้าให้น้อง เธอก็ดีใจมาก ที่วันแรกชุดของเธอที่ออกสู่สายตาผ่านเหม่ยเหมย จะมีคนสนใจเร็วอย่างนี้เช่นกัน
“พี่รองจะลงไปคุยกับเพื่อนๆ ของฉันไหมคะ”
เหม่ยเหมยถามพี่สาว ซึ่งที่ผ่านมาอ้ายเหรินไม่พูดคุยกับเพื่อนสนิทของเธอเลย โดยเฉพาะอิงอิง อ้ายเหรินไม่ชอบหน้าของอิงอิงเอาเสียเลย ข้อนี้เหม่ยเหมยรู้ดี
“ไปสิ” หลิวอ้ายเหรินพอจะเดาความคิดของน้องสาว
เพราะอ้ายเหรินเจ้าของร่างนี้ไม่ชอบเห็นน้องสาวมีเพื่อนสนิทที่สวยมากอย่างอิงอิง ซึ่งอ้ายเหรินคนก่อนอิจฉาเด็กรุ่นน้องนั่นเอง แต่นี่เธอคือหลิวอ้ายเหรินคนใหม่ ไม่เคยมีรู้สึกโกรธเกลียดหรืออิจฉาใครเลย เพราะเธอมั่นใจว่าตัวเธอเองก็สวยและรวยความสามารถไม่แพ้ใคร
‘หึ! ถ้ามีคนเอาเงินมาให้ถึงบ้าน ต่อให้คนคนนั้นจะทำให้เธอเกลียดมากแค่ไหน เธอจะไม่ปฏิเสธเลย ถ้าหล่อนคนนั้นเอาเงินมาให้’
อ้ายเหรินหัวเราะในลำคอเมื่อพูดคนเดียวในใจ…
ในห้องนั่งเล่น..
สองพี่น้องเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน แล้วตรงไปที่ห้องรับแขกทันที..
“พี่อ้ายเหริน”
อิงอิง ซูซาน อันฉี และฮุยอินที่นั่งรออยู่ เมื่อเห็นพี่สาวของเพื่อน พวกเธอก็รีบลุกขึ้นแล้วก้มหัวเล็กน้อย เพื่อทักทายอ้ายเหริน
“ตามสบายเถอะ” อ้ายเหรินตอบไปด้วยท่าทางสบายๆ และนั่งลงบนโซฟาตรงหน้าเพื่อนๆ ของน้องสาว
ท่าทางนั่งนิ่ง ขาไขว่ห้างของอ้ายเหริน ทำเอาอิงอิงรู้สึกทำตัวไม่ถูก เธอมองเพื่อนๆ ที่นั่งเกร็งเช่นกัน แล้วเพื่อนๆ ยังสะกิดให้เธอพูด เธอจึงรีบพูดเสียงเกรงใจว่า
“ฉันขอโทษพี่อ้ายเหรินด้วยนะคะ ที่มารบกวน”
“เหม่ยเหมยบอกว่า พวกเธอมีอะไรจะคุยกับฉันอย่างนั้นเหรอ”
อ้ายเหรินรู้ว่าอีกฝ่ายอึดอัด เธอจึงเข้าเรื่องที่อีกฝ่ายมาหาในวันนี้ทันที
“คือว่าพวกเราอยากได้ชุดแบบเหม่ยเหมยใส่ค่ะ พี่อ้ายเหรินพอจะมีหรือว่าทำให้พวกฉันได้ไหมคะ” เป็นซูซานเองที่เอ่ยขึ้น เมื่อเห็นอิงอิงเอาแต่เงียบ
“ชุดแบบเหม่ยเหมยเหรอ” อ้ายเหรินมองหน้าเพื่อนๆ ของน้องสาว แล้วยิ้มมุมปาก
“ค่ะ ถ้าพี่อ้ายเหรินทำให้พวกฉันได้ เท่าไหร่พวกฉันก็ยอมจ่าย จริงไหมพวกเธอ” อันฉีเป็นคนพูด และหันมาถามความสมัครใจของเพื่อนๆ
“จริงค่ะ พี่อ้ายเหรินช่วยทำให้พวกเราด้วยนะคะ” ซูซานและทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“หึ” อ้ายเหรินหัวเราะในลำคอ เมื่อนึกถึงเงินและผลงานของตัวเอง ที่กำลังจะเติบโตเพราะเด็กพวกนี้..
เสียงหัวเราะของอ้ายเหริน ทำให้อิงอิงที่คิดว่าพวกเธอดูถูก เพราะความจริงแล้วครอบครัวหลิวไม่ใช่คนขาดเงินทอง อิงอิงจึงรีบพูดขึ้นอย่างเกรงใจว่า
“เอ่อ พวกฉันไม่ได้ดูถูกพี่อ้ายเหรินนะคะ แต่พวกฉันอยากได้ชุดแบบเหม่ยเหมยค่ะ”
“ความจริงชุดพวกนี้ฉันทำให้เหม่ยเหมยใส่คนเดียว แต่ถ้าพวกเธอต้องการก็ได้” อ้ายเหรินไม่อยากเล่นตัวนาน เพราะไม่อย่างนั้นเธอต้องชวดลูกค้ากระเป๋าหนักแน่ เพราะเด็กพวกนี้ก็เป็นลูกสาวของคนมีเงินกันทั้งนั้น
‘เผลอๆ เราอาจได้ลูกค้าเพิ่มจากแม่ๆ ของพวกเธอก็ได้’ อ้ายเหรินคิดในใจ
“จริงเหรอคะพี่รอง” เหม่ยเหมยที่นั่งฟังอยู่ก็ลุ้นใจจะขาด และเมื่อได้คำตอบจากพี่สาว เธอก็ดีใจมาก
“พวกเธอรอฉันอยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันมา”
อ้ายเหรินไม่ตอบน้องสาว แต่เธอขยิบตาให้น้องสาว จากนั้นก็ขอตัวขึ้นไปบนห้อง..
ไม่ถึงยี่สิบนาที อ้ายเหรินก็ลงมาข้างล่าง ในมือก็ถือแบบเสื้อผ้าและอุปกรณ์ในการวัดตัวเดินเข้าไปในห้องรับแขก..
“นี่เป็นแบบเสื้อผ้า พวกเธอดูและเลือกเลย จะเอาแบบไหน”
อ้ายเหรินบอกพร้อมนั่งลงที่เดิม เมื่อวางแบบที่วาดใส่กระดาษไว้บนโต๊ะรับแขก
“ว้าวว มีแต่แบบสวยๆ ทั้งนั้นเลย”
อิงอิงและทุกคน รวมถึงเหม่ยเหมยด้วย ที่พากันอุทานเสียงตื่นเต้น เมื่อเห็นแบบในกระดาษ และเป็นอิงอิงเองที่หยิบเอาแบบขึ้นมาดู
“ใช่ๆ ฉันเลือกไม่ถูกเลย”
อันฉีเอาแบบในมือของอิงอิงมาดูแล้วยื่นให้ซูซาน ซึ่งซูซานก็ยื่นให้เพื่อนคนต่อไปดู
“อันนี้ก็สวย ฉันเอาแบบนี้ แล้วก็แบบนี้” ด้านฮุยอินรีบบอกเพื่อนๆ เมื่อเลือกแบบอันที่เธอชอบมากที่สุด
ด้านอิงอิงมองเหม่ยเหมย แล้วก็หันไปบอกพี่สาวของเพื่อนว่า
“แต่ฉันอยากได้แบบเหม่ยเหมยที่มีกระเป๋าด้วย”
อ้ายเหรินที่นั่งหน้านิ่ง ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก็บอกอิงอิงว่า “ทุกชุดที่ฉันทำ ก็มีกระเป๋าให้อยู่แล้วนะ”
“เหรอค่ะ งั้นฉันเอาแบบนี้ค่ะ”
อิงอิงรีบหลบสายตาของอ้ายเหริน แล้วก็ยื่นแบบที่ตัวเองชอบมากที่สุดให้อ้ายเหรินดู…