ตอนที่ 6 ตามใจเธอ

1183 คำ
ให้ตายเถอะ! ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายสิ้นดี เกิดมาเขายังไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเห็นร่างเขาตอนเปลือยเปล่าแบบนี้มาก่อน เว้นเสียแต่ภรรยาของเขาเพียงคนเดียว เธอช่างเป็นผู้หญิงที่…หน้าด้านเหลือทน มีผู้หญิงคนไหนกันที่อยู่กับชายแปลกหน้าที่นอนเปลือยกายล่อนจ้อนแบบนี้ในห้องสองต่อสองเหมือนเธอบ้าง ถ้าคนอื่นรู้เข้ามีหวังเธอไม่มีทางหาสามีได้แน่ อย่างว่าล่ะนะก็คนไม่ได้เรียนหนังสือก็คงไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร พ่อจ๋า! แม่จ๋า! ช่วยลูกด้วย ผมกำลังโดนแทะโลมทางสายตา สุรเชษฐ์พร่ำบ่นในใจเมื่อคิดว่าสาวใช้คงใช้สายตาจ้องมองเขาไปทั้งตัว มือและผ้าผืนเล็กสัมผัสกายเขาด้วยน้ำหนักที่พอดีไปทุกซอกหลืบของร่างกาย ใบหน้าของเขาเริ่มร้อนผ่าว และดูเหมือนว่ามันจะร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เนื้อนวลทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเพราะเธอคุ้นเคยกับร่างกายของคนป่วยทุกเพศทุกวัยมาเท่าไรแล้ว จะให้เกิดความเขินอายอย่างนั้นหรือ…ไม่มีทาง คนตัวเล็กกว่ามองผู้ชายที่นอนหลับตาปี๋แล้วส่ายหัวไปมา อายุสามสิบสาม เมียหนึ่ง ลูกหนึ่ง แล้วยังจะอายอะไรอีก พ่อคุณเอ๊ย! สุรเซษฐ์ลืมตาขึ้นมาด้วยความเอียงอายเมื่อเนื้อนวลผละมือออกห่าง เขาคิดว่าเนื้อนวลคงเช็ดตัวให้เขาเสร็จแล้ว หายใจคล่องสักที แต่เพียงอึดใจเดียวเธอกลับบอกเขาอีกอย่างเมื่อทั้งคู่สบตากันเต็มสองตา “พลิกตัวนอนคว่ำค่ะ หนึ่ง สอง…” เนื้อนวลนับแล้วจับไหล่และสะโพกข้างซ้ายคนตัวใหญ่ให้พลิกนอนคว่ำหน้าได้อย่างง่ายดาย ผู้หญิงคนนี้เอาแรงมาจากไหน ไหนใคร ๆ บอกว่าเธอป่วยไง แล้วมีแรงมาพลิกร่างคนนอนติดเตียงอย่างเขาได้อย่างไร แม่ของเขาตัวใหญ่กว่าเธอยังทำไม่เคยได้ ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศตกกระทบลงมาที่แก้มก้นของเขาทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบจนเขาเผลอขมิบก้น ไม่บอกก็รู้ว่าเธอคงเห็นร่างกายเขาทุกซอกทุกมุมแล้ว เธอจะเอาไปพูดต่อกับคนอื่นไหมนะ ก้นของเขาไม่ได้ขาวเนียนเท่าไรนัก แถมยังด้านนิด ๆ เพราะเกิดจากรอยแผลกดทับ ถึงกล้ามเนื้อจะยังพอมีอยู่บ้างก็ตามเถอะ ถ้าเธอเอาไปพูดกับคนใช้ด้วยกันพวกเขาคงคุยกันมันปาก เฮ้อ! หมดกัน คนตัวโตแต่ไร้เรี่ยวแรงต่อต้านได้แต่นอนทอดถอนหายใจเมื่อสู้แรงของสาวน้อยคนนี้ไม่ได้ ห้าหกวันก่อนไม่เห็นเธอน่ากลัวเหมือนวันนี้เลยสักนิด วันนี้ทำไมกลับทำราวกับเขาไม่ใช่นายจ้างอย่างไรอย่างนั้น แถมยังทำหน้านิ่งตลอดเวลาอีก เดาทางไม่ออกเลยว่าสาวน้อยหน้ามนคนผิวเข้มคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ แล้วเนื้อนวลคนที่ชอบยืนก้มหน้าเนื้อตัวสั่นเทาเวลาโดนเขาตวาดไล่หายไปไหน เนื้อนวลคนนั้นพูดทีเหมือนคนติดอ่าง แต่คนนี้ทำไมใช้ระบบเผด็จการกับเขาเหมือนกับพวกคอมมิวนิสต์ เช็ดตัวเสร็จก็ทาแป้งให้เขาจนตัวหอม แผลที่โดนแก้วบาดตามตัวเธอก็ทายาให้ เธอเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อเอาชุดมาเปลี่ยนให้เขา ไม่ลืมที่จะหยิบกางเกงผ้าอ้อม และผ้าปูที่นอนผืนใหม่มาด้วย ท่าทางของเธอคล่องแคล่วคล้ายกับพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน หลังจากเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเสร็จเนื้อนวลปรับเตียงนอนขนาดใหญ่ของเขาให้เอนกายในระดับที่สบายตัวมากขึ้นเพื่อป้อนข้าว ถึงแม้เขาจะเป็นอัมพาตครึ่งซีกแต่ก็ดีที่ปากเขาไม่เบี้ยวและยังพูดได้ชัด ช้อนที่ตักข้าวต้มกำลังจ่ออยู่ที่ปาก มือข้างซ้ายของเขาก็ปัดออกโดยเร็ว เพล้ง! ทั้งช้อนทั้งถ้วยข้าวต้มพร้อมใจกันลงไปนอนอยู่ที่พื้นห้องโดยไม่ได้นัดหมาย เนื้อนวลยังวางหน้านิ่งเธอสามารถควบคุมอารมณ์และสีหน้าได้เป็นอย่างดี ก้มลงไปเก็บถ้วยที่แตกกับช้อนใส่ถาด หยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดพื้นก่อน ทุกการกระทำเธอไม่ได้พูดอะไรกับเขาแม้แต่คำเดียว ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน เนื้อนวลถือถาดออกไปจากห้องแล้วกลับเข้ามาพร้อมกับไม้กวาด ที่ตักผง และไม้ถูพื้น กลิ่นห้องนอนของเขาก็ไม่ค่อยต่างจากกลิ่นห้องที่เธอใช้ซุกหัวนอนเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเจ้าตัวเองที่ไม่ยอมให้ใครเข้ามายุ่มย่ามในพื้นที่ส่วนตัวด้วย ห้องนี้จึงทั้งรกและเหม็นอับ “เธอจะทำอะไร” สุรเชษฐ์ถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก การเช็ดตัวทำให้เขาสบายตัวก็จริง แต่เขาก็ไม่อยากให้ใครมาทำอะไรตามใจกับห้องเขาแบบนี้ “ทำความสะอาดห้องไงคะ” เขาก็ถามแปลก หรือเขาดูไม่ออกว่าอุปกรณ์พวกนี้เขาเอาไว้ทำอะไร “ไม่ต้องทำ” “ห้องมันเหม็นค่ะ” “ฉันอยากอยู่แบบนี้” “อยู่แบบนี้เดี๋ยวตายไวค่ะ หรือคุณเชษฐ์อยากตายเร็ว ๆ คะ ถ้างั้นฉันจะได้ไม่ต้องทำ” เนื้อนวลถามออกไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว ก็เธอทำตามหน้าที่สาวใช้ส่วนตัวของเขาแล้วไง ถ้าไม่ดูแลทุกอย่างในส่วนของเขาแล้วจะให้เธอทำอะไร “นี่เธอ…” สุรเชษฐ์พูดไม่ออก ไหนคุณแม่บอกว่าเนื้อนวลเป็นผู้หญิงที่หัวอ่อนและซื่อบื้อไง ทำไมถึงได้มายืนต่อปากต่อคำเขาไม่หยุด หนำซ้ำยังแอบแช่งเขาอีก สุรเชษฐ์มองสาวใช้แรกรุ่นทำความสะอาดห้องของตัวเองด้วยแววตางุนงง สาวน้อยคนนี้ไม่กลัวเขา ไม่สนใจ ไม่ง้อเขาด้วย นี่เธอไม่คิดหรือไงว่าเขาก็หิวข้าวเป็น ปกติที่เขาทำตัวแบบนี้แน่นอนว่าเธอมักจะมีท่าทีลนลานและเซ้าซี้ให้เขากินข้าวเสมอ แต่นี่…เธอกลับทำงานหน้าตาเฉย ไม่เดือดเนื้อร้อนใจว่าเขาจะหิวข้าวสักนิด นี่เขายังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เช้าแล้วนะ เนื้อนวลเก็บกวาดห้องแล้วเดินไปหยุดมองปฏิทินรูปดาราที่แขวนอยู่บนเสาบ้านด้วยแววตาใคร่รู้ เธอลืมไปเลยว่าตัวเองย้อนกลับมาในปีไหน ดวงตาดำขลับไหววูบเมื่อมองเห็นปีพอศอที่พิมพ์ไว้บนแผ่นกระดาษหน้าปฏิทิน ‘สองพันห้าร้อยสี่สิบ’ อืม…อย่างน้อยเธอก็เคยใช้ชีวิตในยุคนี้ผ่านมาแล้วรอบหนึ่ง กลับมาลำบากมาอีกสักครั้งจะเป็นไรไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม