"สาวๆ ทำอะไรอยู่"
"โอบนายไม่ไปซ้อมบาสรึไงไหนบอกจะแข่งรอบสุดท้ายอาทิตย์นี้"
โอบรักเพื่อนหนุ่มอีกคนที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ปีหนึ่ง เขาเป็นหนุ่มฮอตประจำคณะสาวๆ ตามกรี๊ดแต่เขาก็ไม่สนใจเพราะมีคนในใจแล้ว
"แก้มคนสวยเธอมองไม่ออกเหรอเหงื่อฉันเต็มตัวขนาดนี้เธอคิดว่าฉันอาบน้ำมารึไง"
"เออ ก็นายมันพวกขี้เกียจตัวเป็นขนนี่ จริงไหมแพง"
แก้มใสหันไปถามหญิงสาวอีกคนที่ตอนนี้นั่งนิ่งไม่ร่วมวงสนทนากับพวกเธอเลย ตั้งแต่โอบรักเดินมาหญิงสาวก็เงียบไปเลย
พะแพงเป็นแบบนี้เสมอตั้งแต่ปี1 เธอไม่ชอบคุยกับผู้ชายคนไหนรวมถึงโอบรักด้วยขนาดรู้จักกันมาหลายปียังถามคำตอบคำ แก้มใสเองก็ไม่รู้เพราะอะไรเคยถามแล้วแต่พะแพงก็เลี่ยงที่จะตอบ
"แกเห็นคนหล่อที่ยืนอยู่หน้าคณะเราไหมฉันจะละลายอ่ะแกอย่างกับหลุดมาจากนิยาย หล่อจนเหมือนไม่มีอยู่จริง"
"จริงรู้สึกว่าจะเป็นคนในข่าวด้วยนะ เขามารอใครกันนะ แกฉันเองก็จะหัวใจวายตายคนอะไรยืนเฉยๆ ยังหล่อน่าลาก"
เสียงซุบซิบของเพื่อนๆ ที่อยู่คณะเดียวกันดึงดูดความสนใจของแก้มใสก่อนที่พะแพงจะพูดอะไร
"พวกนั้นพูดถึงใครวะ มีคนหล่อกว่าฉันอีกเหรอที่นี่"
"หลงตัวเอง"
พะแพงที่ปกติไม่พูดเอ่ยออกมาเสียงเบาแต่ก็ทำให้คนที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากเธออย่างโอบรักได้ยินชัดเจน
"ทำไมหรือเธอคิดว่ามันมีใครที่หล่อและดีกว่าฉัน" ชายหนุ่มถามเสียงแข็ง
"อะไรทำไมต้องทำเสียงแบบนั้นใส่พะแพงนายมันมั่นใจเกินเหตุแถมชอบพาลคนอื่นไปทั่ว " แก้มใสรีบหันมาช่วยเพื่อนสาว
"เธอก็ดีแต่เข้าข้างยัยนี่ ฉันก็เป็นเพื่อนเธอนะ" โอบรักทำเสียงกระเง้ากระงอดจนแก้มใสขนลุก
"ยี้! ท่าทางนายน่าขนลุกชะมัด"
"ฉัน..."
"แก้มใสผู้ชายตรงหน้าคณะเขาบอกมาหาเธอ ถ้าไม่ออกไปเจอเขาตอนนี้สาวๆ ในคณะจะลากเขาไปกินแล้วนะ"
เพื่อนสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาขัดจังหวะก่อนที่โอบรักจะทันได้พูดอะไรต่อ
"มาหาฉันเหรอ? ขอบใจนะ เดี๋ยวฉันออกไปดู"
แก้มใสมั่นใจว่าคนคนนั้นที่ผู้คนพูดถึงต้องเป็นคุณอาของเธอแน่ๆ คงไม่มีใครที่ตรงตามที่พวกเขาบอกที่จะมาหาเธอตอนนี้นอกจากเขา กล้าดียังไงมาหว่านเสน่ห์ถึงที่นี่! เขามันพวกไม่รู้จักพอเธอต้องไปจัดการคนเจ้าเล่ห์คนนั้นให้เจ้าชู้ไม่ออกเลย
"ฉันกลับก่อนนะฝากส่งงานอาจารย์ด้วยนะพะแพง" พูดจบหญิงสาวก็ลุกเดินเร็วๆ ออกไป
"เดี๋ยวก่อนสิแก้ม โถ่เอ๊ยไอ้นั่นมันเป็นใครวะ" โอบรักบ่นอย่างหัวเสียวันนี้ว่าจะชวนหญิงสาวไปกินข้าวฟังเพลงเสียหน่อย
"เขาเป็นคนที่แก้มรักและรอมานาน"
"ฉันไม่ได้ถามเธอ เธอว่าไงนะเมื่อกี้บอกว่าผู้ชายคนอื่นหล่องั้นเหรอทั้งที่ผัวตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้ "
"แพงแค่พูดตามความจริง อีกอย่างโอบไม่ใช่...สามีของแพงสักหน่อย" หญิงสาวก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาคมเข้มที่จ้องมาไม่สบอารมณ์
"ยัยตัวดีกลับไปเธอเจอดีแน่ ห้ามหนีกลับบ้านไม่งั้นฉันจะบอกแม่เธอว่าเธอแอบคบชู้"
"มะ...ไม่จริงนะ! เดี๋ยวโอบ"
ไม่ทันที่พะแพงจะแก้ตัวในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำเขาก็เดินไปแล้ว เธอเองก็ไม่กล้าจะตะโกนเรียกให้คนอื่นรู้แล้วเขาอาจจะไม่พอใจแล้วมาลงกับเธอ
แก้มใสที่เดินออกมาก็เจอเข้ากับคุณอาหนุ่มที่ยืนเอาสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงพิงตัวรถยนต์คันหรูอยู่
แว่นดำที่ใส่อยู่ไม่ได้บดบังความหล่อที่ทะลุออกมาขนสาวๆ ที่เดินผ่านต้องหยุดมองแม้เขาจะใส่เพียงเสื้อยืดกางเกงยีนเท่านั้น
เหมันต์เองก็มองสาวน้อยที่เขาไม่ได้เจอหลายปี เธอเปลี่ยนไปมากสวยกว่าในรูปที่เขมทัตส่งให้ดูมากเมื่อเทียบกับตัวจริง
จากสาวน้อยตัวอวบค่อนไปทางอ้วนน่ารักน่าชังในสายตาเขา มาวันนี้กลับโตเป็นสาวเต็มตัวชุดนักศึกษาที่เธอใส่อยู่อวดหุ่นนาฬิกาทรายได้เป็นอย่างดีจนคนมองรู้สึกไม่พอใจ เขายังมองว่ามันเซ็กซี่แล้วผู้ชายคนอื่นจะไม่มองแบบนี้เหรอ
ใบหน้าที่ตอนนี้เรียวสวยแต่แก้มก็ยังกลมป่องน่าฟัดอยู่เหมือนเดิม สายตาหวานซึ้งจมูกรั้นนั้นที่ทำให้เขามองว่าเธอน่าเอ็นดูตลอดเวลานั่นอีก
หญิงสาวกำลังเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับบ่นอุบอิบ สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่าเห็นได้ชัดจนเหมันต์อดจะยิ้มเอ็นดูไม่ได้
"มาทำไมคะ หรือมาอ่อยหาสาวๆ มหาลัยนี้ ไม่น่าเชื่อว่าอาสองจะอดอยากปากแห้ง"
"ไม่เจออาตั้งหลายปีแทนที่จะวิ่งมากอดมาจุ๊บอาแบบเดิม กลับเดินเข้ามาใส่ร้ายอาแบบนี้หมายความว่ายังไงครับหรืออาควรทำโทษเด็กนิสัยไม่ดีนะ"
เขาไม่ถือสาแถมชอบเวลาที่ได้ต่อปากต่อคำกับเธอด้วยมันทำให้ชีวิตดูมีสีสันขึ้นมาเยอะกว่าตอนที่อยู่คนเดียว
"แก้มโตแล้วค่ะไม่ใช่เด็กตัวอ้วนๆ ที่เคยหลงคุณอาแล้ว"
หญิงสาวกอดอกเชิดหน้าขึ้นเถียงเขาไม่คิดจะยอม
"ขึ้นรถอามารับ หรืออยากจะคุยกันตรงนี้อาว่าจะจุ๊บทักทายหนูแบบที่หนูเคยทำกับอาตอนเด็กๆ ไงคะดีไหม"
เหมันต์พูดจบก็ทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามาหาหญิงสาวจริงๆ ทำเอาแก้มใสรีบวิ่งขึ้นรถไปทันทีอย่างไม่มีทางเลือก
"คนบ้า! ฉันแค่อายคนหรอกนะคอยดูจะต้องหาทางแก้แค้นให้ได้..."
หญิงสาวรีบหุบปากทันทีที่คุณอาหนุ่มขึ้นรถตามมา เธอไม่ได้กลัวแค่ไม่อยากมีเรื่องตอนนี้
"อยากกินอะไรคะ อาจะพาไป"
"ไม่หิวจะกลับบ้าน "
"ทำไมทำตัวเอาแต่ใจ แบบนี้ผู้ชายคนไหนจะกล้าเอาเป็นเมีย"
เขายังคงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงขบขันอารมณ์ดีที่ได้แกล้งเธอ
"เยอะแยะค่ะ คุณอาคงไม่รู้ว่าตอนนี้แก้มมีคนคุยแล้ว ไม่ใช่มีคนเดียวนะคะหลายคนด้วยไม่เชื่อถามพะแพงดู"
หญิงสาวตั้งใจพูดให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้ชอบคุณอาอย่างเขาแล้ว แต่พอพูดออกไปเหมันต์กลับนิ่งเงียบทำให้บรรยากาศบนรถดูจะอึดอัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีอยู่สองอย่างที่เธอคิดคือเขาไม่พอใจอะไรบางอย่างหรือว่าเขาไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูด
"กินร้านนี้แล้วกัน"
เธอว่าดูเหมือนจะเป็นอย่างหลัง เหมันต์บอกก่อนจะแวะเข้าร้านอาหารที่เคยเป็นร้านโปรดของเธอสมัยก่อนตอนนี้ก็ยังเป็นแต่เธอจะไม่บอกให้เขารู้หรอก
เข้าไปภายในร้านบรรยากาศก็ยังคงเป็นแบบอิตาเลียนเหมือนเดิมแม้จะไม่ได้แวะมานาน เขาสั่งเมนูที่เธอชอบกินไม่ได้ถามเธอสักคำว่าจะยังชอบอยู่ไหม
"งอนอะไรอาทำไมไม่พูดจะนั่งอมลมเข้าปากจนแก้มป่องอีกนานไหม"
"ไม่ได้งอนค่ะ อีกอย่างแก้มของแก้มก็ป่องแบบนี้อยู่แล้วคนมันเคยอ้วนทำไงได้"
"โอเคอาจะไม่ถามให้หนูอารมณ์เสียแล้ว รู้ใช่ไหมอาไม่ชอบเด็กงอแงเอาแต่ใจถ้าไม่เลิกทำแบบนี้อาจะลงโทษ"
"ไม่ได้นะ แก้มโตแล้วจะมาจับตีอีกไม่ได้"
"ได้สิไม่เชื่อก็ลองดู"
ทั้งน้ำเสียงและท่าทางเอาจริงของเหมันต์ทำเอาหญิงสาวไม่กล้าเถียงต่อ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงชอบกลัวเขาทุกครั้งที่ถูกเขาทำเสียงนิ่งๆ แบบนี้ทุกที