บทที่ 1-1 : รักแรกพบ

1278 คำ
สองปีก่อนหน้านี้... รองเท้าผ้าใบสีขาวหยุดยืนตรงเก้าอี้เหล็กที่เอาไว้สำหรับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้นั่งชมความงามของสถานที่แห่งนี้หนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังดูความงดงามข้างหน้าเหมือนกับโดนมนตร์สะกดของแม่มดสักตนของที่นี้สะกดเอาไว้ไม่ให้เธอขยับไปไหน ด้านหน้าหญิงสาวก็คือโคลงสร้างเหล็กขนาดใหญ่คล้ายรูปตัวเอหรือที่ทุกคนต่างเรียกกันว่า ‘หอไอเฟล’ นั้นเองสถานที่แห่งนี้เป็นความสวยงามและโดดเด่นของประเทศฝรั่งเศสและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ทุกคนทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี มือบางหยิบโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งซื้อมาใหม่ขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายหนังสีดำเพื่อที่จะถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนสนิทที่อยู่เมืองไทยได้รู้ว่าเธอมาถึงหอไอเฟลที่เพื่อนรักอย่าง ศศิตา บริรักษ์ไม่มีโอกาสได้มาดูด้วยตัวเองเพราะเพื่อนรักติดภารกิจสำคัญ ใบหน้าหวานใสจุดรอยยิ้มเมื่อถ่ายรูปภาพที่ต้องการเสร็จแล้วและได้มุมสวยงามเหมือนช่างภาพมืออาชีพมาถ่ายให้ก็ไม่ปาน เมื่อถ่ายรูปจนพอใจแล้วร่างบางจึงเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมที่เธอลุกไปก่อนหน้านี้ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมเห็นจะเป็นผู้ชายใส่เสื้อโค้ชสีดำที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจอะไร นิ้วเรียวบางมัวแต่พิมพ์ข้อความส่งถึงเพื่อน พอส่งข้อความกับรูปภาพที่เพิ่งถ่ายไปให้เพื่อนรักเสร็จ เพื่อนตัวแสบดันส่งตอบกลับมาว่าให้เธอส่งรูปตัวเองไปให้อีกฝ่ายดูที ทีแรกเธอก็ช่างใจอยู่นานว่าจะถ่ายหรือไม่ถ่ายดี เธอจึงตัดสินใจเรียกผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านข้างให้มาถ่ายรูปให้เธอหน่อยเพื่อที่จะได้เห็นวิวทั้งสองข้างชัดๆ “คุณคะ คุณ...” หญิงสาวเรียกชายหนุ่มที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ข้างๆเธอ หญิงสาวไม่แน่ใจว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆเธอนั้นเขาจะรู้หรือเปล่าว่าเธอเรียกเขา แต่เหมือนว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆเธอนั้นเขาจะรู้ ใบหน้าหล่อเหลาหันมาทางต้นเสียง ที่มีหญิงสาวนั่งอยู่ข้างๆเขา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเหมือนจะถามเป็นนัยๆว่า ‘มีอะไรหรือเปล่า’ “คุณช่วยถ่ายรูปให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ เอาแบบเห็นวิวข้างๆนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขอร้องชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ้อนๆจนชายหนุ่มชะงักไปเมื่อเห็นสายตาอ้อนมาจากหญิงสาว แต่ชายหนุ่มก็ทำหน้านิ่งกลบเกลื่อนเธอเห็นชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างเอาแต่นิ่งเธอจึงเอ่ยเสียงและใบหน้าขอร้องไปให้ชายหนุ่มอีกครั้งและก็สำเร็จเมื่อชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับมาให้ เธอจึงรีบส่งโทรศัพท์ให้ชายหนุ่มก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจ “ขอบคุณคะ ถ่ายให้สวยๆเลยนะค่ะ” หญิงสาวยิ้มดีใจเมื่อชายหนุ่มรับโทรศัพท์พร้อมกับยกขึ้นถ่ายส่วนร่างบางที่นั่งบนเก้าอี้ก็โพสต์ท่าต่างๆตามที่ชอบทั้งยิ้มทั้งหัวเราะในแบบธรรมชาติไม่เสแสร้งแกล้งทำเหมือนพวกดารานางแบบที่เขาเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย มือหนากดชัตเตอร์ติดๆกันจนเป็นที่หน้าพอใจแล้วก็ส่งโทรศัพท์คืนให้กับจ้าของที่ยืนส่งยิ้มหวานมาให้เขาพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเขาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณนะคะที่ถ่ายรูปให้ฉัน เอ่อ ฉันมีของจะให้คุณด้วยคะ” หญิงสาวเอ่ยพูดพร้อมกับเหมือนเพิ่งนึกออกว่ามีของจะให้ชายหนุ่มแทนคำขอบคุณ “นี่คะ มันอาจจะเป็นของไม่มีค่าสำหรับคุณนะคะแต่ของชิ้นนี้มันมีค่าสำหรับฉันคะ รับไว้เถอะนะคะถือซะว่าแทนคำขอบคุณจากฉันก็แล้วกันนะคะ” หญิงสาวพูดดักทางเอาไว้เพื่อเขาปฏิเสธพร้อมกับยื่นพวงกุญแจรูปโฉมงามกับเจ้าอสูรที่เธอรักมากที่สุดให้ชายหนุ่ม นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มมองร่างบางตรงหน้านิ่งไม่บงบอกอารมณ์อะไรทางสีหน้าทำให้หญิงสาวเดาอารมณ์ของผู้ชายคนนี้ไม่ออก สายตาคมเข้มแอบสำรวจรูปร่างของหญิงสาวโดยละเอียดโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ากำลังโดนชายตรงหน้าสำรวจ เมื่อหญิงสาวเห็นว่ามือหนาไม่ยื่นมาสักทีมือบางของเธอจึงยื่นไปจับมือหนาของผู้ชายตรงน้าแล้วเอาพวงกุญแจวางลงฝ่ามือใหญ่แต่หยาบกร้านเหมือนทำงานหนักทั้งที่ก็แต่งตัวดูดีกว่าดาราชายบางคนเสียอีกหญิงสาวได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจไม่เอ่ยถามออกไป หญิงสาวยกข้อมือบางข้างซ้ายขึ้นมาดูนาฬิกาเรือนสวยสีชมพูเรือนสวยพร้อมกับบอกลาชายหนุ่มเพราะว่ามีธุระต้องไปจัดการที่อื่นต่อ “งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ เราคงได้พบกันอีก กุ๊ดบายคะ” เมื่อร่างบางบอกลาเสร็จก็เดินออกไปจากตรงนั้นและไม่หันกลับมามองชายหนุ่มอีกเลย ถ้าหญิงสาวหันกลับมาเธออาจจะหายข้องใจก็ได้ว่าทำไมมือของชายหนุ่มถึงหยาบกร้าน ดวงตาคมเข้มมองตามหลังบอบบางไปจนไกลแล้ว จึงก้มลงมามองพวงกุญแจรูปโฉมงามกับเจ้าอสูรด้วยสายตาเกินจะคลาดเดาแม้แต่มือขวาที่เดินเข้ามาหานายใหญ่ยังมองสายตาที่เจ้านายใช้มองผู้หญิงคนนั้นไม่ออกเลยแต่ก็หวังว่าจะเป็นเรื่องดีก็แล้วกันเพราะเจ้านายเขาไม่ชอบให้ใครมาจับมือถือแขนถ้าไม่จำเป็นแล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครถึงกล้าจับมือเจ้านายเขาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างนี้แต่ก็เถอะมันคงไม่มีอะไรหรอกเจ้านายเขาก็ไม่เห็นมีปฏิกิริยาโกรธเคืองอะไรนอกจากทำหน้านิ่งเป็นหุ่นยนตร์ “กลับกันเถอะ” เสียงเข้มเอ่ยกับมือขวาหนุ่มที่นามว่าคาเรน ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินนำลูกน้องที่เพิ่งเข้ามาสมทบหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปไม่นาน ชายหนุ่มเดินนำจนมาถึงลีมูซีนคันหรูจอดอยู่ไม่ไกล ที่จริงแล้วชายหนุ่มกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกเขาเคยเจอเธอแล้วที่สนามบินตอนเธอมาถึงฝรั่งเศสครั้งแรกเมื่ออาทิตย์ก่อนครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่สองสำหรับเขาแต่สำหรับหญิงสาวอาจจะเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเขา เท้าแกร่งก้าวขึ้นรถเมื่อลูกน้องเปิดประตูให้เมื่อชายหนุ่มเขาไปนั่งเรียบร้อยแล้วรถจึงเคลื่อนตัวออกจากตรงนั้นแล้วมุ่งหน้าสู่กาสิโนที่เป็นที่ที่เขาคลุม ตระกูลเขามีกิจการมากมายทั้งเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กาสิโนและการค้าอาวุธที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย พี่ชายคนโตอย่าง 'ดมิทรี แม็คควีนฟอร์' ขึ้นคลุมธุรกิจ ส่วนเขาแดเนียล แม็คควีนฟอร์ขึ้นคลุมบังเ**ยนกาสิโนและการค้าอาวุธทุกคนทั้งในวงการและนอกวงการจึงขนานนามเขาว่า ‘มาเฟีย’ เขาก็ไม่แคร์อยู่แล้วใครจะว่าอย่างไรมันก็เป็นสิทธิของเขา เราไม่สามารถห้ามไม่ให้คนอื่นพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้เขาคิดเช่นนี้มาตลอด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม