“วันนี้ผมคงไม่สะดวก” แดเนียลมองดูปฏิกิริยาของหญิงสาวว่าจะมีอาการเป็นอย่างไรถ้าเขาบอกแบบนั้นไป
สุพัตราตราทำหน้าเศร้าเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเหมือนตอบปฏิเสธกลายๆว่าไม่อยากเป็นคนพาเธอเที่ยวแล้วแบบนี้เธอจะไปหาใครมาพาเธอเที่ยวล่ะถ้าเที่ยวคนเดี่ยวมันจะไปสนุกอะไรมันต้องมีเจ้าถิ่นสิถึงจะสนุก หญิงสาวคิดในใจก่อนจะเอ่ยบอกกับชายหนุ่มไป
“งั้นไม่เป็นไรคะ ถ้าคุณแดนไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร” สุพัตราบอกชายหนุ่มเสียเศร้าๆจนทำให้คนที่ได้ยินเสียงแบบนั้นเกิดใจหวิวๆขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุจนในที่สุดชายหนุ่มก็เลิกแกล้งหญิงสาวที่เอาแต่ทำหน้าเศร้าอยู่ตรงหน้าเขา
“ผมหมายถึงวันนี้ผมไม่ว่าง แต่ถ้าเป็นพรุ่งนี้ผมว่างทั้งวัน ถ้าคุณไม่รีบนะ พรุ่งเดี๋ยวเรามาเจอกันที่เดิมตรงที่คุณเจอผมครั้งแรกแล้วกัน ผมจะรอคุณอยู่ที่นั้น”
“ได้คะ ฉันยังไงก็ได้ ขอแค่มีคนของที่นี้พาเที่ยวก็พอแล้วค่ะ” พูดจบสุพัตราก็ยิ้มแหยๆส่งให้ชายหนุ่มก่อนจะหันกลับมานั่งตามปกติแล้วพิงพนักเกาอี้สายตาก็มองดูผู้คนที่อยู่ในสวนสาธารณะว่าทำอะไรกันบ้าง
สถานที่ที่แดเนียลพาสุพัตราไปที่แรกเลยก็คือพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum หรือ Muse e du Louvre)*
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก รวมไปถึงโมนาลิซ่าศิลปะภาพวาดชิ้นเอกของโลกด้วย
ส่วนสถานที่ที่สองที่แดเนียลนั้นได้พาสุพัตราไปนั้นเป็น โบสถ์แซงต์ชาแปล (Sainte Chapelle)**
เป็นโบสถ์ที่ใช้สวดมนต์ของราชวงศ์โดยเฉพาะ ซึ่งใช้ศิลปะสไตล์กอธิคในช่วงยุคกลางและประดับด้วยกระจกสีสไตล์ศตวรรษที่ 13 ที่สวยงามมากจนเรียกได้ว่า เป็นสถานที่ที่มีคอลเล็คชั่นกระจกสีของศตวรรษนี้มากที่สุดเลยที่เดียว
และสถานที่อื่นๆจนมาถึงพระราชวังลักเซมบูร์ก (Luxembourg Palace หรือ Palais du Luxembourg)***
ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่มาเฟียหนุ่มพาเที่ยวในวันนี้สถานที่แห่งนี้เดิมถูกสร้างเพื่อเป็นที่ประทับของพระนางมารีเมดิซี (Marie de Medicis) มารดาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13
หลังจากที่ทั้งสุพัตราเที่ยวจนพอใจแล้วแดเนียลจึงอาสามาส่งหญิงสาวกลับโรงแรมที่พักด้วยตัวเองทั้งสองเดินเคียงคู่กันมาและคุยไปยิ้มไปเหมือนคู่รักคนอื่นไม่มีผิด
จนคนที่เดินผ่านไปผ่านมานึกอิจฉาผู้ชายก็หล่อเหมือนเทพบุตรส่วนผู้หญิงก็สวยหวานเหมือนนางฟ้าเหมาะกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก
ทั้งสองเดินมาหยุดหน้าลิฟต์ในในโรงแรมที่สุพัตราพักและพูดคุยกันอีกสองสามประโยคก่อนที่หญิงสาวจะบอกลาชายหนุ่ม
“ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง เดินทางปลอดภัยนะคะ” สุพัตราบอกกับชายหนุ่มหลังจากที่เดินเข้าไปในลิฟต์เรียบร้อยแล้วก่อนจะยกมือบายบ่ายชายหนุ่มแล้วส่งยิ้มหวานให้แล้วประตูลิฟต์ก็ค่อยๆปิดในเวลาต่อมา
ร่างหนาของชายคนหนึ่งที่เป็นมือขวาของแดเนียลเดินเข้ามาใกล้ๆร่างสูงใหญ่ของเจ้านายหนุ่มหลังจากที่ประตูลิฟต์ปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คาเรนก้มศีรษะทำความเคารพแดนียลเจ้านายของตัวเองก่อนจะเอ่ยกับกับแดเนียลด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“คุณแดนครับ รถของเราพร้อมแล้วครับ”
คาเรนบอกกับแดเนียลก่อนที่ตัวเองจะเดินนำมาเฟียหนุ่มออกทางหลังโรงแรมแดเนียลก้าวขึ้นรถลีมูซีนหลังจากที่ลูกน้องเปิดประตูให้เรียบร้อยแล้ว
พาหนะสี่ล้อสามคันค่อยๆเคลื่อนออกจากที่จอดรถหลังโรงแรมไปสู่ถนนใหญ่จนไปถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด
หลังจากที่สุพัตราออกจากลิฟต์มาเป็นที่เรียบร้อยร่างบางก็เดินไปที่ห้องของตัวเองทันทีก่อนจะเปิดห้องหลังจากที่รูดใบการ์ดเสร็จแล้ว เท้าบางเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูจากนั้นก็จัดการกับตัวเองในห้องน้ำเสร็จแล้วก็เข้านอนตามปกติ
สุพัตราทิ้งตัวลงนอนในหัวสมองก็คิดแต่เรื่องของผู้ชายที่เพิ่งมาส่งเธอก่อนที่จะขึ้นมาบนห้องว่าเหตุใดเธอถึงไว้วางใจเขานักนะทั้งที่เธอกับผู้ชายคนนั้นก็เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้งเอง
แล้วถ้าเกิดเขาเป็นคนไม่ดีขึ้นมาละเธอจะทำอย่างไรแต่เขาก็เป็นสุภาพบุรุษนี่นาเขาจะเป็นคนไม่ดีได้ยังไงล่ะ โอ๊ย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งปวดหัวนอนพักเอาแรงดีกว่าแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีผ่านไปไม่นานร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงก็เข้าสู่ห้วงนิทราทันที
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาในระยะเวลาสี่ห้าวันมานี้ สุพัตรากับแดเนียลมักจะนัดเจอกันบ่อยขึ้น ทำให้ทั้งสองคนนั้นสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว
หรือบางทีอาจเป็นเพราะสุพัตราเข้ากับคนได้ง่าย ชอบพูดคุยเรื่องตลก ทำให้ชายหนุ่มไม่ค่อยเครียดหรือรู้สึกอึดอัดเวลาอยู่ด้วย ชายหนุ่มจึงคุยกับหญิงสาวได้นานกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เคยผ่านมาในชีวิตเขา
แต่เวลาเดินไปไหนมาไหนกับแดเนียลมีแต่คนชอบมองมาที่เธอจนเป็นจุดสนใจ จนเธอแอบสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมีแต่คนชอบมองมาทางเธอ แต่พอเธอถามชายหนุ่มที่เดินอยู่ด้านข้างเขาก็บอกว่าอย่าไปสนใจเลย คนที่นี้ก็แบบนี้แหละเธอก็อยากจะคิดแบบนั้น แต่เธอว่ามันไม่ใช่นะ
มันรู้สึกแปลกๆยังชอบกลแต่เธอก็ไม่ได้ถามเขาต่อได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้คนเดียว แต่พอเธอคิดดูอีกทีเขาอาจจะไม่เคยเห็นคนหล่อระดับดาราฮอลลีวูด มาเดินเล่นกับคนหน้าตาธรรมดาอย่างเธอล่ะมั่งแถมเธอยังเป็นคนเอเชียด้วยก็คงจะแปลกใจกัน