ตอนที่ 6 เจอกันในรอบ 3 ปี

1425 คำ
"สาวๆ ทำอะไรอยู่" "โอบนายไม่ไปซ้อมบาสรึไงไหนบอกจะแข่งรอบสุดท้ายอาทิตย์นี้" โอบรักเพื่อนหนุ่มอีกคนที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ปีหนึ่ง เขาเป็นหนุ่มฮอตประจำคณะสาวๆ ตามกรี๊ดแต่เขาก็ไม่สนใจเพราะมีคนในใจแล้ว "แก้มคนสวยเธอมองไม่ออกเหรอเหงื่อฉันเต็มตัวขนาดนี้เธอคิดว่าฉันอาบน้ำมารึไง" "เออ ก็นายมันพวกขี้เกียจตัวเป็นขนนี่ จริงไหมแพง" แก้มใสหันไปถามหญิงสาวอีกคนที่ตอนนี้นั่งนิ่งไม่ร่วมวงสนทนากับพวกเธอเลย ตั้งแต่โอบรักเดินมาหญิงสาวก็เงียบไปเลย พะแพงเป็นแบบนี้เสมอตั้งแต่ปี1 เธอไม่ชอบคุยกับผู้ชายคนไหนรวมถึงโอบรักด้วยขนาดรู้จักกันมาหลายปียังถามคำตอบคำ แก้มใสเองก็ไม่รู้เพราะอะไรเคยถามแล้วแต่พะแพงก็เลี่ยงที่จะตอบ "แกเห็นคนหล่อที่ยืนอยู่หน้าคณะเราไหมฉันจะละลายอ่ะแกอย่างกับหลุดมาจากนิยาย หล่อจนเหมือนไม่มีอยู่จริง" "จริงรู้สึกว่าจะเป็นคนในข่าวด้วยนะ เขามารอใครกันนะ แกฉันเองก็จะหัวใจวายตายคนอะไรยืนเฉยๆ ยังหล่อน่าลาก" เสียงซุบซิบของเพื่อนๆ ที่อยู่คณะเดียวกันดึงดูดความสนใจของแก้มใสก่อนที่พะแพงจะพูดอะไร "พวกนั้นพูดถึงใครวะ มีคนหล่อกว่าฉันอีกเหรอที่นี่" "หลงตัวเอง" พะแพงที่ปกติไม่พูดเอ่ยออกมาเสียงเบาแต่ก็ทำให้คนที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากเธออย่างโอบรักได้ยินชัดเจน "ทำไมหรือเธอคิดว่ามันมีใครที่หล่อและดีกว่าฉัน" ชายหนุ่มถามเสียงแข็ง "อะไรทำไมต้องทำเสียงแบบนั้นใส่พะแพงนายมันมั่นใจเกินเหตุแถมชอบพาลคนอื่นไปทั่ว " แก้มใสรีบหันมาช่วยเพื่อนสาว "เธอก็ดีแต่เข้าข้างยัยนี่ ฉันก็เป็นเพื่อนเธอนะ" โอบรักทำเสียงกระเง้ากระงอดจนแก้มใสขนลุก "ยี้! ท่าทางนายน่าขนลุกชะมัด" "ฉัน..." "แก้มใสผู้ชายตรงหน้าคณะเขาบอกมาหาเธอ ถ้าไม่ออกไปเจอเขาตอนนี้สาวๆ ในคณะจะลากเขาไปกินแล้วนะ" เพื่อนสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาขัดจังหวะก่อนที่โอบรักจะทันได้พูดอะไรต่อ "มาหาฉันเหรอ? ขอบใจนะ เดี๋ยวฉันออกไปดู" แก้มใสมั่นใจว่าคนคนนั้นที่ผู้คนพูดถึงต้องเป็นคุณอาของเธอแน่ๆ คงไม่มีใครที่ตรงตามที่พวกเขาบอกที่จะมาหาเธอตอนนี้นอกจากเขา กล้าดียังไงมาหว่านเสน่ห์ถึงที่นี่! เขามันพวกไม่รู้จักพอเธอต้องไปจัดการคนเจ้าเล่ห์คนนั้นให้เจ้าชู้ไม่ออกเลย "ฉันกลับก่อนนะฝากส่งงานอาจารย์ด้วยนะพะแพง" พูดจบหญิงสาวก็ลุกเดินเร็วๆ ออกไป "เดี๋ยวก่อนสิแก้ม โถ่เอ๊ยไอ้นั่นมันเป็นใครวะ" โอบรักบ่นอย่างหัวเสียวันนี้ว่าจะชวนหญิงสาวไปกินข้าวฟังเพลงเสียหน่อย "เขาเป็นคนที่แก้มรักและรอมานาน" "ฉันไม่ได้ถามเธอ เธอว่าไงนะเมื่อกี้บอกว่าผู้ชายคนอื่นหล่องั้นเหรอทั้งที่ผัวตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้ " "แพงแค่พูดตามความจริง อีกอย่างโอบไม่ใช่...สามีของแพงสักหน่อย" หญิงสาวก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาคมเข้มที่จ้องมาไม่สบอารมณ์ "ยัยตัวดีกลับไปเธอเจอดีแน่ ห้ามหนีกลับบ้านไม่งั้นฉันจะบอกแม่เธอว่าเธอแอบคบชู้" "มะ...ไม่จริงนะ! เดี๋ยวโอบ" ไม่ทันที่พะแพงจะแก้ตัวในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำเขาก็เดินไปแล้ว เธอเองก็ไม่กล้าจะตะโกนเรียกให้คนอื่นรู้แล้วเขาอาจจะไม่พอใจแล้วมาลงกับเธอ แก้มใสที่เดินออกมาก็เจอเข้ากับคุณอาหนุ่มที่ยืนเอาสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงพิงตัวรถยนต์คันหรูอยู่ แว่นดำที่ใส่อยู่ไม่ได้บดบังความหล่อที่ทะลุออกมาขนสาวๆ ที่เดินผ่านต้องหยุดมองแม้เขาจะใส่เพียงเสื้อยืดกางเกงยีนเท่านั้น เหมันต์เองก็มองสาวน้อยที่เขาไม่ได้เจอหลายปี เธอเปลี่ยนไปมากสวยกว่าในรูปที่เขมทัตส่งให้ดูมากเมื่อเทียบกับตัวจริง จากสาวน้อยตัวอวบค่อนไปทางอ้วนน่ารักน่าชังในสายตาเขา มาวันนี้กลับโตเป็นสาวเต็มตัวชุดนักศึกษาที่เธอใส่อยู่อวดหุ่นนาฬิกาทรายได้เป็นอย่างดีจนคนมองรู้สึกไม่พอใจ เขายังมองว่ามันเซ็กซี่แล้วผู้ชายคนอื่นจะไม่มองแบบนี้เหรอ ใบหน้าที่ตอนนี้เรียวสวยแต่แก้มก็ยังกลมป่องน่าฟัดอยู่เหมือนเดิม สายตาหวานซึ้งจมูกรั้นนั้นที่ทำให้เขามองว่าเธอน่าเอ็นดูตลอดเวลานั่นอีก หญิงสาวกำลังเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับบ่นอุบอิบ สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่าเห็นได้ชัดจนเหมันต์อดจะยิ้มเอ็นดูไม่ได้ "มาทำไมคะ หรือมาอ่อยหาสาวๆ มหาลัยนี้ ไม่น่าเชื่อว่าอาสองจะอดอยากปากแห้ง" "ไม่เจออาตั้งหลายปีแทนที่จะวิ่งมากอดมาจุ๊บอาแบบเดิม กลับเดินเข้ามาใส่ร้ายอาแบบนี้หมายความว่ายังไงครับหรืออาควรทำโทษเด็กนิสัยไม่ดีนะ" เขาไม่ถือสาแถมชอบเวลาที่ได้ต่อปากต่อคำกับเธอด้วยมันทำให้ชีวิตดูมีสีสันขึ้นมาเยอะกว่าตอนที่อยู่คนเดียว "แก้มโตแล้วค่ะไม่ใช่เด็กตัวอ้วนๆ ที่เคยหลงคุณอาแล้ว" หญิงสาวกอดอกเชิดหน้าขึ้นเถียงเขาไม่คิดจะยอม "ขึ้นรถอามารับ หรืออยากจะคุยกันตรงนี้อาว่าจะจุ๊บทักทายหนูแบบที่หนูเคยทำกับอาตอนเด็กๆ ไงคะดีไหม" เหมันต์พูดจบก็ทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามาหาหญิงสาวจริงๆ ทำเอาแก้มใสรีบวิ่งขึ้นรถไปทันทีอย่างไม่มีทางเลือก "คนบ้า! ฉันแค่อายคนหรอกนะคอยดูจะต้องหาทางแก้แค้นให้ได้..." หญิงสาวรีบหุบปากทันทีที่คุณอาหนุ่มขึ้นรถตามมา เธอไม่ได้กลัวแค่ไม่อยากมีเรื่องตอนนี้ "อยากกินอะไรคะ อาจะพาไป" "ไม่หิวจะกลับบ้าน " "ทำไมทำตัวเอาแต่ใจ แบบนี้ผู้ชายคนไหนจะกล้าเอาเป็นเมีย" เขายังคงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงขบขันอารมณ์ดีที่ได้แกล้งเธอ "เยอะแยะค่ะ คุณอาคงไม่รู้ว่าตอนนี้แก้มมีคนคุยแล้ว ไม่ใช่มีคนเดียวนะคะหลายคนด้วยไม่เชื่อถามพะแพงดู" หญิงสาวตั้งใจพูดให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้ชอบคุณอาอย่างเขาแล้ว แต่พอพูดออกไปเหมันต์กลับนิ่งเงียบทำให้บรรยากาศบนรถดูจะอึดอัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีอยู่สองอย่างที่เธอคิดคือเขาไม่พอใจอะไรบางอย่างหรือว่าเขาไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูด "กินร้านนี้แล้วกัน" เธอว่าดูเหมือนจะเป็นอย่างหลัง เหมันต์บอกก่อนจะแวะเข้าร้านอาหารที่เคยเป็นร้านโปรดของเธอสมัยก่อนตอนนี้ก็ยังเป็นแต่เธอจะไม่บอกให้เขารู้หรอก เข้าไปภายในร้านบรรยากาศก็ยังคงเป็นแบบอิตาเลียนเหมือนเดิมแม้จะไม่ได้แวะมานาน เขาสั่งเมนูที่เธอชอบกินไม่ได้ถามเธอสักคำว่าจะยังชอบอยู่ไหม "งอนอะไรอาทำไมไม่พูดจะนั่งอมลมเข้าปากจนแก้มป่องอีกนานไหม" "ไม่ได้งอนค่ะ อีกอย่างแก้มของแก้มก็ป่องแบบนี้อยู่แล้วคนมันเคยอ้วนทำไงได้" "โอเคอาจะไม่ถามให้หนูอารมณ์เสียแล้ว รู้ใช่ไหมอาไม่ชอบเด็กงอแงเอาแต่ใจถ้าไม่เลิกทำแบบนี้อาจะลงโทษ" "ไม่ได้นะ แก้มโตแล้วจะมาจับตีอีกไม่ได้" "ได้สิไม่เชื่อก็ลองดู" ทั้งน้ำเสียงและท่าทางเอาจริงของเหมันต์ทำเอาหญิงสาวไม่กล้าเถียงต่อ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงชอบกลัวเขาทุกครั้งที่ถูกเขาทำเสียงนิ่งๆ แบบนี้ทุกที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม