บานประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่แทรกตัวผ่านเข้าไปก่อน แทนที่จะเป็นเจ้าของห้องอย่างฉันหลังจากที่กลับจากร้านอาหาร
กราฟโยนกุญแจรถคันหรูราคาแพงของเขาไปยังชั้นวางของราวกับว่ามันไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากมายกับเขา ต่อให้หายก็ช่างเพราะเขาแทบจะไม่ได้สนใจมันเลยสักนิดว่ามันจะตกหายหรือลอยละลิ่วไปอยู่ตรงไหน
"ถึงห้องแล้วหิวเลยอ่ะ" ฉันยู่ปากพึมพัมกับตัวเองพลางยกมือบางขึ้นลูบท้องตัวเองไปด้วย
เพราะก่อนหน้านี้เอาแต่โมโหจนพาลกินอะไรไม่ลง พอมาคิดอีกทีตอนนี้กลับเสียดายอาหารราคาแพงพวกนั้นรวมทั้งเสียดายเวลาที่เสียไปอย่างไร้ค่าอีกด้วย
"ยังไม่ได้กินข้าว?" กราฟเอี้ยวตัวหันกลับมามองในขณะที่กำลังถอดเสื้อยืดตัวเองออกจากตัว จากนั้นก็โยนมันทิ้งไปกองกับพื้นอย่างไม่แยแส
"ก็ยังน่ะสิ อารมณ์เสียชะมัด" ฉันวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นก็กระโดดล้มตัวลงบนเตียงนอนนุ่มของตัวเองอย่างไร้เรี่ยวแรง
"โดนเท?" กราฟยืนมองฉันที่นอนอ้าแขนออกทั้งสองข้างครองเตียงเอาไว้คนเดียว
"อย่าให้พูด ยิ่งนึกถึงยิ่งหงุดหงิด" ฉันพ่นลมหายใจทิ้งแรงๆ ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นนั่งห้อยเท้าลงไปบนพื้นช้อนสายตามองคนตรงหน้า
ร่างสูงที่เปลือยเปล่าท่อนบนโชว์ซิกแพคเป็นลอนสวยตามประสาผู้ชายออกกำลังกาย รวมทั้งรอยสักที่อกรวมถึงที่หน้าท้องไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งก็ดึงดูดสายตาให้ไปมองได้อยู่ดี แต่โชคดีที่ฉันเห็นมันจนชินเลยไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นหรือน้ำลายสอขึ้นมา
"เสียใจ?" กราฟสืบเท้าเข้ามาหาฉันจนปลายเท้าของเขาชิดกับปลายเท้าของฉัน
ดวงหน้าหล่อที่ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา นอกจากสีหน้าเรียบนิ่งเย็นชาไร้ความรู้สึกจนบางครั้งฉันแทบจะลืมไปแล้วว่าเขามีชีวิตจิตวิญญาณจริงๆ หรือเปล่า ทำไมถึงได้ไร้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่องได้ขนาดนี้
"ไม่เสียใจหรอก แค่เฟลนิดหน่อย"
"เธอดีเกินกว่าที่มันจะได้ไป" เสียงแหบแห้งเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฉันระบายยิ้มกว้างขึ้นทันทีที่ได้ฟังคำพูดปลอบใจของเพื่อนสนิท อย่างน้อยคนที่ดูไม่มีความรู้สึกอย่างเขาก็พูดปลอบใจฉันเป็นแล้วกัน
"นายดีเกินไปแล้วนะกราฟ ถ้าเกิดวันไหนฉันไม่มีนายมาพูดปลอบแบบนี้จะทำยังไง" ก็นะตอนนี้กราฟไม่ได้คบใครเขาเลยมีเวลาให้เพื่อนอย่างฉันได้เต็มที่ ไม่ว่าตอนฉันสุข เศร้าหรือแม้แต่เวลาหิวก็จะมีแต่กราฟที่อยู่เป็นเพื่อนฉัน
ถ้าเกิดวันไหนที่กราฟมีแฟน ฉันก็คงไม่อยากจะเอาเวลาของพวกเขาทั้งคู่มาให้กับฉันนักหรอก
"ฉันจะอยู่กับเธอ" คนตัวโตเอ่ยบอกเสียงเรียบ ดวงตาคมจ้องลึกเข้ามานัยน์ดวงตากลมโตของฉันว่าเขาไม่ได้พูดออกไปส่งเดช
"รู้แล้ว ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้"
"ฉันจริงจัง"
"....."
"ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็จะอยู่กับเธอ" ร่างสูงโน้มตัวลงมาหาจนใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ ในขณะที่สองแขนของเขากลับค้ำยันไปกับเตียงกักขังฉันเอาในระหว่างสองแขน
"มีเพื่อนดีแบบนี้ ไม่มีแฟนก็ยังได้" ฉันบอกอย่างติดตลก เพราะไม่อยากจะให้กราฟเป็นห่วงมากนักจนพูดจาอะไรแปลกๆ ออกมาอีก ทำอย่างกับโลกจะสิ้นแผ่นดินจะสลายอย่างนั้นแหละ
"ถ้าไม่ใช่เพื่อน"
"....."
"เธอจะมองฉันในฐานะผู้ชายคนหนึ่งไหม"
"ถ้าไม่ใช่เพื่อนนายจะเป็นคนแรกที่ฉันวิ่งหนีเลย"
"....." หัวคิ้วหนาขมวดเข้าหากันบ่งบอกว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด
"ก็นายดูน่ากลัวจะตายไป ไม่พูดไม่จาเอาแต่มองด้วยสายตาแบบนี้ใครบ้างจะไม่กลัว" ฉันอธิบายต่อให้คนตัวสูงได้เข้าใจ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กละก็ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่ขอเป็นเพื่อนกับคนโลกส่วนตัวสูงอย่างเขาแน่
"แล้วตอนนี้ไม่กลัว?" เรียวคิ้วหนาเลิกขึ้นถามทันทีที่ฉันตอบออกไป ดวงตาคมหรี่ตามองมาอย่างเค้นคำตอบจนฉันต้องยกยิ้มส่งคืนกลับไปให้
"ไม่กลัว เพราะฉันรู้ไงว่านายใจดีจะตาย"
"แล้วชอบไหม"
"ชอบสิ ใครบ้างไม่ชอบให้คนอื่นใจดีกับตัวเอง"
"ไม่ใช่"
"....."
"หมายถึง... ชอบฉันไหม?"
แต่งค่ะ เฮ้ย!ไม่ใช่
ชอบก็คอมเมนท์เป็นกำลังใจในการอัพเดตตอนใหม่ด้วยนะคะ