6 แม่ช่อลดา - 1

2201 คำ
กระจกเงาบานใหญ่ ที่กรอบทำมาจากงาช้างพร้อมกับได้รับการฉลุลวดลายเป็นเถาดอกกุหลาบ กำลังสะท้อนเงาของสตรีที่มีใบหน้าสวยผุดผาดอยู่ตรงหน้า ข้าวของทุกชิ้นที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งก็ล้วนแต่เป็นของดี ๆ ทั้งสิ้น หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นภายในห้องนี้ ก็ได้รับการนำเข้ามาจากต่างประเทศด้วยซ้ำ แต่ละสิ่งอันเหล่านี้จึงได้บ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของห้องนอนนี้ได้ดีทีเดียว                        สร้อย...คือสาวใช้คนหนึ่งแห่ง บ้านชลันทร กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วมองหญิงสาวที่นั่งส่องรูปโฉมตัวเองอยู่หน้ากระจกเงาตรงหน้ามาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว  กระจกเงาบานตรงหน้าได้สะท้อนความงามของหญิงสาวหน้าตาคมขำให้ปรากฏอยู่  ด้วยความงามและความเพียบพร้อมที่อีกฝ่ายมี ทำให้สร้อยเอ่ยปากชมด้วยความรู้สึกอิจฉาอยู่ไม่น้อยว่า "คุณลดานี่โชคดีจริง ๆ นะคะ"   "อย่างไรล่ะสร้อย?" หล่อนเอ่ยถามน้ำเสียงยั่วเย้า พลางหยิบตลับน้ำมันชโลมผมขึ้นมาเปิด แล้วสูดดมความหอมกรุ่นของกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ ของมันเข้าจมูกโด่งอย่างพึงพอใจ ในขณะที่สองหูก็รอฟังคำอธิบายของสาวรับใช้ประจำตัวไปอีกด้วย   "ก็คุณลดาเกิดมาเป็นลูกสาวคุณผกา และคุณทนงเพียงคนเดียว เงินทอง ทรัพย์สมบัติของคุณพ่อคุณแม่ก็จะได้รับไปเต็ม ๆ อย่างไม่ต้องไปแบ่งให้ใครอีก..." ด้วยที่สร้อยเป็นสาวใช้คนสนิทของช่อลดาทำให้สร้อยกล้าที่จะพูดตรง ๆ ออกมา "...แถมหน้าตาของคุณลดาก็หน้าตาสะสวยด้วย สวยจนใครเดินผ่านก็ต้องเหลียวหลังกลับมาดูซ้ำเชียวล่ะค่ะ"                                                                 หญิงสาวที่ชื่อช่อลดาหัวเราะร่วนออกมาเบา ๆ อย่างแฝงจริต จกร้าน แล้วยิ้มกริ่มตาม พร้อมกับทอดมองเงาสะท้อนตัวเองบนกระจกเงา พลางหันซ้ายหันขวาพินิจรูปหน้าทรงไข่ของตัวเองไปด้วย ซึ่งภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ฟ้องให้เห็นความจริงดั่งที่คนสนิทว่ามาจริง ๆ เพราะช่อลดา ได้เกิดมาบนความเพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและทรัพย์สมบัติ เนื่องจากบิดามารดาของหล่อนเจ้าของตลาดชลันทรที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งที่ตรงนั้นแต่ละวันจะมีเงินทองก็งอกเงยออกมาตลอดเวลา จนกลายมาเป็นสมบัติที่ทำให้หล่อนสามารถเก็บกินอีกสิบชาติก็ไม่หมด                 และเมื่อได้พูดถึงรูปร่างหน้าตา ที่สร้อยได้เอ่ยปากชมว่าหล่อนมีรูปโฉมงดงามแล้ว... ก็จริง เพราะหล่อนมีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวเกลี้ยงเกลาด้วยสีน้ำผึ้งอ่อน ดวงตากลมโต ผมมันดำขลับดัดเป็นลอนสวย จมูกโด่งเป็นสันงดงาม แม้ลักษณะเช่นนี้จะไม่เหมือนบิดาและมารดาเสียทีเดียว แต่ลักษณะของหล่อนก็ได้เค้ามาจากคุณยายที่ท่านมีเชื้อสายอินเดียของบรรพบุรุษอยู่                                       ด้วยความงามเช่นนี้ เพื่อนของคุณพ่อ ยังเคยมาทาบทามท่านให้หล่อนลองไปประกวดนางงามอยู่เลย ทว่า คุณพ่อหล่อนกลับไม่อนุญาต ท่านได้บอกเหตุผลว่า เป็นผู้หญิงควรรักนวลสงวนตัว ไม่ควรเปิดเผยรูปร่างต่อหน้าสาธารณะชนได้อย่างง่าย ๆ  ซึ่งช่อลดาก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดคร่ำครึเช่นนี้ของท่านนัก เป็นผู้หญิงยิ่งสวย ยิ่งสง่าเท่าไหร่ ก็ยิ่งควรป่าวประกาศให้คนอื่น ๆ รู้เห็นด้วย ถึงจะเรียกว่าเกิดมาแล้วไม่เสียของสิ ... แต่แม้จะไม่เห็นด้วยกับคุณพ่อ ช่อลดาก็ไม่สามารถขัดใจท่านได้ เนื่องจากบิดาของหล่อนท่านเป็นผู้ค่อนข้างดุ เคร่งครัด พูดจาคำไหนเป็นคำนั้น ไม่เหมือนกับมารดาหล่อน รายนี้จะใจดีกว่านี้                                                                                                 "สร้อยว่าฉันสวย แต่ทำไมฉันถึงไม่สามารถมัดใจคนที่ฉันต้องการได้ล่ะ" จู่ ๆ ช่อลดาก็ได้เปรยเรื่องหนึ่งออกมาด้วยความรู้สึกยอกแสลงใจ ยามไพล่นึกถึงใบหน้าของบุรุษคนหนึ่งขึ้นมา ก็ในเมื่อหล่อนเกิดมาบนความเพียบพร้อม ไม่ได้มีอะไรน่าเกลียดเลยสักนิด แล้วทำไมยังผูกใจผู้ชายคนนั้นไม่ได้สักที!                                                   "ใคร ใครกันคะ?" สร้อยยื่นหน้ามาถามอีก                                      หญิงสาวหมุนตัวจากกระจก ไม่ได้ตอบคำถาม แค่ถามกลับสร้อยว่า "แล้วนี่คุณแม่กลับมาจากข้างนอกหรือยัง"                                                  "กลับมาได้สักพักแล้วค่ะ กำลังทำงานอยู่ข้างล่าง"                           พอสร้อยพูดว่าคุณแม่กำลังทำงาน... ช่อลดาก็ทำหน้าหงุดหงิดขึ้นทันที หล่อนไม่ชอบคำว่าทำงานของคุณแม่ เพราะการทำงานของท่านก็คงจะไม่พ้นพวกงานบ้านงานเรือน งานเย็บปักถักร้อย หรืองานในครัวอะไรพวกนั้น                                                 หญิงสาวตวัดมือกอดอก ระบายลมหายใจอันอุ่นร้อนออกจากปลายจมูกโด่ง หล่อนไม่เห็นประโยชน์จากการทำงานอะไรพวกนี้ของท่านเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณแม่ของหล่อนจะชอบนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานให้บ่าวไพร่มันเก็บเอาไปนินทานัก   เนื่องจากฐานะทางบ้านนี้ก็มีเงินทองมากมายแล้วสู้อยู่เฉย ๆ ใช้จ่ายเงินอย่างเดียวก็สุขสบายดีออก แล้วบางครั้งเวลาคุณแม่หล่อนทำงาน ท่านก็ไม่นิยมทำเองคนเดียวเสียด้วย เพราะท่านชอบมาวุ่นวายเคี่ยวเข็ญให้หล่อนต้องนั่งทำงานกับท่าน ไม่ว่าจะเป็นงานเย็บปักถักร้อย ที่ช่อลดาอยากจะกรีดร้องขณะทำไป หล่อนไม่ชอบงานพวกนี้เลย ได้แต่นั่งหลังขดหลังแข็งทำ ทำแล้วก็ต้องทำให้เสร็จ ไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้ เพราะคุณแม่หล่อนจะนั่งเคี่ยวเข็ญอยู่ไม่ห่าง จนทำให้หล่อนไม่สามารถหนีออกไปเที่ยวเตร่กับเพื่อนคนอื่นได้          และยิ่งงานเข้าครัวที่ช่อลดาเกลียดมาก เวลาโดนท่านลากตัวเข้าครัวที ตัวหล่อนจะเป็นลมเสียให้ได้ เหม็นทั้งกลิ่นน้ำปลา กะปิ กระเทียม หล่อนเกลียดกลิ่นพวกนี้จะตาย อีกประการเนื้อตัวของหล่อนในแต่ละวัน ก็มักจะได้รับการพรมน้ำหอมฝรั่งมาอย่างดีอยู่แล้ว เวลาถูกคุณแม่ดึงตัวเข้าครัวที เนื้อตัวหอมกรุ่นของหล่อนก็ต้องพลอยเข้าไปคลุกกับกลิ่นกะปิ กลิ่นน้ำปลา กลิ่นกระเทียมพวกนั้นเข้า เมื่อออกจากครัวได้ หล่อนก็ต้องรีบกลับขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดสวย ๆ ใหม่ ทำให้เป็นเรื่องเสียเวลาของหล่อนอีก!                                    ช่อลดานึกแล้วก็ทำหน้าคล้ายอยากจะร้องไห้ ชั่งใจว่าจะลงไปหาคุณแม่ในขณะที่ท่านกำลังทำงานอยู่ดีหรือไม่ แต่ครั้นนึกไปนึกมาแล้ว เรื่องที่หล่อนจะต้องพูดกับท่านมันมีความหมาย และมีความสำคัญกว่าเรื่องงานบ้านงานเรือนพวกนั้น ก็ต้องทำให้หล่อนยอมกลั้นใจ ผุดลุกจากเก้าอี้ แล้วจึงหันกลับมาบอกสร้อยว่า "ฉันจะลงไปพบคุณแม่ วันนี้...ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องคุยกับท่านถึงเรื่องนั้นสักที!"                                                                                        สร้อยเอียงใบหน้าตามอย่างไม่เข้าใจหรอกว่า เรื่องที่ช่อลดาหมายมาดคือเรื่องใด เมื่อหญิงสาวเยื้องย่างกายระหงออกจากห้องนอนนี้ไป สร้อยก็รีบตามไปอย่างไม่ลดละ เพื่อจะได้รู้ว่าคุณช่อลดาจะพูดเรื่องอะไรกับคุณแม่กันนะ                                      แม้จะทำใจแล้วว่า ครั้นลงมาจากห้องนอนมาจะได้เห็นภาพอะไรบ้าง กระนั้นยามที่ดวงตาคมของช่อลดาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็ทำเอาหล่อนต้องยกมือขึ้นมากอดอก บ่นงึมงำออกมาจนได้ว่า "จะอะไรกันนักกันหนานะ!"                                        เพราะภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ก็คือภาพที่คุณแม่ของหล่อนกำลังนั่งบงการสาวใช้อีกสองคน ให้ช่วยกันปลดผ้าบังตาที่ขึงตามหน้าต่างออก แล้วจะเอาของใหม่ ที่ท่านเพิ่งได้มาเปลี่ยนแทน โดยมีป้าอบแม่บ้านและถือว่าผู้ช่วยมือขวาของท่านอยู่ช่วยด้วยกันอีกคน            "ลายน่ารักเชียวนะคะคุณ ฉลุเป็นลายเถาองุ่นดูกระจุ๋มกระจิ๋มเชียว" ป้าอบเอ่ย ขณะหยิบผ้าสีฟ้าอ่อนผืนหนึ่งขึ้นมาลูบตรงลวดลายผ้าที่ได้รับการฉลุลายเป็นเถาองุ่นพวกเล็กพวงน้อย              "นั่นน่ะสิ เขาเข้าใจทำนะ...ฝีมือละเอียดลออดี" เสียงของคุณผกากรองเอ่ยผสม พร้อมกับทอดมองผ้าที่ตนเพิ่งแวะไปรับมาก่อนหน้าด้วยความสุข เนื่องจากคุณผกากรองมีความนิยมชมชอบในงานฝีมือเช่นนี้อยู่ไม่น้อยด้วย  จะมีค่าอะไรกันนักกันหนาเชียว! ช่อลดาเอ่ยประชดอยู่ในใจเพราะมารดาหล่อนและป้าอบ ได้ทำราวกับผ้าที่วางพาดบนตักตนเองเป็นของมีค่าขึ้นมาอย่างนั้น พากันชื่นชมยินดีอย่างไม่มีหยุด หากเป็นเพชรพลอยแก้วแหวนเงินทอง หล่อนก็ว่าไปอย่าง                             ช่อลดามองผ้าผ่อนเหล่านั้นด้วยสายตาดูแคลนอีกครั้ง ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาท่านแล้วถามด้วยน้ำเสียงค่อนข้างกระด้างว่า "นี่…คุณแม่กำลังทำอะไรกันอยู่นี่"                                                            คุณผกากรองหันกลับมามองบุตรสาวคนเดียว ที่มีสีหน้าติดจะบึ้งตึงเล็กน้อย พลางตอบ "แม่กำลังปลดเอาผ้าม่านเก่าออก แล้วเอาผืนใหม่เข้าไปเปลี่ยน"                                                                         "คราวที่แล้วก็เพิ่งเปลี่ยนไป...ไม่นานนี่คะ"                                     "แต่เปลี่ยนบ่อย ๆ จะทำให้บ้านช่องน่าอยู่นะคะ ไม่ซ้ำซาก ไม่น่าเบื่อ" ป้าอบคนสนิทของคุณแม่ตอบแทน      ช่อลดาจึงรีบบิดริมฝีปากอย่างดูแคลนอีก "ก็แค่จะเปลี่ยนผ้าบังตาตามหน้าต่าง ให้คนใช้ทำให้ก็พอ คุณแม่ไม่จำเป็นต้องมานั่งเฝ้าดูถึงขนาดนี้หรอกค่ะ"                                                                         "แม่ไม่ชอบอยู่เฉย ๆ ลดาเองก็รู้นี่..." คุณผกากรองตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะมองบุตรสาวนิ่ง จนช่อลดาเริ่มรู้ตัวว่ากำลังถูกท่านตำหนิ จึงเป็นฝ่ายหลบสายตาของท่านไปที่อื่นแทน เพราะเรื่องงานพวกนี้หล่อน และผู้เป็นแม่มักจะมีความเห็นตรงกันข้ามกันมาตลอดอยู่แล้ว บทบาทของคุณแม่หล่อนท่านต้องรับผิดชอบงานการภายในบ้าน โดยนอกบ้านนั้นก็มีคุณพ่อเป็นผู้ดูแลกิจการอยู่ ท่านจึงรับผิดชอบงานในบ้านได้ดีอย่างไม่เคยที่ขาดตกบกพร่องเสมอมา                   เมื่อมองใบหน้าสวยคมของลูกสาวอยู่ครู่ คุณผกากรองจึงขอสอนลูกสาวคนเดียวในเรื่องนี้เพิ่มอีกว่า "ลดาเองก็เหมือนกันนะลูก ต้องหัดเรียนรู้เรื่องพวกนี้เอาไว้ให้มาก ๆ อีกหน่อยหากต้องแต่งงานแต่งการไป เรื่องพวกนี้ก็ถือว่าเป็นวิชาความรู้ของแม่ศรีเรือนให้เรามีติดตัวเอาไปใช้ได้อยู่เสมอ..."                                                      "จริงอย่างที่คุณแม่ว่านะคะ คุณหนู..." ป้าอบขอเสริม สอนหญิงสาวราวบุตรหลานแท้ ๆ ด้วยรอยยิ้มอย่างเอ็นดูเพราะตนก็ได้ช่วยเลี้ยงหญิงสาวมาด้วย                                                                      ทว่า จิตใจที่หยาบกระด้างของคนฟังกลับไม่สามารถสัมผัสถึงความเมตตาของป้าอบได้เลย เอาแต่ตั้งแง่รังเกียจหาว่าป้าอบพร่ำสอนแต่เรื่องคร่ำครึ! "...ดูอย่างคุณพ่อของคุณหนูแต่งงานกับคุณแม่มาหลายปี ไม่มีเลยที่คุณผู้ชายจะวอกแวกไปไหน เลิกงานทีไร ก็ตรงกลับบ้านทุกครั้ง เพราะว่าคุณแม่ชอบทำบ้านช่องให้น่าอยู่สะอาดสะอ้านอย่างนี้ คุณผู้ชายกลับมาถึงทีไรจึงชอบพูดอยู่เสมอว่ารู้สึกชื่นใจสบายตาทุกครั้งนะคะ"                                                                                       หญิงสาวที่ราวกับกำลังถูกหัดอบรมเรื่องพวกนี้อีกแล้วรีบเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง แล้วมองคนสนิทของมารดาด้วยแววตาวาวจัด จนป้าอบต้องรีบก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วช่อลดาจึงกล่าวตามความคิดของหล่อนไปว่า "การจะทำให้สามีรัก สามีหลง ไม่เห็นจะต้องทำเรื่องพวกนี้ให้ยุ่งยากเลย แค่รู้จักเอาใจบนเตียง…"                       "ตายจริง!" น้ำเสียงที่ถูกลดจนเบาลงของบุตรสาว พอจะทำให้คุณผกากรองที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ได้ยิน คุณผกากรองตวัดมือทาบอก เบิกดวงตาเรียวรีขึ้นมอง คำพูดสองแง่สองง่ามออกแนวหยาบโลนนี้ตนไม่เคยสอนหรือพูดให้บุตรสาวได้ยินเลยสักครั้ง "นี่ ลูกไปเอาคำพูดพวกนี้จากที่ไหนมา!"                                                               ช่อลดาจึงรีบชี้ไปที่ใบหน้าของสร้อย ที่เดินติดตามหล่อนมาไม่ห่างแต่แรก แล้วบอกผู้เป็นแม่ "สร้อยสิคะ สร้อยเคยบอกลดามาอย่างนี้"                                                                                     สร้อยจึงรีบก้มหน้า รีบแก้ตัวด้วยสีหน้าตกใจ "สร้อย! สร้อยก็ฟังมาจากละครวิทยุอีกทีค่ะ!" ป้าอบมองสร้อยหลานสาวตนอย่างไม่ชอบใจ ขยับตัวเข้าไปใกล้แม่หลานตัวดีได้แล้วจึงหยิกลงที่สีข้างของอีกฝ่ายทันใด    "โอ๊ย เจ็บนะป้า!" สร้อยบอกพลางลูบตรงที่โดนป้าหยิกตาม                      "เจ็บสิดีจะได้จำ! พูดจาทะลึ่งตึงตังเกินหญิงแบบนี้มันไม่งาม!" แล้วป้าอบก็อบรมหลานสาวต่อหน้าเจ้านายอีกชุด      
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม