บทที่ 6 สามีมาเฟีย (2)

1403 คำ
“นายครับ ผมว่าเธอน่าจะไม่อยู่ที่นี่แล้วครับ” “ว่าไงนะ! พวกมึงตามหาน้ำผึ้งให้เจอ” “ผมว่าเธอน่าจะหนีไปแล้ว” “มึงทำอะไรเมียกู เมียกูถึงได้หนีไป” “ผมเปล่านะครับ ผมแค่คิดว่าถ้าเธออยู่ที่นี่เราคงเจอเธอนานแล้ว เดี๋ยวผมจะลงไปดูกล้องวงจรปิดข้างล่างว่าเธอหนีไปจากทางไหน” “ไม่ต้อง...ไอ้เจแปนมึงไปเช็กกล้องวงจรปิด ส่วนพวกมึงออกไปตามหาน้ำผึ้งให้ทั่ว ตามหาจนกว่าจะเจอ” “ครับนาย!” “โธ่เอ๊ย ถ้าเมียกูเป็นอะไรไปกูจะมาคิดบัญชีกับมึง” ว่าจบ ลีโอก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับลูกน้องของเขา บทสนทนาที่เกรี้ยวกราดของใครบางคนมันทำให้ฉันหวาดกลัวเข้าไปใหญ่ และดูเหมือนว่าไบรอันจะเกรงใจใครคนนั้นเสียด้วย “น้ำผึ้ง” เสียงเรียกของไบรอันดังขึ้นพร้อมกับตู้เสื้อผ้าที่กำลังถูกเปิดออก ฉันเงยมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวและตัวสั่นจนควบคุมไม่อยู่ ไบรอันดึงฉันเข้าไปกอดพร้อมขอโทษขอโพยฉันเสียงแผ่วเบา “ฉันขอโทษที่ทำให้เธอกลัว เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ฉันผิดเองที่ทำอะไรไม่นึกถึงความรู้สึกของเธอ ฉันขอโทษนะ” “ฮือ ๆ” คราวนี้ฉันกลั้นเสียงร้องไห้ต่อไปไม่ไหว ฉันกอดไบรอันไว้แน่น ความหวาดกลัวมันเล่นงานจิตใจของฉันจนบอบช้ำ ฉันไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นนอกจากไบรอัน “ไม่ต้องกลัวพวกเขาออกไปแล้ว” มือของไบรอันลูบผมของฉันเบา ๆ ราวกับปลอบประโลม อยู่ ๆ เสียงเดินของคนหลายคนก็ดังเข้ามาใกล้เราทั้งสอง แน่นอน...พวกเขากลับมา “มึงกล้ามากนะที่โกหกกูไอ้ไบรอัน!” “นาย...” ไบรอันหันไปเอ่ยเรียกคนเป็นเจ้านายเสียงเบาพลางเอาตัวเองมาบดบังตัวฉันเอาไว้ ฉันชะเง้อมองผู้ชายตรงหน้าก่อนจะรีบหลบตา แววตาของเขามันน่ากลัวมาก “ตอนนี้น้ำผึ้งเธอจำอะไรไม่ได้ และเธอก็กำลังกลัว” ‘น้ำผึ้ง’ ชื่อนี้มันคุ้นหูฉันมาก แค่ได้ยินก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ซีกสมอง ฉันจับมือไบรอันไว้ขณะที่หลบหลังของเขาอยู่ ก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่อยากรู้ ฉันกลัวจนประคองเสียงสั่นเครือของตัวเองไม่ไหว “พะ...พวกเขาเป็นใครน่ะไบรอัน อึก!” “น้ำผึ้ง... มาหาป๋า” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยเรียกฉันเสียงแผ่วเบาพร้อมยื่นมือมาทางฉัน น้ำเสียงของเขามันอ่อนโยนมากกว่าตอนที่คุยกับไบรอันเป็นไหน ๆ แต่ฉันไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นนอกจากไบรอัน ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะมาดี “ฉันไม่ไปนะไบรอัน” “ไอ้ไบรอันส่งน้ำผึ้งมาให้กู” “ฮือ ๆ ไม่ไปนะ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น” เสียงตะคอกของเขาทำให้ฉันตกใจกลัวจนส่งเสียงร้องไห้ออกมา สีหน้าของไบรอันก็ดูจะไม่มีทางเลือกเสียด้วย “ผู้ชายคนนี้เขาเป็นสามีของเธอนะน้ำผึ้ง เขาจะไม่มีวันทำร้ายเธอเชื่อฉันสิ อยู่กับเขาเธอจะปลอดภัย กลับไปกับเขานะ” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธอย่างไม่ยินยอม ก่อนที่จะมีใครบางคนมาดึงกระชากตัวฉันออกจากไบรอัน เสี้ยววินาทีนั้นฉันก็เห็นสายตาของไบรอันที่ทั้งตกใจและเป็นห่วงฉันในเวลาเดียวกัน ก่อนที่ร่างกายของฉันจะลอยขึ้นเหนือพื้นด้วยฝีมือของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี มือข้างหนึ่งของฉันรีบควานหาที่ยึดเหนี่ยวโดยการดึงคอเสื้อของไบรอันเอาไว้แน่น “ฮือ ๆ ปล่อยฉันนะ ฮึก! ฉันไม่ไปนะไบรอัน ฉันไม่ไป...” “ฉันขอโทษนะน้ำผึ้ง” ไบรอันแกะนิ้วมือของฉันออกจากคอเสื้อของเขา เขายังกุมมือของฉันเอาไว้พลางใช้นิ้วโป้งลูบที่หลังมือของฉันเบา ๆ แววตาความห่วงใยของเขามันชัดเจนมาก ฉันก็ได้แต่หวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะเปลี่ยนใจ “ปล่อยเมียกู!” เสียงพูดของอีกคนเกรี้ยวกราดจนใจของฉันหล่นไปถึงตาตุ่ม ฉันมองไบรอันด้วยแววตาที่เว้าวอน แต่ไบรอันกลับปล่อยมือฉัน แม้ฉันจะพยายามเอื้อมมือไปจับเขาไว้อีกครั้งแต่เขากลับก้าวถอยหลังจนฉันเอื้อมมือไม่ถึง เขาใจร้ายและเย็นชาที่สุดเลย เขาปล่อยให้ฉันไปกับผู้ชายที่เขาบอกว่าเป็นสามีของฉัน ซึ่งความจริงผู้ชายคนนี้จะเอาฉันไปฆ่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ “ฮือ ๆ ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน” ฉันดิ้นพล่านพร้อมทุบตีคนที่อุ้มฉันตลอดทางเดินยาวจนถึงหน้าลิฟต์ ระหว่างที่รอลิฟต์เปิดผู้ชายคนนั้นยอมปล่อยให้ฉันได้ยืนอย่างอิสระก่อนที่เขาจะดึงตัวฉันเข้าไปกอดพร้อมแนบแก้มสากลงบนศีรษะทุยเล็กของฉัน การกระทำของเขามันทำให้ฉันนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “กลับบ้านเรานะเด็กดี” “ไม่ไป ฉันไม่ไปกับคุณ...” ฉันยังพูดไม่จบเขาก็ย่อตัวแล้วอุ้มฉันในท่ากระเตงเป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี “ฮือ ๆ ... ปล่อย! ฉันบอกว่าไม่ไปกับคุณไม่เข้าใจหรือไง” เขาไม่ได้สนใจฟังในสิ่งที่ฉันพูดเพียงแต่พาฉันเข้าไปในลิฟต์โดยมีลูกน้องคนหนึ่งตามเข้ามาด้วย ส่วนลูกน้องหลายสิบคนที่เหลือก็ยืนรออยู่ด้านหน้าลิฟต์ “ฉันบอกให้ปล่อยฉัน...” “น้ำผึ้ง...ถ้าหนูทำตัวไม่น่ารัก ป๋าก็จะไม่ใจดีกับหนูนะ” ฉันหยุดดิ้นและเงียบไปในที่สุด ไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาแต่เป็นเพราะว่าฉันเห็นปืนเหน็บอยู่ข้างเอวของลูกน้องเขาต่างหาก คนดี ๆ ที่ไหนเขาพกปืนกัน มีแต่พวกมาเฟียเท่านั้นแหละ มีสามีเป็นมาเฟียแค่คิดก็กลัวจนหัวหดแล้ว ติ่ง~ ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นด้านล่างสุด ฉันก็ใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายทั้งหมดที่มีดิ้นจนหลุดออกจากอ้อมแขนของเขา พรึ่บ! “น้ำผึ้ง” ฉันรีบวิ่งหนีออกมาจากลิฟต์โดยที่มือของเขาก็คว้าแขนฉันไว้ไม่ทัน นาทีนี้ฉันพึ่งใครไม่ได้แล้วนอกจากตัวเอง “ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยด้วย” ฉันวิ่งไปร้องขอความช่วยเหลือไปพลางเหลียวหลังมองคนที่วิ่งตามฉันไป “ฮือ ๆ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย” เหตุการณ์นี้มันรู้สึกคุ้น ๆ จนมีภาพลาง ๆ แว็บเข้ามาในหัวอีกแล้ว มันมีส่วนที่คล้ายกับฝันร้ายที่ฉันฝันเห็นทุกคืน ฝันว่าตัวเองกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างด้วยความหวาดกลัว และอีกหน่อยก็จะมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาชนฉัน เมื่อนึกได้อย่างนั้นฉันก็รีบเบรกตัวเองอย่างเร็ว เป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถยนต์แล่นมาด้วยความเร็วจนเกือบเฉี่ยวชนฉัน “วิ่งดูทางหน่อยสิเฮ้ย ถูกรถชนตายขึ้นมาคนขับก็เดือดร้อนสิ” เสียงของชายวัยกลางคนซึ่งเป็นคนขับรถยนต์คันนั้นตะโกนต่อว่าฉัน ฉันก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป นอกจากนั่งลงพร้อมยกมือกุมศีรษะตัวเองเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว “แล้วมึงจะรีบไปตายหรือไงขับรถเร็วขนาดนี้ ถ้าเมียกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะสงเคราะห์ให้มึงได้ไปตายสมใจ” พูดจบ เขาก็นั่งลงมากอดปลอบฉันไว้ราวกับคนละคนที่สวนกลับคนขับรถเมื่อครู่ ฉันได้ยินที่เขาพูดทุกอย่างแต่กลับตอบโต้อะไรออกไปไม่ได้เลยนอกจากร้องห่มร้องไห้ออกมาอย่างคนเสียสติ ร่างกายของฉันสั่นเทาจนควบคุมไม่ได้ แต่แล้วอยู่ ๆ ร่างกายของฉันมันก็ชาไปหมด ฉันออกแรงขยับไม่ได้เลย จนในที่สุดทุกอย่างรอบตัวมันก็เลือนลางและมืดดับไป . . . . . มาแล้วค๊าบ มาเอาใจช่วยคุณป๋ากันค๊าบบ คอมเมนต์พูดคุยกันน๊า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม