“นายท่านสั่งให้เจ้าเขียนบันทึกอาการของตนเองมิใช่รึ เหตุใดไม่ทำเล่า” จูเต๋ออี้ที่ปกติมักสงบปากสงบคำจนแทบเป็นคนใบ้ แต่เมื่อมาเจอนกหงส์หยกอย่างหลันหลัน เขากลับเป็นคนพูดบ่อยขึ้นจนเซียวเหรินเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “ข้าเขียนแล้วนะ” หลันหลันยืดตัวแล้วรีบหยิบสมุดของตนยื่นส่งให้จูเต๋ออี้ดูเป็นการยืนยัน “แต่ท่านเซียวอ่านไม่ออกเองต่างหากล่ะ” จูเต๋ออี้ก้มมองหน้ากระดาษในมือของหญิงสาวแล้วอ้าปากค้าง ลายมือนางเป็นเช่นนี้ต่อให้อัญเชิญเทพเซียนชั้นฟ้าลงมา ก็ไม่แน่ว่าจะอ่านลายมือของนางได้ แล้วยังกล้ากล่าวหาว่านายท่านอ่านไม่ออกอีก “วันนี้เจ้าไม่ออกไปที่ใดรึ” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถามทั้งที่สายตายังอยู่ที่สมุดตรงหน้าและมือยังขยับคล่องแคล่วตวัดตัวอักษรบันทึกอาการของหญิงสาว แม้เขาไม่ได้มองหน้านางแต่ก็รับรู้ได้ว่านางส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ “วันพรุ่งนี้ข้าจะออกไปข้างนอกอีกครั้งเจ้าค่ะ” นางยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว