เรือแห่งโชคชะตา - 2

1931 คำ
                                                                       ที่รำพึงบอกกับทุกคนที่บ้านหลังนี้ว่า จะไปเยี่ยมบิดามารดาของตน ความจริงแล้ว รำพึงไม่ได้ไปอย่างที่ว่าจริง ๆ หรอก แต่แอบไปทำธุระอย่างหนึ่งมาต่างหาก และวันที่กลับก็ไม่ได้กลับมาคนเดียว รำพึงยังพาพี่ชายคนหนึ่งของตนกลับมาพร้อมกันอีกด้วย พี่ชายคนนี้ชื่อสุรทิน เป็นชายร่างผอมสูง ผิวคล้ำ มีลักษณะเป็นคนเจ้าสำราญสำมะเลเทเมาอยู่ไม่น้อย แถมยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งอีก ครั้น สุรทินมาถึงที่นี่ก็รีบตรงดิ่งมาที่เรือนคนใช้ทันที เพราะสุรทินหวังว่าจะมาดูหน้าหลานสาวคนเล็กให้เห็นกับตาว่าโตขึ้นแค่ไหน ดูว่าจะสมกับความสวย อย่างที่รำพึงได้ไปโพนทะนาเอาไว้ที่แห่งหนึ่งจริงหรือไม่                                                             เมื่อมาถึงแล้ว บุรุษร่างสูงก็ลอบยิ้มที่เห็นพะนอขวัญกำลังนั่งเย็บปักผ้าอะไรของตัวเองอยู่ สุรทินรีบตวัดมือขึ้นมาลูบคางแหลมของตัวเองไปมาอย่างที่พึงพอใจ ไม่เห็นหน้าหลานสาวคนนี้มาหลายเดือน พอเห็นแล้วจึงมีอาการตาลุกวาวทีเดียว เพราะหลานสาวคนนี้มีลักษณะสวยสมกับที่รำพึงว่าเอาไว้ไม่มีผิดเลย…                                             พะนอขวัญมีผิวขาวลออตาผิดไปจากพี่น้องคนอื่น ๆ แถมใบหน้าก็งามจิ้มลิ้มดูไม่หน่ายตาเอาเสียเลย และความจริงอีกอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในใจของบุรุษคนนี้คือ เวลาสุรทินมองพะนอขวัญ กลับไม่มีความรู้สึกเหมือนได้มองดูสกาวใจ ที่เป็นหลานสาวอีกคนเลยสักนิด อาจจะเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของพะนอขวัญที่ดูผิดพ่อผิดแม่ ผิดพี่น้องคนอื่นไปหมด แถมยังมีเรื่องที่ลือ ๆ กันในหมู่ญาติ ๆ ว่า รำพึงยังตะขิดตะขวงใจอยู่เสมอมาว่า พะนอขวัญอาจจะไม่ใช่ลูกสาวจริง ๆ ของตัวเองด้วย        สุรทินจึงได้มีความรู้สึกให้หลานคนนี้แตกต่างจากหลานสาวคนอื่น ๆ ไป ก็หากไม่ใช่หลานสาวตัวเองจริง ๆ จะคิดอกุศลเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกหรอกกระมัง สุรทินคิดอย่างยิ้ม ๆ มองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเห่อเหิมในตัณหาอันมากล้น              จากนั้นจึงแกล้งส่งเสียงออกมาดัง ๆ เพื่อให้พะนอขวัญที่กำลังนั่งทำงานตรงหน้าได้ยิน "แหม! ไม่ได้เจอหลานขวัญมาหลายเดือน หลานลุงคนนี้โตขึ้นเป็นกองเลยนะ..." คนเอ่ย เอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกายบางอย่าง ดูอย่างไร ก็ไม่เหมือนคนเป็นลุงกำลังมองดูหลานสาวด้วยความเอ็นดูเลยสักนิด                                                           พะนอขวัญละสายตาจากงานในมือขึ้นมามองเจ้าของเสียงห้าวนั้นทันที แม้หญิงสาวจะไม่ชอบในกริยาและสายตาที่อีกฝ่ายลอบมีต่อตนเอง เพราะมันมักจะมีความรู้สึกอื่นแฝงเร้นอยู่เสมอ แต่เมื่อเขาอยู่ในฐานะพี่ชายของมารดา จึงเป็นลุงแท้ ๆ ของหล่อน หล่อนก็จำต้องแสดงออกมาอย่างเคารพนับถือนั่นเอง ดังนั้น พะนอขวัญจึงยกมือขึ้นมาไหว้บุรุษร่างสูงตรงหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ "สวัสดีค่ะ ลุงทิน"    เสียงของสุรทินที่ดังไปทั่วก่อนหน้า ทำให้เกิดเสียงฝีเท้าของคนอีกสองคนรีบวิ่งมาหาพะนอขวัญ เป็นนางช้อยและนายชดนั่นเอง ด้วยทั้งสองคนไม่ชอบสุรทินมาตั้งนานแล้ว ตอนที่คุณผู้ชายยังไม่เสีย สุรทินไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก เพราะว่าเขาค่อนข้างเกรงกลัวคุณผู้ชาย                 แต่ตอนนี้ไม่มีคุณผู้ชายแล้ว ทำให้ผู้สูงวัยทั้งสองต้องรีบมาแสดงท่าทางเพื่ออยากปกป้องหญิงสาวเอาไว้ด้วย เพราะตั้งแต่พะนอขวัญเริ่มเป็นสาว สายตาของสุรทินก็มักจะลอบมองหญิงสาวอย่างโลมเลียตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา     ทั้งที่สุรทิน อยู่ในฐานะลุงแท้ ๆ ยังมีหน้ามามองหญิงสาวที่เป็นหลานสาวด้วยสายตาเช่นนี้ นางช้อยและนายชดเห็นแล้วอยากจะหาไม้มาไล่ตะเพิดสุรทินไปเสียให้พ้น ๆ เรือน ทว่า ทั้งสองก็ไม่สามารถทำได้อย่างใจนึก เนื่องจากเกรงกลัวคุณรำพึงที่พร้อมจะเข้าข้างพี่ชายของตนเองอย่างเต็มที่อยู่                                                           อีกประการ หากตนทั้งสองจะโพนทะนาให้ใคร ๆ รู้ว่าสุรทินไม่ได้มองพะนอขวัญอย่างหลานสาวแท้ ๆ คุณรำพึงก็จะหาว่าพวกตนคิดอกุศลกับผู้ชายคนนี้ไปอีก                                                                         และเมื่อเห็นทั้งนางช้อยและนายชดทำท่าจะเข้ามาหาพะนอขวัญ สุรทินจึงรีบส่งสายตามองคนแก่ทั้งสองอย่างไม่ชอบใจ แล้วว่าไปว่า "แค่ลุงจะมาทักทายหลานสาว แล้วพวกมึงจะแห่มาทำอะไรกัน ไปให้พ้น ๆ เลยนะ...ไปสิ!" สุรทินกระแทกเสียงใส่ พะนอขวัญที่ไม่อยากให้มีเรื่องราวเกิดขึ้นอีก จึงหันไปมองผู้สูงวัยทั้งสองแล้วพยักหน้า แม้ผู้สูงวัยจะไม่อยากทิ้งหญิงสาวให้อยู่พูดคุยกับผู้ชายคนนี้ตามลำพัง แต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งกลาย ๆ ของหญิงสาวได้ สุดท้ายทั้งคู่จำต้องถอยกลับไปทำงานของตัวเองไป                                                                     พะนอขวัญรีบเขยิบตัวให้ออกห่าง เมื่อสุรทินได้ขยับตัวลงมานั่งใกล้ ๆ ขณะนั้นหล่อนก็ได้กลิ่นเหล้าอ่อน ๆ โชยออกมาจากเนื้อตัวของสุรทินอีก   "นี่ หลานลุงกำลังทำอะไรอยู่นะ..." สุรทินแกล้งถามอย่างสนใจไปอย่างนั้นเอง ความจริงจะหาเรื่องอยู่พูดคุยกับแม่หลานคนนี้ให้นาน ๆ เท่านั้นเอง คุยแล้วก็อดชำเลืองตามองผิวขาวจัดของพะนอขวัญไปด้วยไม่ได้ เพราะผิวกายภายนอกร่มผ้าของหญิงสาวยังขาวน่าทะนุถนอมขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นผิวภายในร่มผ้าจะน่าดูขนาดไหน…        "กำลังฉลุผ้าค่ะ ลูกค้าสั่ง" หล่อนตอบคำถามผู้เป็นลุงเรียบ ๆ เริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นก็ตอนที่ สุรทินได้ใช้สายตาสำรวจเนื้อตัวหล่อนอย่างโจ่งแจ้งอีกแล้ว  แล้วสุรทินจึงทำเป็นชะโงกหน้ามองผ้าผืนหนึ่ง ในมือหญิงสาวเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกว่า "โถ มัวแต่มานั่งทำงานอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่จะมีเงินมีทองมาให้แม่รำพึงเขาเยอะ ๆ ล่ะ ถ้ามีเงินเยอะ ๆ แม่รำพึงเขาจะได้อยู่อย่างสุขสบายอย่างคนอื่นเสียที"   พะนอขวัญไม่เข้าใจคำพูดนี้ของอีกฝ่าย ว่ามีความหมายอย่างไร หล่อนแค่เข้าใจว่า สุรทินอยากให้หล่อนมีเงินเยอะ ๆ เท่านั้น จึงรีบตอบกลับอย่างพาซื่อไป "ถ้าเราขยัน และรู้จักประหยัด เราก็จะมีเงินเยอะ ๆ ได้เองล่ะค่ะ"       แม้ฟังแล้วจะขัดหูขัดใจนัก แต่สุรทินก็แกล้งเออออไปอย่างนั้นเอง "ก็นั่นน่ะสินะ…" แล้วจึงแกล้งพูดขึ้นมาลอย ๆ อีกว่า "แต่ถ้ามีทางที่จะทำให้เรารวยเร็วขึ้น อยู่สุขสบายขึ้น ลุงว่าหลานขวัญก็ควรที่จะทำนะ แม่ของเราก็พลอยสุขสบายไปกับเราด้วย"                                 พะนอขวัญเริ่มรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ว่าอีกฝ่ายต้องการจะพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่ กำลังจะเปิดปากถาม แต่แล้วก็มีเสียงอันดังของรำพึงได้แทรกขึ้นมาเสียก่อน                                                               "พี่ทิน!" รำพึงที่เดินอย่างเร็ว ๆ เพื่อมาหาทั้งพี่ชายและลูกสาวคนเล็ก เมื่อมาถึงจึงมองพี่ชายด้วยสายตาตำหนิขึ้น   สุรทินอ่านสายตาเช่นนี้ออกจึงยิ้มแหย แล้วรีบแก้ตัวว่า "พี่ก็แค่มาทักทายหลาน ไม่เห็นหน้าหลานหลายเดือนอยากรู้ว่าโตขึ้นแค่ไหนแล้วก็เท่านั้น"   รำพึงยังมองพี่ชายอย่างไม่เชื่ออีก ก่อนจะตัดใจเพราะยังไม่อยากให้ความมาแตกตอนนี้ จึงหันหน้ามาแกล้งถามลูกสาวคนเล็กว่า "แม่ไม่อยู่บ้านสามสี่วัน ทุกอย่างภายในบ้านเป็นปกติ เรียบร้อยดีมั้ย"                                                                                      พะนอขวัญไม่แน่ใจว่าที่ท่านถาม เพราะมีเรื่องนายใบ้ไปเข้าหูท่านหรือเปล่า แต่เมื่อมาคิดว่า ท่านคงไม่ได้ถามกระทบไปถึงเรื่องนายใบ้ที่มาช่วยหล่อนทำงานที่นี่หรอก สกาวใจคงไม่กล้าเอาเรื่องนี้ไปฟ้องท่าน เนื่องจากหล่อนได้ขู่พี่สาวคนนี้เอาไว้แล้วนี่ "เรียบร้อยทุกอย่างค่ะ แม่" หล่อนตอบเรียบ ๆ พร้อมกับวางท่าทางให้เป็นปกติ                 รำพึงจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะแกล้งพูดจาเอาใจลูกสาวคนนี้เสียหน่อยว่า "ดี หัดทำตัว ดี ๆ แบบนี้ดูแลบ้านช่องเป็นหูเป็นตาให้แม่อย่างนี้น่ะดีแล้ว แม่กลับบ้านมาแล้วจะได้ไม่ต้องมาทำอารมณ์เสียกับเราอีก" ว่าแล้วจึงหลุบตามองดูผ้าผ่อนที่ลูกสาวกำลังนั่งทำตรงหน้า แล้วจึงส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปบอกพี่ชายทันที "ไปเถอะพี่ทิน รถมาจอดรอเราอยู่แล้ว ปล่อยให้คนอื่น ๆ รอนานมันไม่ดี" ว่าแล้วก็หมุนกายระหงเดินจากตรงนี้ไปเลย   สุรทินจึงจำต้องผุดลุก แล้วรีบเดินตามหลังน้องสาวที่เดินล่วงหน้าไปแล้ว ครั้นทั้งสองได้เดินห่างออกมาจากเรือนคนใช้พอที่พะนอขวัญจะไม่ได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างคนทั้งคู่แล้ว                                    รำพึงจะรีบหันมาถามพี่ชายทันทีว่า  "พี่ได้เผลอพูดอะไรให้แม่ลูกสาวตัวดีของฉันรู้ตัวแล้วหรือเปล่า?"    อีกฝ่ายรีบแก้ตัวเสียงอ่อย "ไม่ ไม่ได้พูดอะไรเลย "                            "จริงนะ?"                                                                                   "จริงสิ" สุรทินปฏิเสธ แล้วก็รีบพูดอย่างเอาใจน้องสาวอีกว่า "ว่าแต่วาสนาของน้องรำพึงนี่ดีจริง ๆ นะ ลูกสาวคนรองก็กำลังคบหากับลูกชายเจ้าของร้านขายทอง ส่วนลูกสาวคนเล็กก็กำลัง..."                        รำพึงรีบตวัดสายตาปราม ก่อนที่สุรทินจะหลุดปากพูดอะไรออกมามากกว่านี้ แล้วจึงว่าอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องเองว่า           "จะให้มันมัวแต่มานั่งเย็บผ้าส่งคนอื่นเขางก ๆ แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้สุขสบายเสียทีล่ะ อุตส่าห์เลี้ยงดูมันมาจนโตเป็นสาวแล้ว ก็ถึงเวลาอันสมควรที่มันจะทดแทนบุญคุณแม่ของมันแล้วสิ" แล้วจึงรีบกำซับพี่ชายเสียงเข้มอีกหนว่า "...พี่ก็อย่าเผลอพลั้งปากพูดเรื่องนั้นให้แม่ลูกสาวคนนี้ของฉันรู้ตัวก่อนเชียวนะ ยัยขวัญแม้ภายนอกจะดูหงิม ๆ ติ๋ม ๆ แต่มันก็หัวแข็ง มีหัวที่ดื้อรั้นอยู่ไม่น้อย เกิดมันรู้ตัวขึ้นมาก่อน เราจะอดใช้เงินก้อนโตกันพอดี เอาไว้ให้ถึงเวลาที่เสี่ยย้งใกล้จะกลับมาจากจีนเสียก่อนเถอะ แล้วเราค่อยมาจัดการเรื่องนี้อย่างรวบรัดอีกที..."         "แหม น้องสาวของพี่คนนี้นี่ฉลาดจริง ๆ" แม้ปากจะพูดชมน้องสาว แต่ภายในใจของสุรทินก็ยังอดเสียดายหน้าตารูปร่างของแม่หลานสาวคนนี้ไม่ได้                    
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม