ตอนที่ 7 คิดจะหลอกใช้

982 คำ
เนื้อนวลใช้เวลาทำความสะอาดห้องเขาจนหอมสะอาด เวลาล่วงเลยไปเกือบสี่โมงเย็น เวลาทำงานของเธอคือตั้งแต่เขาตื่นนอนจนถึงเขาหลับ เธอถึงจะได้พัก แต่ตอนนี้ภายในห้องของเขาเย็นสบาย และกลิ่นหอมกว่าห้องเธอมาก ได้นั่งพักอยู่ในนี้สักพักก็คงดีไม่น้อย สุรเชษฐ์ตื่นขึ้นมาหลังจากเผลอหลับไปในช่วงบ่าย เขานั่งเอนกายอยู่ท่าเดิม ไม่นานก็นิ่วหน้าแล้วร้องโอดโอย “โอ๊ย! ปวดท้อง” สุรเชษฐ์ว่าพลางใช้มือซ้ายกุมท้องตัวเองไปด้วย ทำตัวโก่งตัวงอ เนื้อนวลยังทำหูทวนลมเดินเก็บของอีกสองสามอย่างให้เข้าที่ เห็นท่าทีเมินเฉยของสาวใช้เขาจึงพูดขึ้นอีก “ไม่ได้ยินหรือไง ฉันบอกว่าฉันปวดท้อง” “ได้ยินแล้วค่ะ แล้วจะให้ทำยังไงคะฉันไม่ใช่หมอ” เนื้อนวลยังพูดจายียวน อยากเล่นตัวดีนัก “ก็ไปเอาข้าวมาให้ฉันกินสิ ฉันหิวข้าวจนไส้จะขาดแล้วเนี่ย” “หึ” เนื้อนวลกลั้วขำในลำคอก่อนมุมปากจะเผลอยกยิ้มขึ้นจาง ๆ เก็บของเสร็จเธอก็เดินออกจากห้องเขาไป เดินเข้ามาในห้องครัวที่อยู่โซนตะวันตกแล้วมองหาอาหาร แต่ก็ไม่เจอ สองแม่ลูกนั้นคงยังไม่กลับเข้ามาจากการทำแปลงผัก สายตาเหลือบมองเห็นข้าวต้มสำเร็จรูปแบบซอง เนื้อนวลจึงหยิบมาฉีกซองแล้วต้มในน้ำเดือดเพิ่มไข่ลงไปให้เขาสองฟอง โรยด้วยผักชีสามสี่ใบก็เป็นอันเสร็จ ถ้าเขาไม่ปวดท้องมากเธอก็คงทำข้าวต้มให้เขาเองไปแล้ว แต่ฉุกละหุกแบบนี้มีอะไรก็กินไปก่อนแล้วกัน เนื้อนวลตักข้าวต้มส่งกลิ่นหอมฉุยใส่ถ้วยพร้อมแก้วน้ำใส่ถาดเตรียมจะยกไปห้องเขา น้ำขิงก็เข้ามายืนขวาง “แกจะไปไหน” “ป้อนข้าวคุณเชษฐ์ค่ะ” “เดี๋ยวฉันทำเอง วันนี้แกไปเข็นน้ำแทนฉันได้ไหม ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวน่ะ” น้ำขิงใช้มุกเดิมที่เคยหลอกใช้เธอเมื่อวาน ในช่วงหน้าแล้งแบบนี้ในหมู่บ้านขาดแคลนทั้งน้ำดื่มน้ำใช้ แต่ถึงกระนั้นคุณนายของบ้านก็ยังไม่ยอมที่จะล้มเลิกการปลูกผัก ต้องลำบากเข็นน้ำ ทั้งน้ำมาใช้สอยในครัวเรือนและใช้รดน้ำผัก วันหนึ่งต้องเข็นน้ำเกือบสิบเที่ยว ระยะทางไปกลับจากฝายเก็บน้ำถึงบ้านเกือบสี่กิโลเมตร ยังดีที่น้ำดื่มยังใช้น้ำฝนที่ใช้โอ่งใบใหญ่ที่มีอยู่สี่ห้าใบรองไว้ตอนหน้าฝนได้ ถ้าต้องไปรอหาบน้ำดื่มเหมือนบ้านคนอื่นคงแย่แน่ “ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันไม่อยากให้หน้าที่ตัวเองบกพร่อง อีกอย่างฉันก็ยังไม่หายป่วยดี พี่ขิงไปเองเถอะค่ะ” “นี่แกกล้าปฏิเสธฉันเหรอ ฉันจะไปฟ้องคุณนาย” “เอาสิคะ ไปฟ้องเลย ฉันจะได้บอกคุณนายด้วยว่าเมื่อวานพี่ขิงกับน้าอ้อยหลอกให้ฉันไปเข็นน้ำคนเดียว ทั้งที่รู้ว่าฉันไม่สบาย” น้ำขิงตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะรู้ว่าเธอกับแม่หลอกใช้ “ใครเขาจะเชื่อเด็กเก็บขยะไร้ราคาอย่างแก” น้ำขิงลอยหน้าลอยตาพูด “อย่างน้อยก็ได้หมื่นนึงแหละน่า” เนื้อนวลว่าน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน เธอชินชาแล้วกับคำคนดูถูก แค่นี้ไม่ระคายขนอ่อนเธอหรอก อยากว่าอะไรก็ว่าไปเถอะ ขออย่างเดียวอย่ามาเอาเปรียบกันให้มาก “มีเรื่องอะไรกัน” พวงแก้วเอ่ยถามเมื่อเดินมาได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน ด้านหลังมีน้ำอ้อยเดินตามเข้ามา เนื้อนวลจึงรีบพูดขึ้นก่อน “ฉันจะเอาข้าวไปให้คุณเชษฐ์ค่ะคุณนาย คุณเชษฐ์นอนปวดท้องรออยู่ที่ห้องแล้วค่ะ” “งั้นก็รีบไปสิ มัวยืนเซ่อทำอะไรอยู่” “ค่ะ ๆ” ว่าจบเนื้อนวลก็เดินปาดหน้าชายตามองน้ำขิงไปอย่างผู้ชนะ “แล้วเมื่อไรจะไปเข็นน้ำ เดี๋ยวก็มืดค่ำ เป็นลมเป็นแล้งเหมือนเมื่อวานอีก ต้องคอยลำบากลูกชายฉันให้ไปรับ แบบนี้ฉันจะจ้างคนใช้มาทำไมให้เสียเงินตั้งสองสามคน” พวงแก้วบ่นใส่หน้าสองแม่ลูก ก่อนจะเดินไปล้างผักกุยช่าย ผักเสี้ยน และมะเขือขื่น เตรียมทำผักดองคืนนี้ ให้หลังเจ้านาย น้ำขิงจึงย่ำเท้าด้วยความไม่พอใจ “แม่ดูนังนวลมันสิ ทุกวันนี้มันกลัวใครที่ไหน” น้ำขิงทำหน้างอง้ำ “แม่เห็นแล้ว ให้มันทำเก่งไปเถอะ แม่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะอยู่ได้อีกกี่วัน เจอคุณเชษฐ์วีนเข้าหน่อยเดี๋ยวมันก็วิ่งหนีกลับบ้านไปเก็บขยะตามเดิม คนไม่เคยทำงานประจำอย่างมันอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้นานหรอก เชื่อแม่สิ” น้ำอ้อยกล่าวออกมาด้วยความมั่นอกมั่นใจ อีกไม่นานเนื้อนวลจะต้องหิ้วเสื้อผ้าที่มีเพียงไม่กี่ชุดกลับบ้านอย่างแน่นอน เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเนื้อนวลอย่าได้หวังว่าจะได้มาเป็นสาวใช้คนโปรดในบ้านหลังนี้แทนเธอกับลูกได้ ขนาดพวกพลทหารที่ผู้กองมาโนชสรรหามารับใช้ลูกชายยังไม่รอดสักราย ไม่ใช่เพราะฝีมือเธอกับลูกทำ แต่เป็นเพราะนิสัยเอาแต่ใจของอดีตทหารเก่าที่โดนเมียทิ้งอย่างสุรเชษฐ์ต่างหาก ถึงอย่างนั้นถ้าเขาไม่นอนป่วยเป็นผักต้มอยู่แบบนี้น้ำอ้อยคงยุให้ลูกสาวเข้าไปรับใช้แทนเนื้อนวลไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม